Young Thai Artist Award 2017 โดย มูลนิธิเอสซีจี เวทีแจ้งเกิดคนมีศิลป์ สร้างยุวศิลปินไทยสู่เวทีโลก

ศุกร์ ๑๙ พฤษภาคม ๒๐๑๗ ๑๔:๓๓
ศิลปะ ถือเป็นภาษาสากลที่สร้างความสุนทรีย์และเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญที่เข้าถึงจิตใจของมนุษย์ได้ดีที่สุดอย่างหนึ่ง แต่กว่าศิลปินรุ่นใหม่สักคนจะได้รับการยอมรับไม่ใช่เรื่องง่าย "มูลนิธิเอสซีจี" จึงจัดโครงการ "รางวัลยุวศิลปินไทย" หรือ "Young Thai Artist Award" เวทีการประกวดศิลปะระดับเยาวชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มาตั้งแต่ปี 2547 หวังเป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำคัญที่เปิดโอกาสให้เยาวชนผู้รักงานศิลป์จากทั่วประเทศ ได้ส่งผลงานสร้างสรรค์เข้าประชันเชิงชั้นด้านศิลปะ ถือได้ว่าเป็นเวทีที่สร้างศิลปินเลือดใหม่ในการรังสรรรค์ผลงานศิลปะเพื่อจรรโลงสังคม ซึ่งการันตีด้วยการจัดการประกวดอย่างมีคุณภาพและได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่องมากว่าหนึ่งทศวรรษ

"เชื่อมั่นในคุณค่าของคน คืออุดมการณ์ที่มูลนิธิเอสซีจียึดถือมาโดยตลอด มูลนิธิฯ จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากร 'คน' โดยเน้นที่เด็กและเยาวชน ไม่เพียงเท่านี้ มูลนิธิฯ ยังตระหนักเสมอมาว่าเยาวชนแต่ละคนนั้นมีความสามารถที่แตกต่างกัน ควรได้รับการสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาศักยภาพของตนได้อย่างเต็มกำลัง เช่นเดียวกับความสามารถด้านศิลปะ จึงได้ริเริ่มโครงการ "รางวัลยุวศิลปินไทย" เพื่อให้เวทีแห่งนี้เป็นโอกาสสานฝันให้เยาวชนผู้รักงานศิลป์จากทั่วประเทศได้ส่งผลงานด้านศิลปะเข้าร่วมประกวดถึง 6 สาขาได้แก่ สาขาศิลปะ 2 มิติ ศิลปะ 3 มิติ ภาพถ่าย ภาพยนตร์ วรรณกรรม และการประพันธ์ดนตรี ถือเป็นเวทีเจียระไนเพชรน้ำงาม สร้างศิลปินรุ่นเยาว์ให้เติบโตบนเส้นทางศิลปะ และเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาศักยภาพวงการศิลปะไทยให้ก้าวไปสู่การยอมรับในระดับสากล" สุวิมล จิวาลักษณ์ กรรมการและผู้จัดการมูลนิธิเอสซีจี กล่าว

ตลอดระยะกว่า 12 ปี เวทีแห่งนี้ได้จุดประกายสานฝันสร้างศิลปินรุ่นเยาว์ให้เติบโตบนเส้นทางศิลปะสู่การเป็นศิลปินอาชีพ เปรียบเสมือนเพชรเม็ดงามที่ได้รับการเจียระไนจนเปล่งประกายเจิดจรัสในแวดวงศิลปะ ซึ่งไม่ใช่แค่เวทีในเมืองไทย แต่พวกเขายังก้าวไกลไปเป็นศิลปินในเวทีโลกมากมายอย่าง ส้ม- ปุญญิศา ศิลปรัศมี ศิลปินสาวเลือดใหม่ที่ได้รับเลือกเป็นศิลปินพำนักที่ Fukuoka Asian Art Museum ประเทศญี่ปุ่น ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการเป็นยุวศิลปินและบอกเล่าความสำเร็จจากเวทีนี้ว่า "เริ่มสนใจศิลปะตั้งแต่ช่วงมัธยมศึกษาตอนปลาย รู้สึกว่าการวาดรูปเป็นเรื่องจริงจังมากกว่าการวาดเล่น พอเข้ามหาวิทยาลัยจึงเลือกเรียนสาขาวิชาประติมากรรม ทำให้ค้นพบความสามารถของตนเองที่ถูกซ่อนไว้ จึงตัดสินใจมองหาเวทีประกวดด้านศิลปะที่จะพิสูจน์ความสามารถของตนเอง"

โครงการรางวัลยุวศิลปินไทยเป็นเวทีแรกที่ส้มสนใจ เพราะมีความหลากหลายของสาขา อีกทั้งผลงานที่ร่วมประกวดยังส่งมาจากทั่วประเทศ และเป็นคนในวัยเดียวกัน ซึ่งส้มก็สามารถคว้า "รางวัลยอดเยี่ยม สาขาศิลปะ 3 มิติ ประจำปี 2557" มาได้ สร้างความภาคภูมิใจให้กับตนเองเป็นอย่างมากที่ได้รับรางวัลจากเวทีที่ใฝ่ฝันมาตลอด นอกจากเงินรางวัลที่ช่วยให้ส้มมีทุนทำผลงานศิลปะต่อแล้ว โครงการฯ ยังพาไปทัศนศึกษาชมผลงานศิลปะระดับโลกที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ พร้อมกับเพื่อนๆ และคณาจารย์ จึงเป็นทริปที่ได้ทั้งความรู้ ประสบการณ์ และมิตรภาพ นอกจากนี้ ส้มยังมีประสบการณ์การไปแสดงผลงานที่ต่างประเทศ ทั้งที่สหรัฐอเมริกาหนึ่งครั้ง และที่ญี่ปุ่นสองครั้ง ล่าสุดส้มได้รับเกียรติไปเป็นศิลปินพำนักที่ Fukuoka Asian Art Museum โดยได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิเอสซีจีในเรื่องการเดินทาง

"การไปครั้งนี้ไม่ใช่แค่ทำงานเพื่อแสดงอย่างเดียว แต่เราต้องทำเวิร์คช็อปร่วมกับคนญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีในการได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านศิลปะในเวทีสากลเพื่อนำกลับมาพัฒนาวงการศิลปะบ้านเราได้เป็นอย่างดี" ปุญญิศา กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ

ด้าน ม้า-ภูริธิป สุริยภัทรพันธ์ ศิลปินหนุ่มหน้าใหม่ที่ได้รับทุนในการเป็นศิลปินพำนักที่ The Lithography workshop STEINDRUCK MUNICH : Münchner Künstlerhaus ประเทศเยอรมนี ได้เล่าถึงประสบการณ์การทำงานศิลปะและการร่วมประกวดในเวทีนี้ว่า "ตั้งแต่จำความได้ผมก็คลุกคลีกับการวาดรูป ชอบวาดรูปอยู่เสมอ ผมคิดว่าศิลปะนี่แหละเป็นสิ่งที่ผมชอบและน่าจะทำได้ดีที่สุด แล้วผมก็เริ่มทดลองเรียนศิลปะในแขนงต่างๆ สุดท้ายจึงเลือกเรียนในสาย Fine Art ที่เข้ากับตัวเองมากที่สุด สำหรับเวทีการประกวดก็เช่นกัน ผมเลือกจะพิสูจน์ฝีมือตนเองกับโครงการ "รางวัลยุวศิลปินไทย" เวทีที่เหมาะสมสำหรับนักเรียนศิลปะที่เพิ่งเริ่มต้นอย่างผมในตอนนั้น เพราะเป็นพื้นที่ที่สามารถแสดงออกถึงผลงานศิลปะในแนวทางของตัวเองให้ผู้คนได้เห็นบนเวทีระดับประเทศ ซึ่งผมก็ประสบความสำเร็จได้รับ "รางวัลยอดเยี่ยม ศิลปะ 2 มิติ ประจำปี 2557" ถือเป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจที่ผลงานศิลปะที่แสดงความรู้สึกและความคิดของเราได้เป็นที่ยอมรับจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ"

หลังจากได้รับรางวัลแล้ว ผลงานของภูริธิปก็ได้รับการยอมรับมากขึ้น เขาจึงมีความมั่นใจในการพัฒนาผลงานในแนวทางของตนเอง และส่งผลงานไปประกวดและร่วมแสดงในต่างประเทศ อาทิ ไต้หวัน จีน โปแลนด์ อเมริกา ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เวียดนาม และเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เขาก็ได้รับเลือกให้เป็นศิลปินพำนักที่ The Lithography workshop STEINDRUCK MUNICH : Münchner Künstlerhaus ในมิวนิค ประเทศเยอรมนี เพื่อศึกษาวิธีการสร้างภาพพิมพ์หิน (Lithograph) จากสตูดิโอภาพพิมพ์ที่เก่าแก่กว่า 100 ปีและเป็นที่ยอมรับในระดับโลก

"ต้องขอขอบคุณมูลนิธิเอสซีจีที่นอกจากจะมอบรางวัลแล้ว ยังให้โอกาสสนับสนุนต่อยอดให้ผมได้เดินทางไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาฝีมือเพื่อยกระดับความสามารถทางด้านศิลปะให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยหลังจากที่กลับมา ผมก็ได้นำประสบการณ์ที่ได้มาสาธิต ส่งต่อความรู้ให้กับน้องๆ นักศึกษาศิลปะที่สนใจ และประมาณช่วงกลางปีนี้ผมจะเดินทางไปแสดงผลงานเดี่ยวที่ประเทศอินโดนีเซียอีกด้วย" ภูริธิป กล่าว

และในปีนี้ก็กลับมาอีกครั้งสำหรับโครงการ "ยุวศิลปินไทย" ปีที่ 13 ที่เปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงฝีมือและศักยภาพทางด้านศิลปะในการสร้างสรรค์ผลงาน ปุญญิศา รุ่นพี่ที่แจ้งเกิดจากเวทีนี้ จึงขอร่วมชักชวนน้องๆ ให้ส่งผลงานเข้าประกวด "อยากให้น้องๆ ที่มีความตั้งใจลองส่งผลงานเข้ามาดูค่ะ เพราะเวทีนี้ไม่ใช่การแข่งขัน แต่เป็นการเปิดเผยตัวตนและความสามารถของเราให้สังคมได้รับรู้ พี่เชื่อว่าผลลัพธ์ที่ดีต้องเกิดจากความตั้งใจ และเวทีนี้จะทำให้น้องๆ สามารถก้าวเดินต่อไปบนเส้นทางศิลปะได้อย่างภาคภูมิใจแน่นอน พี่รับประกันค่ะ"

ด้าน ภูริธิป ได้กล่าวเสริมอย่างน่าสนใจว่า "ฝากถึงน้องๆ ไม่ว่าจะเป็นใคร ผลงานเป็นอย่างไร อย่าไปกลัว อยากให้ลองส่งผลงานมาร่วมประกวดกัน เพราะน้องๆ ต้องได้บางสิ่งบางอย่างที่มีคุณค่ากลับไปแน่นอน หน้าที่สำคัญที่สุดของผลงานศิลปะคือการแสดงให้ผู้ชมได้เห็น ได้สัมผัสรับรู้ เพราะฉะนั้นอย่าเก็บผลงานไว้เฉยๆ ครับ ให้ผลงานได้ทำหน้าที่ของมันอย่างเต็มที่ ลองดู อย่างไรก็คุ้มค่าแน่นอนครับ"

สุวิมล จิวาลักษณ์ กรรมการและผู้จัดการมูลนิธิเอสซีจี กล่าวทิ้งทายชักชวนเยาวชนไทยหัวใจศิลป์ให้ส่งผลงานเข้าประกวดในปีนี้ว่า "เชิญชวนน้องๆ มาร่วมส่งผลงานเข้าประกวดโครงการ Young Thai Artist Award ชิงถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในปีนี้ โดยนอกจากยุวศิลปินผู้ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมในแต่ละสาขาจะได้รับเงินรางวัล 150,000 บาท แล้ว ยังมีโอกาสได้เดินทางไปทัศนศึกษาต่างประเทศเพื่อสัมผัสศิลปะระดับโลก เพิ่มพูนทักษะความรู้ทางศิลปะ สร้างแรงบันดาลใจในการรังสรรค์ผลงานศิลปะต่อไปในอนาคต และสำหรับผู้ได้รับรางวัลดีเด่นในแต่ละสาขา จะได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท จึงถือเป็นเวทีที่คนรักศิลปะไม่ควรพลาด"

น้องๆ เยาวชนที่สนใจ สามารถส่งผลงานเข้าร่วมประกวดได้ตั้งแต่วันนี้ – กรกฎาคม 2560 (วัน เวลา และสถานที่ ตามที่แต่ละสาขากำหนด) โดยสามารถดูเงื่อนไขเพิ่มเติมและดาวน์โหลดใบสมัครได้ทาง www.scgfoundation.org หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมคลิก www.facebook.com/YoungThaiArtistAward และ โทร. 02-586-2042

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4