กิจกรรม "อาชีวะฝีมือชน ค้นหาอาชีพที่ใช่" ในโครงการ "อาชีวะฝีมือชน คนสร้างชาติ" โดยมูลนิธิเอสซีจี เห็นความสำคัญของการสร้างแรงบันดาลใจ จึงเปิดโอกาสให้นักเรียนทุนอาชีวะฝีมือชน คนสร้างชาติ ที่กำลังขึ้นชั้น ปวช.3 ซึ่งเป็นช่วงวัยที่ต้องวางแผนกำหนดเป้าหมายอนาคตของตนเองในหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น การเตรียมศึกษาต่อ เตรียมฝึกงาน หรือบางคนอาจจะเตรียมเข้าสู่โลกของการทำงาน ได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองความคิดกับฝีมือชนคนต้นแบบ ผู้ประสบความสำเร็จในอาชีพต่างๆ เพื่อจุดประกายความคิด สร้างแรงบันดาลใจในการเรียนและการทำงาน
สุวิมล จิวาลักษณ์ กรรมการและผู้จัดการมูลนิธิเอสซีจี กล่าวว่า "เด็กอาชีวะทุกคนต่างก็มีทักษะความสามารถเป็นของตนเอง เพียงแต่บางครั้งพวกเขาอาจยังขาดแรงบันดาลใจ เนื่องจากยังมองไม่ชัดว่าการเรียนทั้งหมดนี้จะมีผลต่ออนาคตของพวกเขาอย่างไรบ้าง การที่ได้รุ่นพี่ที่มีประสบการณ์การเรียนอาชีวะมาก่อน ซึ่งปัจจุบันต่างก็ประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน มาช่วยชี้แนะแนวทางก็จะช่วยให้พวกเขาได้ขยายกรอบความรู้เรื่องอนาคตของตนเอง เข้าใจคุณค่าและความสามารถของตน เสริมความมั่นใจในการเลือกเส้นทางชีวิตและพัฒนาต่อยอดความสามารถของตนนำไปสู่ความยั่งยืนในสายงานอาชีพต่อไป" สุวิมล กล่าว
"หากรู้ตัวว่าชอบอะไร รักอะไร ให้ลงมือทำทันที อย่าปล่อยให้ความชอบของตนเองสูญเปล่า" เป็นประโยคที่ อารย จารุธาณินทร์ หรือ วิว รุ่นพี่อาชีวะและเป็นเจ้าของร้านสเต็กที่สร้างรายได้หลักแสนต่อเดือน บอกเล่าถึงสิ่งที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จด้วยวัยเพียง 24 ปี
"สำหรับน้องๆ ที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองอยากทำอะไร ให้ลองสังเกตดูครับ ว่ามีสิ่งไหนบ้างที่เรามักทำเป็นประจำ ให้เวลา ให้คุณค่ากับมัน แล้วลองนำมาคิดว่าจะสามารถต่อยอดไปทางไหนได้บ้าง อย่างตัวผม ที่บ้านทำธุรกิจร้านอาหาร ได้คลุกคลีอยู่กับการทำอาหาร เกิดเป็นความชอบ เลยต่อยอดเรียนต่อสายอาชีวะสาขาอาหารและโภชนาการ เรียนรู้ฝึกปฏิบัติจนมีทักษะ และคิดว่าน่าจะนำทักษะที่มีไปสร้างรายได้ระหว่างเรียนได้ จึงเริ่มเปิดร้านสเต็กเล็กๆ ตอนอยู่ปวช. 3 และพัฒนาฝีมือมาเรื่อยๆ พอเรียนจบ ผมก็ยึดเป็นอาชีพหาเลี้ยงตัวเองได้ครับ"
"ผมเชื่อนะครับว่าทุกความชอบ สามารถสร้างอาชีพได้ ขอเพียงลงมือทำ และทำอย่างตั้งใจ อย่ารอเวลา ยิ่งเริ่มเร็วเท่าไหร่ ยิ่งประสบผลเร็จไวเท่านั้นครับ" เจ้าของธุรกิจร้านสเต็กหนุ่ม กล่าว
อีกหนึ่งฝีมือชนคนต้นแบบที่ประสบความสำเร็จในอาชีพ จากการนำเอาความชอบมาต่อยอด อย่าง วรากร อนุศาสนะนันท์ หรือ กร เจ้าของร้านแต่งรถครบวงจรชื่อดังในจังหวัดระยอง ที่ถึงแม้จะเคยเกเรมาก่อน แต่เหตุการณ์ทะเลาะวิวาทเมื่อครั้งเรียนปวช. ด้วยเรื่องของศึกศักดิ์ศรี ทำให้เขาบาดเจ็บปางตาย และช่วงที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาล ก็มีแต่ครอบครัวเท่านั้นที่คอยอยู่ดูแลใกล้ชิด จุดนั้นเอง ทำให้เขาคิดได้และหันกลับมาตั้งใจเรียน นำความชอบความรักรถของตนเองมาต่อยอดเป็นอาชีพได้สำเร็จ
"มันไม่มีคำว่าสายนะครับ ที่จะค้นหาความชอบความถนัดของตัวเองแล้วผลักดันให้เป็นอาชีพ อาจจะไม่ต้องเก่ง ขอให้มีความชอบเป็นพื้นฐาน มันก็จะทำให้เราอยากที่จะพัฒนาตนเอง วันนี้อาจจจะยังทำได้ไม่ดี แต่เมื่อตั้งใจทุ่มเททำอย่างเต็มที่แล้ว วันหนึ่งก็ต้องประสบความสำเร็จครับ อย่างผมแม้จะชอบรถมาก แต่ตอนเรียนจบออกมาเปิดร้านก็ขาดทุนครับ เป็นหนี้เป็นสิน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ผมยอมแพ้ ก็เรียนรู้และหาวิธีแก้ไขจุดบกพร่อง หาจุดขายของร้าน พัฒนาฝีมือตัวเอง จนสามารถปลดหนี้และสร้างกำไรได้ครับ" วรากร กล่าว
ปิดท้ายด้วยแรงบันดาลใจดีๆ จากสุดยอดฝีมือชนคนต้นแบบอีกหนึ่งคน ธีร์ บุญวาสนา เจ้าของบริษัทรับสร้างบ้านที่รับสร้างบ้านมูลค่าแต่ละหลังไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เริ่มจากความชอบในการวาด ได้เรียนวิชาเขียนแบบก็ตกหลุมรักทันที จึงมุ่งมั่นเรียนสายอาชีพในสาขาสถาปัตยกรรม ฝึกฝนทักษะ เรียนรู้จากการเป็นลูกจ้าง ต่อยอดมาจนกระทั่งเป็นเจ้าของกิจการที่ใหญ่โต ในฐานะรุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จได้แนะนำน้อง ๆ ว่า
"ความชอบเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล ดังนั้นจงอย่าเลือกเรียน หรือเลือกทำงานตามเพื่อน หรือตามค่านิยมของสังคม ต้องถามตัวเองก่อนว่าชอบอะไร แล้วชอบจริงไหม เมื่อรู้แล้วว่าชอบอะไร อย่ากลัวที่จะลงมือทำตามความฝัน จงเชื่อมั่นในตนเอง หากเราสามารถนำความชอบไปต่อยอดเป็นอาชีพแล้วประสบความสำเร็จ เราจะยิ่งภูมิใจขึ้นอีกหลายเท่า เพราะนอกจากจะประสบความสำเร็จแล้ว ยังได้ทำในสิ่งที่รักอีกด้วย" เจ้าของบริษัทรับสร้างบ้าน กล่าวทิ้งท้าย
ความชอบ บวกแรงบันดาลใจ และความมุ่งมั่นตั้งใจลงมือทำ เป็นสูตรที่จะช่วยให้เหล่าอาชีวะฝีมือชนทุกคน พิชิตความสำเร็จในชีวิตได้ไม่ยาก