นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการเฝ้าติดตามสถานการณ์และปฏิบัติภารกิจในบริเวณพื้นที่ที่กำลังประสบปัญหาและพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อให้ประชาชนและเกษตรกรมีน้ำใช้การเพียงพอต่อการอุปโภค บริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร โดยจากการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2560 ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ มีเป้าหมายการปฏิบัติภารกิจบริเวณพื้นที่การเกษตรของจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดลำพูน และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนภูมิพล พบว่าปฏิบัติภารกิจ 4 เที่ยวบิน เครื่อง CASA 1531 ที่ระดับ 9,000/9,500 ฟุต สารฝนหลวง จำนวน 2,000 กิโลกรัม ทำให้มีฝนตกเล็กน้อยบริเวณอำเภอจอมทอง อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอทุ่งหัวช้าง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนภูมิพล ตามเป้าหมาย และมีแผนการปฏิบัติการวันที่ 12 พฤษภาคม 2560 พื้นที่เป้าหมายหวังผล พื้นที่การเกษตร จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดลำพูน และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนภูมิพล เครื่อง CASA สารฝนหลวง จำนวน 2,000 กิโลกรัม ที่ระดับ 9,500/8,500 ฟุต และในส่วนของหน่วยปฏิบัติการอื่นๆ ยังคงปฏิบัติภารกิจช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องเมื่อสภาพอากาศเอื้ออำนวย เพื่อสร้างความชุมชื้นแก่พื้นที่ทางการเกษตรและเติมน้ำให้เขื่อนอย่างเต็มที่และตรงเป้าหมาย
สำหรับภาพรวมการปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่เริ่มตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง เมื่อวันที่ 3 มีนาคม – 11 พฤษภาคม 2560 มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 67 วัน มีวันฝนตกจากการปฏิบัติการฝนหลวงคิดเป็นร้อยละ 98 ขึ้นปฏิบัติงานจำนวน 1284 เที่ยวบิน ปริมาณการใช้สารฝนหลวง 1114.00 ตัน พลุซิลเวอร์ไอโอไดด์สำหรับภารกิจปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 404 นัด และภารกิจปฏิบัติการยับยั้งความรุนแรงพายุลูกเห็บ จำนวน 1125 นัด จังหวัดที่มีรายงานฝนตกรวม 55 จังหวัด และทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างสะสมรวม 231.25 ล้าน ลบ.ม. ทั้งนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่องได้ที่ เพจ Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร หรือเว็บไซต์กรมฝนหลวงและการบินเกษตร