เริ่มต้นด้วยไฮไลท์ที่ "สยามเจมส์ เทียร่า" สุดยอดมงกุฎที่ประดับยอดด้วยทับทิมสยาม ขนาดใหญ่ถึง 21.09 กะรัตซึ่งหาได้ยากในปัจจุบันพร้อมกันนี้ยังมีทับทิมสยามเม็ดเล็กเป็นบริวารอีก 24 เม็ด และรายล้อมมงกฎด้วยเพชรแท้กว่า 1,946 เม็ด ใช้เทคนิคการเจียระไนอัญมณีและการขึ้นตัวเรือนแบบพิเศษ เพื่อให้เกิดการตกกระทบของประกายอัญมณีแต่ละเม็ดให้งดงามที่สุด
ต่อด้วยเซ็ตมณีนพรัตน์ ซึ่งนับว่าเป็นการพลิกโฉมการออกแบบเครื่องประดับนพเก้า อัญมณีมงคลทั้ง 9 ชนิดตามความเชื่อของคนไทย ให้มีดีไซน์ที่โดดเด่น ทันสมัยทิ้งภาพนพเก้าแบบดั้งเดิมโดยนำเสนอในคอลเลคชั่นพิเศษ"ชุดรวงข้าว"ที่ได้แรงบันดาลใจจากรวงข้าวที่อ่อนช้อยพลิ้วไหว ที่เป็นตัวแทนของความเจริญงอกงามที่บ่งบอกความเป็นวิถีไทยประกอบด้วยสร้อยคอ และกำไลที่โดดเด่นด้วย ทับทิมไล่เฉดสีให้สวยงามที่สุดเพิ่มความแวววับสะดุดตาด้วยเพชร ไพลินและบุษราคัม รวมอัญมณี 141 เม็ด น้ำหนักรวม 38.72 กะรัต มาพร้อมกับต่างหูข้าว เหมือนดั่งยอดของรวงข้าวที่ชูช่ออวดความงาม รวมอัญมณี 38 เม็ด น้ำหนักรวม 16 กะรัต ความยากในการผลิตคือการใช้เวลาในการหาอัญมณีที่นำมาเรียงร้อยต่อกัน เพราะอัญมณีแต่ละเม็ดจะต้องไล่เฉดสี เจียระไนรูปทรงให้ได้ขนาดที่กำหนด จึงแสดงถึงเอกลักษณ์ความละเอียดชดช้อยของความเป็นไทยที่ไม่มีวันเลือนหายไปตามกาลเวลา
และสุดท้ายคือ คอลเลคชั่น"ชุดดวงดาว"ที่ได้แรงบันดาลใจจากความเปล่งประกายของดวงดาวที่กำลังส่องแสงในยามค่ำคืน เป็นดวงดาว 9 ชนิดประกอบไปด้วยแหวนดวงดาว ที่มีทั้งบุษราคัม ทับทิม และมรกต มาร้อยเรียง พันเกี่ยวอวดโฉมบนนิ้วเปรียบเสมือนมีดวงดาวอยู่ในครอบครอง รวมอัญมณี 90 เม็ด น้ำหนักรวม 18.61 กะรัต พร้อมกับสร้อยคอแบบโชกเกอร์ ที่โดดเด่นด้วยไพลิน ทับทิม และมรกต ที่ใช้เทคนิคพิเศษในการเจียระไน และการขึ้นตัวเรือนให้มีความนูนต่ำแตกต่างกัน เลือกอัญมณีที่มีลูกเล่น คือ Star sapphire คือเมื่อนำไฟมาส่องดูใกล้ๆ จะเห็นแฉกคล้ายดวงดาวส่วนกำไลข้อมือดวงดาวที่เจิดจรัสด้วยเพชรและอัญมณีหลากสี มีทั้งทับทิมที่เพิ่มความมั่นใจ แข็งแรง มั่นคงตามแบบฉบับผู้หญิงยุคใหม่ เพทายที่ให้ความรู้สึกสงบ รอบครอบ สุขุมอย่างมีระดับ และเสริมความสมดุลอย่างเป็นธรรมชาติด้วยมรกตน้ำงาม
นอกจากจะได้ชื่นชมความงามของเครื่องประดับชุดไฮไลท์แล้ว ผู้ที่มาเยี่ยมชมสยามเจมส์ เฮอริเทจ ยังจะได้ตื่นตะลึงไปกับความสวยงามของ ประติมากรรมช้างทองคำพ่อลูก (คุณทับทิม และพลายน้อย) รูปทรงงามสง่าหุ้มด้วยทองคำ 99.99% และประดับเครื่องทรงด้วยแก้วนวรัตน์สีสด รวมถึงความยิ่งใหญ่ของ สยามเจมส์ สเฟียร์ (SIAMGEMS Sphere)โดมภาพยนตร์ขนาดใหญ่ 15 เมตรจัดแสดงภาพยนตร์เรื่อง "กำเนิดอัญมณี" ด้วยเทคนิคการฉายภาพยนตร์ระบบ 4K ให้มุมมอง 360 องศาพร้อมแสงสีเสียงที่ได้รับการออกแบบจากทีมงานด้านเทคนิคจากเยอรมนี และภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ยังประกอบด้วย 5 ห้อง ได้แก่ ห้องมณีนิรันดร์ที่ให้ความรู้เรื่องประวัติศาสตร์เครื่องประดับของโลก และจำลองเครื่องประดับในยุคต่างๆทั่วโลกมาจัดแสดง ถัดมาคือ ห้องมณีประกาย ที่ให้ความรู้เรื่องการเจียระไนอัญมณีในแบบต่างๆรวมถึงการจัดแสดงอัญมณีในกลุ่มต่างๆที่หายาก จากนั้นเป็น ห้องมณีมงคลจัดแสดงนพเก้า อัญมณีสิริมงคลที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อของคนไทย 9 ชนิด ได้แก่ เพชร ทับทิม มรกต บุษราคัม โกเมน ไพลิน มุกดา เพทาย และไพฑูรย์ ห้องปัทมราณีที่จัดแสดง "สยามเจมส์เทียร่า " สุดยอดมงกุฎที่เลอค่าแห่งกาลเวลา สุดท้ายคือ ห้องมณีวิทยานิทรรศการที่ให้ความรู้อย่างกระชับในเรื่องการออกแบบเครื่องประดับ โดยบอกถึงขั้นตอนการออกแบบ การผลิต ตลอดจนจัดแสดงอุปกรณ์ และเครื่องมือที่ใช้ในการทำงาน และยิ่งไปกว่านั้นคือ ทุกคนยังได้ลองออกแบบอัญมณีบนจอทัชสกรีนด้วยตัวเอง
ผู้สนใจสามารถเข้าชม สยามเจมส์ เฮอริเทจ พิพิธภัณฑ์และศูนย์การเรียนรู้อัญมณีไทยแห่งแรกในประเทศไทย ที่นำเสนอด้วยสื่อผสมและโดมภาพยนตร์ 360 องศาที่ทันสมัยที่สุด ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เวลาทำการตั้งแต่ 12.00 น.-17.00น. (รอบสุดท้ายเข้าชมเวลา 16.00 น.) อัตราค่าเข้าชม คนไทยราคา 200 บาท เด็กความสูงตั้งแต่ 90-135 ซม. ราคา 100 บาท ผู้ใหญ่อายุ 60 ปีขึ้นไปและเด็กสูงต่ำกว่า 90 ซม. ไม่เสียค่าใช้จ่าย ติดตามข้อมูลได้ทางเว็บไซด์ www.siamgemsheritage.com หรือโทร02 949 9500 #0