เกษตรฯ เตรียมประกาศใช้มาตรฐานสินค้าเกษตร GAP ฟาร์มจิ้งหรีด ไก่พื้นเมือง และไหมอินทรีย์ เพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิต จ่อคิวขึ้นแท่นเป็นสินค้าเศรษฐกิจใหม่ สร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภค เพิ่มโอกาสทางการค้าให้เกษตรกรรายย่อย

พฤหัส ๑๐ สิงหาคม ๒๐๑๗ ๑๕:๔๒
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตรเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2560 ว่าคณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตร มีมติเห็นชอบให้เร่งประกาศใช้มาตรฐานสินค้าเกษตรเพิ่มเติม 7 เรื่อง ได้แก่ 1.GAP ฟาร์มจิ้งหรีด 2. GAP ฟาร์มไก่พื้นเมืองแบบเลี้ยงปล่อย 3. ไหมอินทรีย์4. แนวปฏิบัติการผลิตเชื้อเห็ด5. สารพิษตกค้าง6. มะนาวและ 7. แตงกวา โดยมี 3 เรื่อง ซึ่งเป็นสินค้าที่มีการผลิตอย่างแพร่หลายในกลุ่มเกษตรกรรายย่อยและมีโอกาสทางการตลาดสูง ได้แก่ มาตรฐาน GAP ฟาร์มจิ้งหรีด มาตรฐาน GAP ฟาร์มไก่พื้นเมืองแบบเลี้ยงปล่อย และมาตรฐานสินค้าไหมอินทรีย์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนายกระดับการผลิตให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐาน มีความปลอดภัย ต่อผู้บริโภคภายในประเทศและเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดส่งออกในต่างประเทศมากขึ้นอีกด้วย

จิ้งหรีดเป็นสินค้าที่มีแนวโน้มทางการตลาดดีขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งภายในและต่างประเทศ ปัจจุบันมีเกษตรกรเลี้ยงจิ้งหรีด มากกว่า 20,000 ราย ผลผลิตปีละ 7,500 ตัน มีมูลค่าเกือบ 1,000 ล้านบาทต่อปีซึ่งส่วนใหญ่เป็นการบริโภคภายในประเทศ เริ่มมีการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ทั้งประเทศเพื่อนบ้านและประเทศตะวันตกบางประเทศ ดังนั้นการกำหนดมาตรฐานGAP ฟาร์มจิ้งหรีด จะเป็นเครื่องมือในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาด ผู้บริโภค และประเทศผู้นำเข้าได้ โดยเฉพาะสหภาพยุโรป หรือ อียู ซึ่งจัดให้แมลงเป็นอาหารชนิดใหม่ ประกอบกับองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือเอฟเอโอ (FAO) ได้ส่งเสริมให้มีการบริโภคแมลงเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากแมลงเป็นอาหารทางเลือกที่มีโปรตีนสูงราคาถูก และสามารถผลิตได้ง่ายในท้องถิ่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงจะยกระดับการผลิตจิ้งหรีดให้เป็นแมลงเศรษฐกิจที่มีศักยภาพในการส่งออกสูงขึ้น และสามารถช่วยยกระดับรายได้ของเกษตรกรด้วย

สำหรับการเลี้ยงไก่พื้นเมืองแบบปล่อยก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของเกษตรกรรายย่อย เนื่องจากใช้เงินลงทุนน้อย ดูแลจัดการง่าย ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และทนต่อโรคได้ดี เมื่อนำมาแปรรูปหรือประกอบอาหารก็ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากกว่าไก่เนื้อที่เลี้ยงในโรงเรือนแบบปิดเนื่องจากเนื้อแน่นและมีรสชาติดีกว่าปัจจุบันไทยมีไก่พื้นเมืองรวมกว่า 72.4 ล้านตัวทั่วประเทศมีการขยายตัวของธุรกิจการเลี้ยงไก่พื้นเมืองเพื่อการค้าตลอดห่วงโซ่การผลิต ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเร่งยกระดับการผลิตให้ได้มาตรฐานเพื่อสร้างการยอมรับจากผู้บริโภคและช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดได้

ส่วนเรื่องการผลิตไหมอินทรีย์ก็ถือเป็นช่องทางทำเงินให้กับเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมได้อีกช่องทางหนึ่งซึ่งปัจจุบันมีเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ประมาณเกือบ 100,000 ราย มีแนวโน้มที่ตลาดจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของสินค้าอินทรีย์ เช่น ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากไหมอินทรีย์ เช่น แผ่นมาร์คหน้า ดังนั้นการกำหนดมาตรฐานอินทรีย์สำหรับไหมนอกจากจะช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้าแล้ว ยังสามารถเพิ่มโอกาสทางการค้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออกได้" นางสาวชุติมา บุณยประภัศรกล่าว

นางสาวดุจเดือน ศศะนาวิน เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษรตและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) กล่าวเสริมว่า นอกจากนี้ คณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตรยังเห็นชอบให้เก็บค่าบริการตรวจสอบรับรองโรงงานผลิตทุเรียนแช่เยือกแข็ง ซึ่งเป็นมาตรฐานบังคับ โดยกำหนดตามขนาดของโรงงานผลิตทุเรียนแช่เยือกแข็ง ขนาดเล็ก ไม่เกิน 15,000 บาท ขนาดกลาง ไม่เกิน 25,000 บาท และขนาดใหญ่ไม่เกิน 35,000 บาท ซึ่งการประกาศกำหนดค่าบริการนี้เพื่อให้หน่วยตรวจรับรองเอกชนใช้เป็นหลักในการคิดค่าบริการ ในกรณีที่มีการถ่ายโอนภารกิจจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบให้กำหนดมาตรฐาน ปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุด สำหรับลำไย มะม่วง และมังคุด และจะเสนอให้เกาหลีใต้ใช้เป็นค่ามาตรฐาน เนื่องจากปัจจุบันเกาหลีใต้ไม่ได้กำหนดค่ามาตรฐานดังกล่าวไว้ การกำหนดมาตรฐานดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ในการขยายการค้าผลไม้ ทั้ง 3 ชนิด ของไทย ไปเกาหลีใต้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest