รวมพลังโรงเรียนสร้างเด็กไทยเป็น Active Citizen มุ่งหลักคิดประชาธิปไตย ใส่จิตวิญญาณรับผิดชอบ ไม่หวั่นเทคโนโลยีล้ำยุค

จันทร์ ๐๗ สิงหาคม ๒๐๑๗ ๑๔:๓๕
พอกันทีกับการสร้างเด็กให้เป็นอัจฉริยะแต่ไม่สามารถอยู่รอดและรับผิดชอบต่อสังคมได้ เพราะโลกกำลังหมุนไปกับการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้แข็งแกร่ง โดยมุ่งส่งเสริมให้เด็กเป็น "Active Citizen คนเก่ง คนดี รับผิดชอบต่อตนเอง ต่อสังคม" ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ประเทศมหาอำนาจทางการศึกษาทั่วโลกต่างให้ความสำคัญและเรียนรู้ที่จะนำมาปรับใช้ และตอนนี้ในเมืองไทย ใครๆก็เริ่มขวนขวายและทำความเข้าใจ Active Citizen ให้มากขึ้น ลึกซึ้งขึ้น และทำให้เกิดเป็นรูปธรรมขึ้นจริงกันแล้ว

สำหรับประเทศไทย หลายภาคส่วนเริ่มหลงเสน่ห์กระบวนการเพาะพันธุ์ดีเอ็นเอคนรุ่นใหม่ให้เป็น Active Citizen โดยเฉพาะนานมีบุ๊คส์ องค์กรเอกชนที่มีอุดมการณ์แรงกล้า หวังสรรสร้างให้สังคมตระหนักถึงผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมของการผลิตเด็กไทยให้เป็น "พลเมืองทรงพลัง" และพร้อมสนับสนุนแนวทางนี้อย่างชัดเจน ถือโอกาสดีครบรอบ 25 ปี จัดงานสัมมนาพิเศษ โดยนำทัพหลักคิดสำคัญระดับโลก อย่างโรงเรียนประชาธิปไตยแห่งแรกของอิสราเอลที่สามารถเพิ่มมูลค่าชีวิตในรั้วโรงเรียนให้เป็นของขวัญล้ำค่า รวมทั้งผู้บริหารจากเคลตต์กรุ๊ป เยอรมนี ที่สนุกกับการถ่ายทอดกรณีศึกษาทรงคุณค่า โดยแนวคิดนี้สามารถเปลี่ยนชีวิตเด็กหลายๆคนให้รู้จักนิยามของความรับผิดชอบอย่างถึงแก่น และแน่นอนว่าเราไม่อาจหลีกหนีความก้าวล้ำของโลกไปได้ จึงหวังให้ผู้เชี่ยวชาญด้าน Education Technology มาเผยเคล็ดลับที่จะทำให้ Active Citizen มีความสมบูรณ์รอบด้าน

คิม จงสถิตย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการบริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด องค์กรส่งเสริมการอ่าน และการเรียนรู้ที่ดำเนินธุรกิจด้วยความเชื่อมั่นมายาวนานถึง 25 ปี ผู้สร้างสรรเวทีรวมพลบุคลากรครูและผู้บริหารโรงเรียนไทยเข้าสู่งานสัมมนา "บทบาทของโรงเรียนในการจัดการเรียนรู้ที่มีความหมาย ได้ผลจริง เพื่อสร้าง Active Citizen คนเก่ง คนดีรับผิดชอบต่อสังคม" กล่าวถึงเหตุผลที่การสร้าง Active Citizen จำเป็นต้องเริ่มปลูกฝังภายในรั้วโรงเรียน โดยยกตัวอย่างประสบการณ์ในวัยเรียนที่หล่อหลอมให้ผู้บริหารสาวคนนี้ประสบความสำเร็จและตระหนักในคุณค่าของชีวิต

"สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัด นอกเหนือจากการเป็นคนชอบตั้งคำถาม และได้รับโอกาสให้ได้ศึกษาในสิ่งที่ตัวเองสนใจแล้ว การปลูกฝังทัศนคติการช่วยสังคมของคิมเองก็เกิดขึ้นจากประสบการณ์ในโรงเรียนเป็นส่วนใหญ่ โรงเรียนเป็นหน่วยงานที่มีความหมายกับชีวิต สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตเราให้เป็นคนมีพลัง มีสิทธิที่จะค้นพบตัวเอง ครุ่นคิดสิ่งที่ได้เรียนรู้ เปิดโอกาสให้ลงมือทำ ได้รับผิดชอบ และสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับตัวเอง ซึ่งนี่เองก็เป็นหลักคิดและทิศทางของการจะเป็น Active Citizen ด้วยเช่นกัน ซึ่งมันเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะสรรสร้างแนวทางอันหลากหลายเพื่อจะกระตุกต่อมคิด ให้เด็กไทยไม่ใช่แค่เก่งและดี แต่ต้องสามารถรับผิดชอบตัวเองและสังคมได้"

แนวทางแรกที่หลายคนเชื่อมั่นว่าจะเปลี่ยนพันธุกรรมเด็กไทยไปสู่พลเมืองทรงพลังได้ ก็คือ หลักคิดของโรงเรียนประชาธิปไตยแห่งแรกของอิสราเอล และอยู่ในเครือข่ายโรงเรียนประชาธิปไตยของโลก โดยมี Mr. Avshalom Komissar ผู้อำนวยการโรงเรียน Hadera Democratic ประเทศอิสราเอล มาเผยถึงนิยามและแลกเปลี่ยนแนวทางสร้างสังคมไทยให้เข้าใจพื้นฐานการใช้ชีวิตด้วยความเคารพในสิทธิ เสรีภาพ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ในสังคมที่หลากหลายและซับซ้อนนี้ได้

ผู้บริหารหนุ่ม กล่าวถึงแก่นของแนวคิดโรงเรียนประชาธิปไตย คือ ทุกๆคนล้วนเป็นอัจฉริยะในแบบที่แตกต่างกัน ดังนั้นโรงเรียนต้องพยายามค้นหาอัจฉริยะในตัวเด็กคนนั้นๆ แล้วนำมันออกมา สนับสนุน และเรียนรู้ที่จะปรับใช้เฉพาะบุคคล โดยยึดค่านิยมเสมอภาพ ทุกคนเท่าเทียมกันอย่างแท้จริง มีอิสรภาพที่จะเป็นในสิ่งที่อยากจะเป็น และมีภราดรภาพ สามารถรับผิดชอบในสิ่งที่กระทำลงไปด้วย

อาฟชาลอม คอมมิซซา อธิบายต่อว่า นักเรียนที่เรียนจบออกไป พวกเขามักพูดเสมอว่าโรงเรียนไม่ได้สอนอะไรมากมาย แต่โรงเรียนทำให้เขาเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนแปลงและแก้ปัญหาได้ด้วยตัวของเขาเอง เขาต้องเข้าใจตัวเอง และรู้จักตั้งเป้าหมายในชีวิต เพราะกระบวนการสอนภายในโรงเรียนที่มีลักษณะพิเศษ กระตุ้นให้เรียนรู้จากจิตวิญญาณ ตามธรรมชาติ ไม่ใช่การบังคับ หรือแทรกแซง เขาสามารถจะทำอะไรก็ได้ เรียนรู้ได้ตามความสนใจ เช่นมีคนคิดอยากจะขายของในโรงเรียน พวกเด็กก็คิดว่าต้องทำเป็นกฎระเบียบการค้า และเมื่อเกิดความวุ่นวาย ก็จะมีกระบวนการประชุมถกเถียงเพื่อแก้ไขปัญหาผ่านกรรมการพิจารณากันเอง ขณะเดียวกันเมื่อรู้สึกติดขัดหรือหาทางออกไม่ได้ โรงเรียนก็จำเป็นต้องมีการให้คำปรึกษาส่วนบุคคล อย่างกรณีเด็กนักเรียนคนหนึ่งใกล้จะสำเร็จการศึกษา แต่ยังขาดแรงจูงใจที่จะภาคภูมิใจในตัวเอง เธอสนใจแฟชั่นแต่ก็ต้องพบเจออุปสรรคระหว่างทาง หน้าที่ของโรงเรียนคือพยายามกระตุ้นให้เธอค้นพบทางออกของตัวเอง สนับสนุนและให้ความร่วมมือให้มากที่สุด จนสุดท้ายเธอก็รู้สึกภาคภูมิใจที่ความพยายามของเธอประสบความสำเร็จ

"ถามว่าทำไมเราควรสนใจโรงเรียนประชาธิปไตย เพราะสามารถสอนสมรรถนะหลักทั้ง 8 ช่วยพัฒนา Grit ให้มีความอุตสาหะและกระตือรือร้นต่อเป้าหมายระยะยาว และยังช่วยส่งเสริม Growth Mindset และก่อให้เกิดวัยเยาว์ที่มีความสุข ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้เด็กมีสุขภาพจิตที่ดีและบุคลิกภาพที่เข้มแข็ง เพื่อเข้าสู่สังคมและประสบความสำเร็จในโลกที่มีความท้าทายที่ต้องเผชิญได้" ผู้อำนวยการโรงเรียน Hadera Democratic กล่าวสรุป

จากซีกโลกฝั่งเอเชียข้ามมายังฝั่งยุโรปกันบ้าง อีกหนึ่งแนวทางที่ต้องนำมาปรับใช้ทันทีก็คือ การปลูกฝังความรับผิดชอบในตัวเด็กเพื่อชีวิตที่มีความหมาย โดยมี Dr. David Klett ผู้บริหารของเคลตต์กรุ๊ป ประเทศเยอรมนี องค์กรที่ทำงานด้านการศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเป็นผู้บอกเล่าทิศทางความน่าจะเป็นในประเทศไทย

ผู้บริหารของเคลตต์กรุ๊ป เผยว่าปัจจุบันโรงเรียนมักจะละเลยเรื่องการปลูกฝังความรับผิดชอบ ซึ่งเป็นเรื่องหนักหนาอยู่เหมือนกันที่จะต้องเชื่อมโยงจิตวิทยาและความตั้งใจจริงจากบุคลากรด้านการเรียนรู้ เพื่อให้เด็กรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตน และต้องเรียนรู้ที่จะรับมือกับความเสี่ยงที่จะล้มเหลวอีกด้วย ซึ่งดร.เดวิด ขยายความต่อว่า ยังมีอีกหลายเหตุผลที่ทำให้ทุกวันนี้เราไม่ตระหนักเรื่องความรับผิดชอบอย่างถูกที่ถูกทาง ไม่ว่าจะเป็นวิวัฒนาการด้านการศึกษาที่แยกออกชัดเจนระหว่างธรรมชาติและการเรียนรู้ ซึ่งแท้จริงแล้วต้องเป็นเรื่องเดียวกัน หรือแม้กระทั่งข้อจำกัดมนุษยชาติ เด็กที่เกิดในประเทศสงคราม การถูกกดขี่ หรือมีอิสระทางความคิดมากจนเกินไปก็อาจเป็นตัวแปรให้คำว่ารับผิดชอบมีความผิดแผกเพี้ยนไป

"ดังนั้น ด้วยกระบวนการเรียนรู้แบบให้เด็กมีส่วนร่วมในการกำหนดว่าจะเรียนอะไร ให้เขาได้ลงมือทำ แม้จะล้มเหลวแต่ก็ได้เรียนรู้ และเปลี่ยนรูปแบบ ก่อนจะวางแผนได้ด้วยตนเอง ย่อมสื่อสารเรื่องความรับผิดชอบออกมาได้ ในทางตรงกันข้าม การฝึกให้เขาได้เรียนรู้ที่จะรับผิดชอบตัวเองด้วยประสบการณ์จริง ยังสามารถส่งผลดีต่อการปรับเปลี่ยนทัศนคติด้านการเรียนและเป้าหมายชีวิตของเขาได้อีกด้วย ยกตัวอย่างองค์กร Metazone ของสิงคโปร์ ที่ใช้กิจกรรมแล่นเรือใบเพื่อเรียนรู้เรื่องความรับผิดชอบ ให้สิ่งแวดล้อมภายนอกเป็นตัวฝึกฝนเด็กให้เป็นผู้ใหญ่ ทำให้เด็กที่คิดว่าตัวเองเรียนไม่ได้กลับมาเรียนได้ดี เข้าสังคมใหม่และสังคมโดยรอบได้ หรือแม้กระทั่งการเปิดโอกาสให้เด็กปกติเรียนร่วมกับเด็กพิการ ช่วยให้เด็กเรียนรู้ที่จะอดทนในสิ่งที่เขาคิดว่าไม่สำคัญหรืออดทนต่อขีดจำกัดของอีกฝ่ายหนึ่งได้ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการอยู่ร่วมกันในโลกใบนี้ นอกจากนั้นยังมีกรณีศึกษาหนึ่ง เป็นโปรเจคระหว่างเด็กกับเทศบาลในการลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้สำเร็จ ซึ่งทำให้เราเห็นผลลัพธ์ของการปลูกฝังความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคมของเด็กได้เป็นอย่างดี" ผู้บริหารเคลตต์กรุ๊ปอธิบายสรุปได้อย่างน่าสนใจ

ปิดท้ายด้วยการนำ Education Technology มาปรับใช้กับการเรียนรู้ โดยมี Mr.Ray Douse จากวิซซ์เอดูเคชัน องค์กรที่สร้างระบบจัดการเรียนรู้ออนไลน์เพื่อพัฒนาศักยภาพเป็นรายบุคคล จากประเทศอังกฤษ มาแลกเปลี่ยนและปรับทัศนคติโรงเรียนหลายแห่งที่อาจยังนำเทคโนโลยีเข้าไปในโรงเรียนแบบผิดๆ ถูกๆ โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญมากในการสร้างระบบวิธีคิดให้กับคน และจำเป็นต่อระบบเศรษฐกิจปัจจุบันที่ต้องพึ่งพาข้อมูล ที่พร้อมจะทำให้คนที่มีทักษะแบบ STEM ได้เปรียบและมีรายได้มากกว่า

เรย์ เดาซ์ กล่าวถึงหลักการนำเทคโนโลยีการศึกษาไปใช้จำเป็นต้องทำเป็นรายบุคคล มีการออกแบบโดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญทางการศึกษาเพื่อให้มั่นใจว่าแต่ละบทเรียนสามารถบรรลุวัตถุประสงค์การเรียนรู้ได้จริง มีการปรับเปลี่ยนบทเรียนเพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้เรียนได้ระดับความยากง่ายที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงความติดขัดในการทำแบบฝึกหัด มีเนื้อหาแบบแอนิเมชั่นและสื่อดิจิทัล เพื่อฉีกกรอบการเรียนรู้แบบเดิม มีการประเมินผลและทดสอบที่รวดเร็ว และเลือกใช้ได้หลายภาษา

ทั้งสามแนวทางจาก 3 ประเทศผู้นำด้านการศึกษา ช่วยเปิดสมองและกระตุกต่อมคิดให้กับพลพรรคด้านการศึกษาของไทยได้อย่างมาก หลายคนได้เรียนรู้หลักคิดและมีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างใกล้ชิดกับทั้งสามกูรูด้านการเรียนรู้ ทำให้รู้สึกมีพลังและเชื่อมั่นว่าสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับระบบการศึกษาไทยได้ ถึงแม้จะเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ ของสังคม แต่จะเป็นกลุ่มที่ริเริ่มทำในสิ่งที่ดีกว่า เพื่อสังคมที่ไม่ได้ต้องการแค่คนเก่ง คนดีอย่างเดียว แต่ต้องการคนที่รับผิดชอบตัวเองได้ และมีจิตสำนึกที่จะรับผิดชอบต่อสังคมด้วย

กิจกรรมฉลองครบรอบ 25 ปีนานมีบุ๊คส์ ยังมีจัดต่อเนื่องตลอดปี 2560 นี้ ครอบคลุมทั้งกิจกรรมสำหรับเยาวชน พ่อแม่ผู้ปกครอง ผู้บริหารและครู บุคคลทั่วไป รวมไปถึงการผลิตหนังสือดีมีคุณภาพ ที่จะช่วยส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อสร้าง "Active Citizen" ตามปณิธานที่นานมีบุ๊คส์ยึดมั่นมาตลอด 2 ทศวรรษ สำหรับผู้สนใจติดตามข่าวสารได้ตามช่องทางดังนี้ www.nanmeebooks.com, Facebook, Twitter และ Instagram ในชื่อ Nanmeebooksfan, Line: @nanmeebooks และโทร. 0-2662-3000 กด 0

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4