สสส. ผนึก สพฐ. สถานศึกษา เตรียมจัดโรดโชว์ “โครงการกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาวะทางกายในสถานศึกษา” 4 ภูมิภาค ย้ำแนวคิด “ออกมาเล่น แอคทีฟ 60 นาทีทุกวัน”

พุธ ๑๒ กรกฎาคม ๒๐๑๗ ๑๔:๕๑
เผย Active Play Active School ประสบความสำเร็จมาก ช่วยเด็กไทยกระตือรือร้น-ลดเนือยนิ่ง พัฒนาการเรียนรู้

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และ กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) จัดแถลงข่าว โครงการกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาวะทางกายในสถานศึกษา เพื่อดำเนินส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกายอย่างต่อเนื่องในกลุ่มเด็กและเยาวชนไทย อายุระหว่าง 6-14 ปี ให้มีสุขภาวะที่ดีเหมาะสมตามวัย และเป็นการสร้างความรู้ ความเข้าใจให้แก่ครูและผู้ปกครอง ถึงความสำคัญในการส่งเสริมกิจกรรมทางกายให้เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงเพื่อสานพลังความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่ทำงานด้านเด็กและเยาวชน ขยายผลการส่งเสริมกิจกรรมทางกายในวงกว้างต่อสังคมไทย โดยจัดกิจกรรมร่วมกับสถานศึกษาในจังหวัดต่าง ๆ ใน 4 ภาคทั่วประเทศ

รศ.นพ.ปัญญา ไข่มุก กรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า โครงการกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาวะทางกายในสถานศึกษา ภายใต้แนวคิด "ออกมาเล่น แอคทีฟ 60 นาทีทุกวัน" ถือเป็นโครงการต่อยอดการส่งเสริมกิจกรรมทางกายให้ขยายไปในวงกว้าง ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายให้มากยิ่งขึ้น เพื่อเน้นย้ำให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการมีกิจกรรมทางกายอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะวัยเด็กอายุ 6-14 ปี ที่กำลังเติบโตทั้งพัฒนาการทางร่างกายและสมอง เป็นช่วงเวลาสำคัญก่อนก้าวสู่การเป็นผู้ใหญ่ ปัจจุบันเด็กไทยมีสิ่งเร้าหรือมีพฤติกรรมที่อาจจะเป็นอุปสรรคในการมีกิจกรรมทางกายที่เหมาะสม เช่น เล่นเกม หรือเล่นสมาร์ทโฟนเป็นเวลานาน ประกอบกับภาวะโภชนาการที่ไม่ถูกต้อง ส่งผลให้เกิดปัญหาระยะยาว เช่น น้ำหนักตัวเกิน โดยข้อมูลจากกรมอนามัย ในปี 2558 พบว่าเด็กวัยก่อนเรียนจะกลายเป็นเด็กอ้วนในสัดส่วนสูงถึง 1 ใน 5 และเด็กวัยเรียนจะมีสัดส่วนของเด็กอ้วนอยู่ที่ 1 ใน 10 ซึ่งถือเป็นข้อมูลที่ทุก ๆ ฝ่าย ที่มีผลต่อเด็ก ๆ ควรให้การแก้ไขอย่างเร่งด่วน

"สสส.ได้ดำเนินการร่วมกับภาครัฐ เอกชน และภาคสังคม เพื่อดำเนินการตามนโยบายในการส่งเสริมกิจกรรมทางกายอย่างเพียงพอ ตั้งเป้าว่าภายในปี 2564 คนไทยอายุ 11 ปีขึ้นไป ควรมีกิจกรรมทางกายอย่างเพียงพอ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 และภายในปี 2562 จะลดจำนวนผู้มีน้ำหนักตัวเกิน และภาวะโรคอ้วนในเด็กให้น้อยกว่าร้อยละ 10 นับว่าสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ในการ"ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้" ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นฟันเฟืองที่จะส่งเสริมให้การดำเนินการในภาพใหญ่มีความเข้มแข็ง และประสบความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ" รศ.นพ.ปัญญา กล่าว

ด้าน ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า โครงการ Active Play Active School ประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งนักเรียน ผู้ปกครอง ครู และสถานศึกษานำร่อง มีการนำกิจกรรมทางกาย มาปรับใช้ในการจัดกิจกรรมทั้งในเวลาเรียนและในชั่วโมงการจัดกิจกรรมลดเวลาเรียน – เพิ่มเวลารู้ ส่งผลให้เด็กและเยาวชนมีความกระตือรือร้น ลดภาวะเนือยนิ่ง ซึ่งปัจจุบันเด็กรุ่นใหม่กำลังขาดกิจกรรมทางกายอย่างน่าห่วง โดยเฉพาะในเขตเมือง เด็กไทยใช้เวลาอยู่หน้าจอเฉลี่ยวันละ 3.1 ชั่วโมงต่อวัน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แถมยังมีภาวะเฉื่อยและเนือยนิ่งมากขึ้น โดยโครงการกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาวะทางกายในสถานศึกษา จะเน้นส่งเสริมกิจกรรมทางกายอย่างเพียงพอ ซึ่งตามข้อเสนอระดับสากลที่แนะนำ เด็กควรมีกิจกรรมทางกายในระดับปานกลางถึงหนักประมาณ 60 นาทีต่อวัน โดยจะร่วมกับผู้ปกครอง ครู และสถานศึกษา ซึ่งเป็นปัจจัยแวดล้อมสำคัญของเด็กที่จะร่วมสร้างความรู้ความเข้าใจ และการดำเนินการที่สอดคล้องกัน แบ่งเป็นการให้ความรู้กับผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร ของสถานศึกษาผ่านกิจกรรมการอบรมสัมมนาที่น่าสนใจ สามารถนำไปปรับใช้กับการจัดกิจกรรมในการจัดการเรียนการสอนทั้งในชั้นเรียนและนอกชั้นเรียน ได้แก่ การสัมมนาหัวข้อ "ความสำคัญของการเล่น กับการพัฒนาสมอง" โดย ผศ.ดร.ยศนันนท์ วงศ์สวัสดิ์ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยมหิดล "การเรียนการสอนกับกิจกรรม Active Learning โดย อาจารย์สมควร โพธิ์ทอง และ วิธีประเมินผลการทดสอบสมรรถภาพทางกาย โดย ผศ.เพิ่มศักดิ์ สุริยจันทร์

นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมตัวอย่าง สำหรับเด็กใน 2 ช่วงวัยสำคัญ ทั้งเด็กเล็ก หรือ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 – 6 และกิจกรรมสำหรับเด็กโต หรือนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 เช่น ฐานวิ่งลอดเชือก (Jump Loop) ที่บูรณาการความรู้มาจากวิชาคณิตศาสตร์และนันทนาการเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มพัฒนาการทางด้านสมอง การประมาณการ และเพิ่มทักษะการเคลื่อนไหวของเด็ก ๆ หรือจะเป็น ฐานบอลหรรษา (The Lucky Ball) ที่จะช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสารการเคลื่อนไหวและทรงตัว การเชื่อมโยงประสาทสัมผัส และสอนให้รู้จักความสามัคคี นอกจากนี้ยังมี ฐานลำเลียงบอล (Rolling Runner) และ ฐานบันไดงู (Snake Ladder) ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการออกกำลังกาย หรือเพิ่มกิจกรรมทางกาย ได้ในชีวิตประจำวัน หรือการ "ออกมาเล่น แอคทีฟ 60 นาทีทุกวัน" ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าว

ด้าน นางสาววัลลา เรือนไชยวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนากิจกรรมนักเรียน ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายยกระดับคุณภาพการศึกษา โดยมุ่งปฏิรูปการเรียนรู้ทั้งระบบให้สัมพันธ์เชื่อมโยงกันระหว่างหลักสูตร การเรียนการสอน การวัดและประเมินผล นโยบาย "ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้" เป็นนโยบายหนึ่งของรัฐบาลที่ใช้เป็นแนวทางในการปฏิรูปการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อเตรียมผู้เรียนให้พร้อมเข้าสู่การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยมุ่งหวังให้มีการเปลี่ยนแปลงการเรียนการสอนทั้งในและนอกห้องเรียน ส่งเสริมให้สถานศึกษามีการพัฒนากิจกรรมเพิ่มเวลารู้ให้เชื่อมโยงกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และยังคงเน้นเป้าหมายการพัฒนา 4H (Head Heart Hand Health) และให้ความสำคัญทั้งการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และกิจกรรมเพิ่มเวลารู้ แบบ Active Learning โดยมุ่งเน้นลดเวลาเรียนในลักษณะการรับการถ่ายทอดความรู้ด้วยการบรรยาย/การอธิบาย เพิ่มเวลาและโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติจริง มีความสุขกับการเรียนรู้ เรียนรู้ด้วยตนเองให้มากยิ่งขึ้น ปรับบทบาทครูจากการเป็นผู้สอนมาเป็นผู้ให้คำปรึกษาชี้แนะ ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะในการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา รู้จักการทำงานเป็นทีม มีคุณธรรม จริยธรรม มีสุขภาวะที่ดี และนำไปใช้ในชีวิตจริงอย่างยั่งยืน ตลอดจนมีการประเมินพัฒนาการของผู้เรียนอย่างหลากหลายตามสภาพจริง

อนึ่ง กิจกรรมโรดโชว์ โครงการกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาวะในสถานศึกษา จะจัดขึ้นใน 4 ภูมิภาค คือ ภาคกลาง ระหว่างวันที่ 5 – 7 กรกฎาคม 2560 ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 24- 26 กรกฎาคม 2560 จังหวัดเชียงราย ภาคตะวันออก ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2560 จังหวัดชลบุรี ภาคใต้ ระหว่างวันที่ 16 -18 สิงหาคม 2560 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 21-23 สิงหาคม 2560 จังหวัดอุบลราชธานี

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดหรือความคืบหน้าของกิจกรรมในโครงการฯ ได้ทางเฟสบุ๊คแฟนเพจ www.facebook.com/ActivePlayActiveSchool

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4