นายสมคิด สมศรี อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ กล่าวว่าตามที่รัฐบาลมีนโยบายเตรียมความพร้อมในการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ในปี 2564 ซึ่งไทยจะมีสัดส่วนจำนวนประชากรที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป มากกว่า 20%ของประชากรทั้งประเทศ จากปัจจุบันที่มีอยู่ที่ราว 10% จากประชากร 66 ล้านคนซึ่งจะทำให้ไทยกลายเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้สูงอายุมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ในเอเชีย รองจากญี่ปุ่นและสิงคโปร์ แน่นอนว่าโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนไปดังกล่าว ส่งผลให้กลุ่มผู้สูงอายุกลายเป็นผู้บริโภคที่ทรงอิทธิพลและเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่จะมีผลต่อทิศทางการพัฒนาเมือง และเศรษฐกิจ และในฐานะที่กรมกิจการผู้สูงอายุ มีหน้าที่รับผิดชอบและดูแลนโยบายด้านสังคม โดยเฉพาะสวัสดิการ ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุ จึงได้ร่วมกับบริษัท เอ็น.ซี.ซี.เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด จัดงานอินเตอร์แคร์ เอเชีย 2017 ขึ้น ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นการจัดงานครั้งที่ 2 หลังจากได้รับการตอบรับจากนักธุรกิจ และประชาชนเป็นอย่างดี และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้ทุกภาคส่วนตื่นตัวในการปรับตัวรับสังคมผู้สูงอายุ ภายในงานกรมฯ ยังได้ร่วมกับ สมาคมส่งเสริมธุรกิจบริการผู้สูงอายุไทย สมาคมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพไทย และบริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด ในฐานะผู้จัดงาน InterCare Asia จัดโครงการมอบตราสัญลักษณ์มาตรฐานดีเด่นสถานบริการดูแลผู้สูงอายุ ครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อยกระดับและสร้างมาตรฐานของธุรกิจบริการดูแลผู้สูงอายุ และส่งเสริมให้ธุรกิจบริการผู้สูงอายุของไทยเกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็น เมดิคัล ฮับ หรือศูนย์กลางทางการแพทย์แม้ว่าภาครัฐจะมีสถานบริการดูแลผู้สูงอายุทั่วประเทศ อาทิ สถานีอนามัย โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลอำเภอ โรงพยาบาลจังหวัด โรงพยาบาลศูนย์ และยังมีสถานสงเคราะห์คนชราอีกหลายแห่งทั่วประเทศ รวมถึงสถานบริการดูแลผู้สูงอายุ หรือ เนอร์สซิ่งโฮม ของภาคเอกชนและโรงพยาบาลเอกชน อีกกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ ก็ยังไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้สูงอายุ ซึ่งนับวันจะยิ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น กรมฯ จึงเข้ามามีบทบาทในการสนับสนุนให้เกิดสถานบริการดูแลผู้สูงอายุที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานด้วย
ด้านนายสืบพงษ์ สมิตทันต์ ผู้อำนวยการกลุ่ม บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด กล่าวว่า ผลพวงจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรนี้ไม่ได้มีเพียงการเพิ่มสวัสดิการต่าง ๆ หรือการเสนอขยายอายุการเกษียณราชการจากเดิม 60 ปีเป็น 65 ปี เพื่อรองรับเท่านั้น และแน่นอนว่าโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนไปดังกล่าว ส่งผลให้กลุ่มผู้สูงอายุกลายเป็นผู้บริโภคที่ทรงอิทธิพลและเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่จะมีผลต่อทิศทางและความอยู่รอดของภาคธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวได้กลายเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายสำหรับผู้ประกอบการในภาคธุรกิจต่างๆ ในการปรับตัวและเตรียมความพร้อมเพื่อช่วงชิงพื้นที่และตอบโจทย์ความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของผู้บริโภคกลุ่มนี้ด้วยเหตุนี้จึงได้จัดงานอินเตอร์แคร์ เอเชีย 2017 (InterCare Asia 2017) ในวันที่ 6-8 กรกฎาคม 2560 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคกรุงเทพฯ ขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุและการเตรียมความพร้อมประเทศไทยเพื่อก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ โดยในงานจะมีการรวบรวมสิ่งของและอุปกรณ์เครื่องใช้ที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุรวมถึงสินค้าและบริการและเทคโนโลยีที่จะเข้ามาตอบโจทย์ในช่วงสูงวัย ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 5 โซน คือ
1. โฮมแคร์จัดแสดงอุปกรณ์และเครื่องมือในการดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และผู้พิการ เช่น วีลแชร์ วอร์คเกอร์ อุปกรณ์ในการอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน
2. รีแฮบิทเทชั่นจัดแสดงอุปกรณ์และเครื่องมือสำหรับการดูแลช่วยเหลือและปกป้องผู้สูงอายุ เช่น หุ่นยนต์ผู้ช่วย ลิฟต์สำหรับเคลื่อนย้าย และ เครื่องฝึกเดิน
3. เมดิคัลทัวร์ริซึ่มหรือ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น ตรวจสุขภาพ ท่องเที่ยว และนวดแผนไทยประยุกต์
4. ด้านบริการแสดงสินค้าสำหรับดูแลและช่วยเหลือผู้สูงอายุและผู้พิการ เช่น รถสำหรับผู้พิการ อุปกรณ์ที่ให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ ทั้งแบบพกพาและแบบใช้ที่บ้าน รวมทั้งอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับช่วยเหลือเรื่องการสื่อสารของผู้สูงอายุและผู้พิการ บ้านพักคนชรา
5.นิวทริชั่นฟู้ดส์แสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอาหารและสมุนไพร ทั้งของไทยและต่างประเทศ
นอกจากนี้ จะมีการจัดแสดงสินค้าที่พัฒนาให้มีเทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านสุขภาพเพื่อสำหรับนำไปดูแล ช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุ และคนพิการ โดยมีไฮไลท์ที่น่าสนใจ ได้แก่ นวัตกรรมสำหรับการดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการ เช่น หุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุ เบาะวีลแชร์ติดตั้งบนรถตู้ เครื่องช่วยยืน และ รถเข็นน้ำหนักเบา และสินค้าที่มาจากต่างประเทศ เช่น Vevobene ที่พักสำหรับผู้สูงอายุที่ทันสมัยที่สุด จากสวิสเซอร์แลนด์Ryoyo แผ่นรองเตียงอัจฉริยะ จากญี่ปุ่น เป็นต้นโดยคาดว่าตลอดระยะเวลา 3 วันจะมีผู้ร่วมงานทั้งสิ้น 5,000 คน เงินสะพัดภายในงานไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท
ทั้งนี้การจัดงานดังกล่าวสอดคล้องกับภาครัฐที่จะขับเคลื่อนประเทศไปสู่การเป็นไทยแลนด์ 4.0 และผลักดันให้มีการพัฒนาด้านนโยบายและนวัตกรรมเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจไทย ขณะเดียวกันยังเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรม 5 กลุ่มพื้นฐานให้พัฒนาไปพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ ทั้งกลุ่มยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ อาหารแปรรูป ท่องเที่ยว และเทคโนโลยีชีวภาพ
อินเตอร์แคร์ เอเชีย 2017 จะเป็นอีกนิทรรศการที่อยากเชิญชวนให้ผู้ที่อยู่ในวัยรุ่นและวัยกลางคน เข้ามาชมงาน เพราะจะเห็นว่า สามารถนำอุปกรณ์ เครื่องมืออำนวยความสะดวกใหม่ๆ ไปช่วยดูแลอำนวยความสะดวกแก่บุคคลอันเป็นที่รักของท่านได้ หรือมีสถานบริการใดที่ท่านจะให้ความไว้วางใจในการดูแลผู้หลักผู้ใหญ่ของท่านได้ สำหรับผู้สนใจงานอินเตอร์แคร์ เอเชีย 2017 ติดตามรายละเอียดได้ที่ http://www.intercare-asia.com/ และFacebook: InterCare Asia