ภายในงาน วิทยากรได้ย้ำว่า "TFRS for SMEs สำหรับ NPAEs ที่ไม่ซับซ้อนนั้น เป็นร่างทรงของ TFRS for NPAEs เดิม" และเมื่อมีผลบังคับใช้ในปี 2561 ก็ยังไม่มีผลกระทบอย่างใดต่อกิจการ ถึงในปี 2562 ที่ต้องทำงบกระแสเงินสดเพิ่มเติม ก็ไม่ได้บังคับให้จัดทำงบกระแสเงินสดของปีก่อนเปรียบเทียบย้อนหลัง นอกจากนั้นงบกระแสเงินสดก็เป็นประโยชน์แก่เจ้าของกิจการในการทราบถึงกระแสเงินสดรับและจ่าย อีกทั้งสถาบันการเงินก็ยังสามารถใช้งบกระแสเงินสดนั้นในการพิจารณาให้สินเชื่อแก่กิจการได้ สภาวิชาชีพบัญชีจะจัดหลักสูตร "การจัดทำงบกระแสเงินสด" อย่างต่อเนื่องในปีนี้ นอกจากนั้น สภาฯยังได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่ายในการจัดทำโปรแกรมสำหรับการจัดทำงบกระแสเงินสดในรูปแบบ Excel และโปรแกรมบัญชีสำเร็จรูป ซึ่งโปรแกรมดังกล่าวจะช่วยให้กิจการ NPAEs ที่ไม่ซับซ้อนจัดทำงบกระแสเงินสดได้ง่ายขึ้น รวมถึงช่วยลดภาระและลดต้นทุนในการจัดทำบัญชีลงได้
สำหรับกิจการ NPAEs ที่ซับซ้อน สภาวิชาชีพบัญชีได้ผ่อนผันให้จัดทำงบการเงินรวมในปี 2565 เป็นต้นไป เพื่อให้กิจการ NPAEs ที่ซับซ้อน ได้เตรียมความพร้อมและเตรียมข้อมูล ซึ่งการจัดทำงบการเงินรวมจะเป็นประโยชน์ต่อเจ้าของกิจการ และเป็นประโยชน์ต่อสถาบันการเงินในการทราบถึงฐานะการเงินรวม ผลการดำเนินงานรวม และกระแสเงินสดรวมของกลุ่มกิจการ ส่วนเรื่องของการคำนวณผลประโยชน์พนักงาน สภาวิชาชีพบัญชีมีแผนที่จะจัดทำโปรแกรมสำเร็จรูปอย่างง่ายในรูปแบบ Excel ให้แก่กิจการ NPAEs นำไปใช้อีกเช่นกัน
สภาวิชาชีพบัญชีขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ต้องกังวลใจว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะสร้างภาระแก่ท่าน และขอยืนยันว่า ในปี 2561 กิจการ NPAEs ที่ไม่ซับซ้อนยังคงทำบัญชีเหมือนเดิม และมีทางเลือกสำหรับมูลค่ายุติธรรมที่เป็นประโยชน์ต่อกิจการอีกด้วย