องค์กรธุรกิจจีนนำโดย Midea Group ได้ดำเนินการในฐานะผู้ขับเคลื่อนนวัตกรรมตามแผนงานนี้อย่างแน่วแน่ โดยในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา Midea ได้กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ KUKA AG บริษัทด้านหุ่นยนต์ระดับชั้นนำของโลก ด้วยจำนวนหุ้น 95% ต่อมาในเดือนเม.ย. Midea ก็ได้ประกาศเปิดศูนย์ R&D และนวัตกรรมยุโรป (RDICE) ที่เมืองกราซ ประเทศออสเตรีย นอกจากนี้ยังมีการเปิดดำเนินงานศูนย์เทคโนโลยีใหม่ (ETC) ของ Midea ที่เมืองซานโจเซ ศูนย์กลางของซิลิคอนแวลลีย์ ในสหรัฐอเมริกา ความเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้ได้สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ตลาดว่า Midea มีการพัฒนาอย่างมั่นคง โดยอาศัยขีดความสามารถในด้านนวัตกรรมของบริษัทและรูปแบบที่เปิดกว้างจากกระบวนการโลกาภิวัตน์
ในฐานะกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีระดับนานาชาติ Midea ได้ขยายขอบข่ายของธุรกิจให้ครอบคลุมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ระบบทำความร้อนและปรับอากาศ (HVAC) โลจิสติกอัจฉริยะ หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ บริษัทได้ตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา 17 แห่งใน 8 ประเทศทั่วโลก โดยมีนักวิจัยกว่า 10,000 คน และผู้เชี่ยวชาญชาวต่างขาติระดับอาวุโสอีกกว่า 300 คน การเชื่อมต่อระดับโลกด้าน R&D ของ Midea ได้กลายเป็นขุมพลังของบริษัทในการสร้างรูปแบบการคิดค้นนวัตกรรมระดับโลก
นอกจากนี้ Midea ยังเป็นผู้บุกเบิกการคิดค้นนวัตกรรมใหม่สำหรับองค์กรทั่วโลกด้วยจุดเด่นของตนเอง ซึ่งก็คือ ระบบ 4 ขั้นตอนสำหรับ R&D ไม่เพียงเท่านี้ Midea ยังได้จัดตั้งห้องแล็บด้วยความร่วมมือกับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยทั้งในและต่างประเทศ เพื่อผนวกทรัพยากรเทคโนโลยีระดับโลกและนวัตกรรมล้ำสมัยที่เปิดกว้าง
"ความสำเร็จของเราเป็นผลลัพธ์มาจากความมุ่งม่นในการคิดค้นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและการวิจัยและพัฒนาอย่างเหมาะสม รวมถึงการสั่งสมประสบการณ์และพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลาในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ในอนาคต เราจะจัดตั้งศูนย์ R&D ในประเทศอื่นๆที่เหมาะสมเพิ่มเติม พวกเรามุ่งมั่นที่จะจัดสรรทรัพยากรในประเทศต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อไปสู่จุดหมายในการเป็นองค์กรธุรกิจที่ใช้สุดยอดเทคโนโลยีของโลกในการผลิต" ดร. หู จือเฉียง รองประธาน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาของ Midea Group กล่าว
ที่มา: Midea Group
ลิงค์ภาพประกอบข่าว:
http://asianetnews.net/view-attachment?attach-id=292596
AsiaNet 69219