กมอ. ไฟเขียว “เสียงจากยางล้อ” พร้อมผลิตภัณฑ์เหล็ก 4 เรื่อง เป็นมาตรฐานบังคับ

พฤหัส ๒๗ เมษายน ๒๐๑๗ ๑๔:๔๘
สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เผยผลการประชุมคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) ไฟเขียวร่างมาตรฐาน "เสียงจากยางล้อ" พร้อมกับผลิตภัณฑ์เหล็กอีก 4 เรื่อง เป็นมาตรฐานบังคับ ตามที่ สมอ. เสนอ พร้อมให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นายพิสิฐ รังสฤษฎ์วุฒิกุล เลขาธิการ สมอ. เปิดเผยภายหลังการประชุม กมอ. ว่า กมอ. ได้เห็นชอบ ดังนี้

• การวินิจฉัยเพื่อยกเลิกและกำหนดให้ผลิตภัณฑ์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน (มาตรฐานบังคับ)

1. มอก. 1390 เข็มพืดเหล็กกล้ารีดร้อน

2. มอก. 2140 เหล็กกล้ารีดเย็นแผ่นม้วน แผ่นแถบ และแผ่นตัด สำหรับงานรถยนต์

3. มอก. 1999 เหล็กกล้ารีดร้อนแผ่นม้วน แผ่นแถบ แผ่นหนา และแผ่นบาง สำหรับงานโครงสร้างรถยนต์

4. มอก. 2060 เหล็กกล้าคาร์บอนรีดร้อนแผ่นม้วน แผ่นแถบ แผ่นหนา และแผ่นบาง สำหรับงานทั่วไปและงานถังก๊าซ

• กำหนดให้ผลิตภัณฑ์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน (มาตรฐานบังคับ)

มอก. 2721 เสียงจากยางล้อที่สัมผัสผิวถนน การยึดเกาะถนนบนพื้นเปียก และความต้านทานการหมุน

การกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเสียงจากยางล้อที่สัมผัสผิวถนน การยึดเกาะถนนบนพื้นเปียก และความต้านทานการหมุน เป็นมาตรฐานบังคับ เพื่อขานรับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยางพารา โดย สมอ. ได้เร่งรัดดำเนินการกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ทำจากยางพาราเพื่อเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศให้มากขึ้น และเพื่อยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาห-กรรมยางล้อของไทยให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล โดยการกำหนดมาตรฐานฉบับนี้อ้างอิงมาจากมาตรฐาน UN R 117 ตลอดจนคุ้มครองผู้บริโภค ทั้งในด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม เพิ่มสมรรถนะด้านความปลอดภัยและเป็นการประหยัดพลังงานจากการใช้ยางล้อที่มีคุณสมบัติในการยึดเกาะถนนบนพื้นเปียก และความต้านทานการหมุนที่เหมาะสม รวมถึงเสียงจากยางล้อที่เป็นไปตามข้อกำหนดในมาตรฐาน

เลขาธิการ สมอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า การกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ตาม พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ.2511 มีผลทำให้ผู้ทำ ผู้นำเข้า และผู้จำหน่าย จะต้องขออนุญาตจาก สมอ. ก่อนทำ และนำเข้ามาจำหน่ายในราชอาณาจักร เพื่อให้ประชาชนซึ่งเป็นผู้ใช้ปลายทางได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน มีความปลอดภัยต่อการใช้งาน โดยมีบทลงโทษร้านจำหน่ายที่ขายสินค้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานจะต้องจำคุก 1 เดือน ปรับตั้งแต่ 5,000 บาท ถึง 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้น ร้านจำหน่ายสินค้ากลุ่มนี้ จะต้องขายสินค้าที่ถูกต้องตามกฎหมายและแสดงเครื่องหมายมาตรฐาน มอก. เท่านั้น

สำหรับผลการประชุม กมอ. ในครั้งนี้ นอกจากจะเห็นชอบการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมจำนวน 5 ผลิตภัณฑ์ เป็นมาตรฐานบังคับแล้ว ยังได้เห็นชอบร่างมาตรฐานตามกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายจำนวน 34 เรื่อง ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ จำนวน 8 เรื่อง อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 6 เรื่อง อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ จำนวน 8 เรื่อง อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร จำนวน 6 เรื่อง และอุตสาหกรรมอื่นๆ จำนวน 6 เรื่อง โดย สมอ. จะประกาศใช้ในลำดับต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๐ เม.ย. มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตอกย้ำปณิธาน สร้างชีวิต มอบเครื่องเล่นสนาม อุปกรณ์ครุภัณฑ์ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคแก่เด็กนักเรียนในส่วนภูมิภาค ณ โรงเรียนวัดนาร่อง อ.เมือง
๓๐ เม.ย. เฮงลิสซิ่ง จับมือ วิริยะประกันภัย เสนอ ประกันภัยอุ่นใจ ทางเลือกใหม่สำหรับประกันภัยคุ้มครองบ้าน
๓๐ เม.ย. ม.วลัยลักษณ์-สมาคมกีฬาตะกร้ออาวุโส-สมาคมกีฬา จ.นครศรีฯ เอ็มโอยูเตรียมระเบิดศึกตะกร้อเยาวชนฮอนด้า ยูเนี่ยน
๓๐ เม.ย. หลักสูตรการประยุกต์ใช้ NODE-RED ในงานอุตสาหกรรม เชื่อมต่อ CLOUD PLATFORM NEXIIOT
๓๐ เม.ย. ม.วลัยลักษณ์ คว้า 2 รางวัลระดับโลก 3G Award 2024
๓๐ เม.ย. YouTrip เปิดอินไซต์ช่วงหยุดยาวคนไทยแห่เที่ยว ญี่ปุ่น-จีน ยอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 150%
๓๐ เม.ย. คณะการท่องเที่ยวฯ DPU ให้ความสำคัญต่องานบริการ จัด HT Makeup Competition 2024 เพิ่มทักษะแต่งหน้าให้กับ นศ.
๓๐ เม.ย. กิจกรรมดี ๆ สำหรับเยาวชนหญิงที่หลงใหลศิลปะการทำอาหาร ในโครงการ Women for Women (WFM) Internship Program ร่วมฝึกงานในร้านอาหารโพทง
๓๐ เม.ย. ผู้ถือหุ้น CIVIL โหวตอนุมัติ จ่ายปันผล 0.012 บาท/หุ้น ทิศทางธุรกิจปี 67 เติบโตต่อเนื่อง
๓๐ เม.ย. PRM จัดประชุม E-AGM ปี 67 อนุมัติจ่ายปันผล 0.26บ./หุ้น