นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการและกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารระดับสูงที่ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการธุรกิจมีความหลากหลายตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี ได้เปิดแนวคิดว่า ความก้าวหน้าของผู้หญิงอยู่ที่ตัวเองเป็นที่ตั้ง การเป็นหัวหน้างานนั้น ต้องแสดงความเป็นผู้นำให้ชัดเจน ต้องทำให้ได้ทุกอย่าง แบบไร้ข้อจำกัด อาทิเช่น การบริหารบุคคลในทีม หากมีความจำเป็นต้องให้คนในองค์กรโยกย้าย หรือปรับเปลี่ยน แม้จะเป็นเรื่องทำให้เกิดภาวะเครียดหรือลำบากใจก็ตาม ก็ต้องทำให้สำเร็จบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ การตัดสินใจผิดพลาดนั้น ให้มองเป็นเรื่องปกติ แต่ควรเกิดการเรียนรู้จากข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น และแก้ไขให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด
ปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา ทุกคนต้องปรับตัวและไม่หยุดที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทุกคนตระหนักรู้เสมอว่า" ทัศนคติการทำงานของคนรุ่นใหม่คนเจเนอเรชั่นเอ็กซ์และวายไม่มี ความเชื่อมั่นและภักดี (Loyalty) ต่อองค์กร" ในฐานะผู้นำองค์กรจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแนวคิด เพื่อก้าวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง โดยทำให้คนทำงานมีความสุข มีอิสระในการทำงาน มอบหมายงานที่มีความท้าทาย ให้อำนาจคิดและตัดสินใจ จะทำให้คนทำงานอยู่ในองค์กรนานขึ้น
ในการทำงานนั้น ผู้หญิงต้องเข้าใจความต้องการของตัวเอง ระหว่างหน้าที่การงานและครอบครัว หากเลือกครอบครัวมาก่อน ต้องยอมรับว่าโอกาสในการก้าวหน้าอาจจะมีน้อยกว่า แต่ถ้าต้องการความก้าวหน้าต้องแสดงตัวตนให้ชัดเจนหากมีโอกาสที่เหมาะสม และจำเป็นต้องมีเครือข่าย การทำงานจำเป็นต้องพิจารณาจากขีดความสามารถของตัวเองทั้งในปัจจุบัน และอนาคต ไม่ควรพิจารณาจากเรื่องเพศชายเพศหญิง เพราะชายกับหญิงมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง แต่ไม่ได้มากจนเกินไป
หลักการทำงานคือจริงจังและเต็มที่กับการทำงานเมื่ออยู่ออฟฟิศ ไม่นำงานกลับมาทำที่บ้าน เพราะจะทำให้เกิดความเครียด ควรพักผ่อนให้เต็มที่ และกลับมาทำงานในวันถัดไป งานและครอบครัวจะต้องสมดุลกัน แม้ในความเป็นจริง ผู้ที่เป็นผู้นำองค์กรจะมีเวลาอยู่กับครอบครัวน้อยลง แต่ต้องพยายามใช้เวลาทีมีอยู่อย่างจำกัดให้คุ้มค่าเกิดประโยชน์มากที่สุด
นางบุษยา มาทแล็ง ปลัดหญิงคนแรกของกระทรวงการต่างประเทศ กับความมุ่งมั่นในการรับราชการและการเป็นนักการทูต กล่าวว่า เป็นคนที่รับราชการมาตลอดชีวิต ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ เพราะเป็นผู้หญิงคนแรกที่เป็นปลัดกระทรวงการต่างประเทศที่ก่อตั้งมา 141 ปี องค์กรไม่ได้มีการแบ่งแยกผู้ชาย ผู้หญิง ข้าราชการทุกคนได้รับโอกาสเท่ากัน ขึ้นอยู่การวางตัวที่เหมาะสม มีจัดมุ่งหมายคือการทำงานรับใช้ประเทศชาติและประชาชน ทุกคนต้องมีความกระตือรือร้นและความมุ่งมั่นในการทำงาน ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้ไม่ได้เกิดเพียงชั่วข้ามคืน แต่เกิดจากการถูกปลูกฝังและกล่อมเกลามาจิตใจตั้งแต่เด็ก
ในวันที่เข้ารับตำแหน่งอายุ 27 ปี ถือว่าอายุยังน้อย ประสบการณ์การทำงานยังมีไม่มากนัก ได้พบบุคคลต้นแบบ ผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน ทำให้ได้เรียนรู้ การให้คุณค่าและความเชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองและคนอื่นทำเป็นเรื่องสำคัญ ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จ งานใดใดก็มีคุณค่าไม่ว่างานเล็กหรืองานใหญ่ ขึ้นอยู่กับเราว่าจะหาคุณค่าของงานได้หรือไม่ และต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด สำรวจและทบทวนตัวเองเป็นระยะ จะช่วยพัฒนาตัวเองไปสู่ความสำเร็จได้ การทำงานต้องรู้จักตัวเอง และรู้จักคนอื่น รู้ความต้องการของตัวเองและผู้อื่น ซึ่งการกระทำที่เกิดจากความต้องการภายในจะก่อเกิดความยั่งยืนมากที่สุด หากมีการทำผิดพลาดเกิดขึ้นแสดงว่าทำงาน แต่จะต้องเรียนรู้ข้อผิดพลาดนั้นๆและแก้ไข ปรับปรุงการทำงานต่อไป สิ่งสำคัญคือความกระตือรือร้นและความมุ่งมั่นต้องมาคู่กับความดี อาจมีบางช่วงเวลาที่การทำงานไม่ราบรื่น แต่ถ้าเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ทำเป็นสิ่งดีก็จงทำต่อไป การวางแผนจะทำอะไร ควรไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน มีหลักการและเหตุผลรองรับ และดำเนินตามขั้นตอนที่วางไว้ให้ดีที่สุด และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้ดียิ่งขึ้นไป