กรมการค้าต่างประเทศ เผย WTO ยอมรับมาตรการ Safeguard มั่นใจ พิจารณารอบคอบก่อนประกาศใช้ พร้อมรักษาผลประโยชน์ทุกฝ่าย

ศุกร์ ๑๙ พฤษภาคม ๒๐๑๗ ๑๕:๔๔
กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ย้ำมาตรการ Safeguard เป็นมาตรการสากลที่ WTO ให้การยอมรับ มั่นใจมีการพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนประกาศใช้กับเหล็ก H-Beam เจืออัลลอย โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย

จากกรณีที่มีการนำเข้าเหล็ก H-Beam เจืออัลลอยเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ ซึ่งส่งผลกระทบให้ภาครัฐต้องสูญเสียรายได้จากการเก็บภาษีเป็นจำนวนมาก เพราะการนำเข้านั้นมีลักษณะเลี่ยงภาษี ขณะเดียวกันยังเกิดความเสียหายกับอุตสาหกรรมภายในประเทศที่ต้องสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน และยังส่งผลถึงชีวิตและทรัพย์สินของผู้บริโภคซึ่งหลายคนไม่ทราบว่าเหล็ก H-Beam เจืออัลลอยนั้นอยู่นอกมาตรฐาน มอก.1227-2558 ความเสียหายดังกล่าวทำให้ภาครัฐต้องประกาศใช้มาตรการ Safeguard เพื่อปกป้องการนำเข้าเหล็ก H-Beam เจืออัลลอย ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา

นายวันชัย วราวิทย์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า มาตรการ Safeguard เป็นมาตรการที่องค์การการค้าโลก หรือ WTO ยอมรับให้ประเทศที่เปิดการค้าเสรีและมีการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้นสามารถออกมาตรการปกป้องการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นได้ ซึ่งกฎการใช้มาตรการข้อแรกคือจะต้องมีการนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นมาก สองคือสินค้าที่นำเข้านั้นเข้ามาด้วยเหตุที่ไม่คาดเดามาก่อน สามคือการนำเข้านั้นจะทำให้อุตสาหกรรมภายในได้รับความเสียหาย ซึ่งการใช้มาตรการ Safeguard จะมีเงื่อนไขว่าอุตสาหกรรมภายในจะต้องมีแผนการปรับตัวด้วย เพราะ Safeguard เป็นมาตรการะยะสั้น เช่น 3 ปี หรือ 6 ปี วัตถุประสงค์ก็เพื่อวางกำแพงล้อมรั้วให้กับประเทศชั่วคราวเพื่อให้อุตสาหกรรมภายในของเราแข็งแกร่ง หากปรับตัวได้แล้วก็จะเอากำแพงนี้ออกแล้วเป็นการค้าเสรีต่อไป

นายวันชัย ยังได้กล่าวถึงขั้นตอนการพิจารณาที่รอบคอบก่อนจะประกาศใช้มาตรการ Safeguard ว่า ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น สิ่งแรกที่ต้องทำคือแสดงหลักฐานว่ามีการนำเข้าเพิ่มขึ้นจริง ต้องดูด้วยว่าการนำเข้านั้นเกิดจากสาเหตุใด อาจเป็นสาเหตุจากการคาดเดาไม่ได้ เช่น ประเทศต่างๆ ใช้มาตรการกันมาก สินค้าเลยทะลักเข้ามา ขณะเดียวกันก็ต้องแจ้งมาว่าตนเองเสียหายอย่างไร และเสนอแผนการปรับตัวมาด้วย

"กระบวนการไต่สวนจะใช้เวลา 1 ปี โดยคำนึงถึงผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียซึ่งถือว่าเป็นประเด็นสำคัญมากเพราะการใช้มาตรการ Safeguard เป็นการปกป้องล้อมรั้วแต่เป็นการล้อมรั้วที่คำนึงถึงประโยชน์ของสาธารณะ ทั้งผู้ใช้ ผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ที่มีความจำเป็นต้องใช้สินค้านั้น เพื่อลดผลกระทบกับให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น เราจะดูว่าอุตสาหกรรมภายในสามารถผลิตสินค้านั้นได้หรือไม่ ถ้าผลิตไม่ได้ก็ต้องมีการยกเว้นให้สามารถนำสินค้าที่ใช้มาตรการปกป้องเข้ามาจำหน่ายได้ เป็นต้น" นายวันชัย กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4