ประชารัฐชุดส่งเสริม SMEs Start up และ Social Enterprise ยกร่างกรอบการส่งเสริมและพัฒนา SME ปี 2560

ศุกร์ ๐๕ พฤษภาคม ๒๐๑๗ ๑๑:๕๕
โดยความร่วมมือของหน่วยงานพันธมิตรกว่า 60 หน่วยงานและเตรียมจัดงาน ASEAN SME Shift Up 2017 : CONNECTION

คณะทำงานประชารัฐชุดส่งเสริม SMEs Startup และ Social Enterprise สรุปผลการดำเนินงานปี 2559 และวางกรอบความร่วมมือการส่งเสริมและพัฒนา SME ปี 2560 มุ่งให้ความช่วยเหลือในระดับจังหวัด พร้อมชูการสร้างเครือข่าย SMEs ในประเทศอาเซียน

คณะทำงานประชารัฐชุดส่งเสริม SMEs Startup และ Social Enterprise ภายใต้คณะกรรมการสานพลังประชารัฐ ซึ่งมีเครือข่ายพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนกว่า 67 หน่วยงาน ประชุมเพื่อสรุปกิจกรรมที่ดำเนินงานในปี 2559 และวางแผนงานปี 2560 ซึ่งปีที่ผ่านมาทางคณะทำงานได้ดำเนินกิจกรรมไป 3 เรื่อง คือ

กลุ่ม SME Traditional โครงการพี่ช่วยน้อง (Big Brother) อาทิ SME Expo : Spring Up Thailand, โครงการ SME Marketplace ไทยช่วยไทยบายประชารัฐ, โครงการ Big Brother 50, โครงการ SME Matching day และ SME Think Big และโครงการสินเชื่อประชารัฐวงเงิน 10,000 ล้านบาท ซึ่งมี SME ได้รับคำปรึกษาถึง 50,000 ราย มี SMEs เข้าร่วม 500 ราย เกิดมูลค่าซื้อขายทันทีประมาณ 60 ล้านบาท จับคู่ธุรกิจ 156 บริษัท และเพิ่มรายได้ 100 ล้านบาท ให้กับ SME 57 ราย

กลุ่ม Start Up / Innovation Driven Enterprise(IDE) การจัดทำโครงการ STARTUP RUNWAY และ Ecosystem & Platform for Startup

Social Enterprise (SE) 1) ดำเนินการจัดตั้งบริษัทเพื่อสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคม (SE for SEs) 2) โครงการ SE FAST TRACK Pilot Projects สนับสนุน SE 2.0 จำนวน 4 ราย ด้าน Education ได้แก่ Learn Education, ด้าน Agriculture ได้แก่ Thai Biomass, Jasberry, ด้าน Aging Society ได้แก่ Anantarak Health Training

ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมและสอดคล้องกับการปรับคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมา ในปี 2560 จึงมีการปรับเปลี่ยนหัวหน้าทีมภาครัฐและเอกชนในคณะกรรมการสานพลังประชารัฐชุด D2 เป็นหัวหน้าภาครัฐ เป็น ดร.อุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม และหัวหน้าภาคเอกชนเป็นนายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและ นายกลินท์ สารสิน ประธานหอการค้าไทยและ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

ในการประชุมได้มีการวางกรอบการส่งเสริมและพัฒนา SMEs ปี 2560 ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณามาตรการช่วยเหลือ SMEs อย่างครบวงจรในทุกมิติ ทั้งในด้านการช่วยเหลือทางการเงิน และการพัฒนาด้านอื่นๆ เช่น การเพิ่มผลิตภาพ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาด เป็นต้น โดยมีการติดตามความคืบหน้าการปล่อยสินเชื่อจากกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ 20,000 ล้านบาท และ สินเชื่อ SME Transformation Loan 15,000ล้านบาท

โดยในส่วนของ กองทุน 20,000 ล้านบาท ได้ทำหลักเกณฑ์และระบบต่างๆ เรียบร้อยแล้ว จะเริ่มปล่อยกู้ได้ในช่วงปลาย พ.ค. โดยจะมีกิจกรรมสัญจรเพื่อชี้แจงโครงการในต่างจังหวัดจำนวน 8 ครั้งด้วย คาดว่าจะช่วยเหลือ SMEs รายที่มีศักยภาพได้กว่า 5,000 ราย สำหรับสินเชื่อ SME Transformation Loan 15,000 ล้านบาท คาดว่าจะช่วยเหลือ SMEs ได้อีก 3,000 ราย

นอกจานี้ ยังได้มีการพิจารณาการช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยขนาดเล็กมาก (Micro) ที่เป็นผู้ประกอบการายเดียวมีการจ้างงานไม่เกิน 5 คน โดยจะใช้งบประมาณจากกองทุนฟื้นฟูเอสเอ็มอีของ สสว. วงเงิน 2,000 ล้านบาท มาให้กู้ยืมแก่ Micro SME และวิสาหกิจชุมชน วงเงินรวม 500 ล้านบาท รายละไม่เกิน 2 แสนบาท ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนผู้รับประโยชน์ไม่ต่ำกว่า 2,500 ราย นอกจากนี้ ยังมี โครงการยกระดับมาตรฐานสินค้าของ Micro SME และวิสาหกิจชุมชน ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดวงเงิน 100 ล้านบาท คาดว่าจะเข้าถึง Micro SMEs และวิสาหกิจชุมชนได้ ไม่ต่ำกว่า 10,000 รายด้วย

นอกจากนี้ยังมีแนวการสร้างเครือข่ายและความร่วมมือของ SME ในภูมิภาคอาเซียน เป็นอีกหนึ่งในเป้าหมายในการยกระดับ SMEs ดังนั้นคณะทำงานสานพลังประชารัฐชุดนี้ จึงมีแผนการจัดงาน ASEAN SME Shift Up 2017 : CONNECTION ขึ้นในปลายเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อยกระดับความรู้ ความสามารถ และสร้างโอกาส SMEs ในภูมิภาคอาเซียนและสร้างเครือข่ายความเข้มแข็งและความร่วมมือในภูมิภาคอาเซียนเพื่อสู้กับการแข่งขันในตลาดโลก กลุ่มเป้าหมายที่คาดว่าจะได้ประโยชน์ในการจัดงานครั้งนี้ประมาณ 20 ล้านคน โดยในงานจะมี 4 กิจกรรม คือ 1) การจัดประชุม (Symposium) เป็นการรวมตัววิทยากร/ผู้ชำนาญการจากทั่วโลกเพื่อแชร์ประสบการณ์ จัดBroadcast Live งานสัมมนาไปตามภูมิภาคต่างๆ ในประเทศไทย ร่วมมือกับสื่อชั้นนำในประเทศโดยผ่านสื่อช่องทางต่าง ๆ 2) การตลาดยุคใหม่ (Digital Marketing) เป็นการรวมตัวของผู้ชำนาญการในด้าน Digital Marketing, Digital Commerce, e-Commerce เวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ข้อมูล รวมถึงการค้าขายผ่านช่องทางต่างๆระหว่างประเทศ 3) งานแสดงสินค้า (Exhibition) จัดแสดงสินค้าที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ รวมถึงเทรนด์ใหม่ล่าสุดโดยเน้น กลุ่มอุตสาหกรรมด้าน CREATIVE อาทิ แฟชั่น สปา สินค้าตกแต่ง 4) กิจกรรมการแลกเปลี่ยนความรู้ CLMV (CLMV Knowledge Exchange)

ผลที่จะได้รับ

เกิดการเชื่อมโยง SMEs ในภูมิภาคอาเซียน โดยใช้กลุ่ม CLMV ขับเคลื่อนและผลักดันสู่เวทีโลก

เกิดการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาและต่อยอดไปเป็น Smart SMEs / Smart Startup

ขับเคลื่อน SMEs ด้วยเทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้างมูลค่าการค้าการลงทุน

เมื่อการต่อยอดและพัฒนามีประสิทธิภาพ จะก่อให้เกิดการลงทุนได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนได้อย่างเป็นรูปธรรม

สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายเลขานุการคณะทำงานสานพลังประชารัฐชุดส่งเสริม SMEs สถาบัน SMI สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 02-345-1059

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4