มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบนิดหน่อย สำหรับสุดสัปดาห์สุดท้ายของบลองแปลงจีทีซีรีย์เอเชีย คือ จัดให้มีทั้งรอบการฝึกซ้อม 2 รอบ และการควอลิฟายเลยในวันศุกร์ แซนดี้จึงพยายามใช้การฝึกซ้อมอย่างคุ้มค่าที่สุดเพื่อให้คุ้นเคยกับสนามใหม่แห่งนี้ ซึ่งมีระยะทางที่สั้น และเต็มไปด้วยโค้งที่คดเคี้ยวไปมา บังคับใช้ความเร็วได้ไม่มากนัก
ช่วงควอลิฟายแรก ดรายสปริงสร้างความประหลาดใจให้กับทีมเป็นอย่างมาก ด้วยการคว้าโพลโพซิชั่นมาครอง ซึ่งเขาจะออกสตาร์ทเป็นคันแรกในการแข่งเรส 1 ในวันเสาร์ ส่วนแซนดี้แม้ว่าจะทำเวลาได้เร็วกว่า แต่ควอลิฟายร่วมกับกลุ่มโปร ทำให้แซนดี้ได้ออกสตาร์ทจากอันดับที่ 10 ในเรส 2 ในวันอาทิตย์
การแข่งเรสที่ 1 วันเสาร์เกิดขึ้นท่ามกลางในสภาพที่เปียก ดาวรุ่งใหม่อย่างดรายสปริงเริ่มต้นออกสตาร์ทได้ยอดเยี่ยมและสามารถป้องกันตำแหน่งของเขาได้ดีในช่วงเริ่มต้น ในขณะที่คันอื่น ๆ พยายามจะไล่แซงเขาอย่างไม่ลดละ ทว่ารถลัมโบกินี ฮูราแคนจีที3ของเขาเร่งได้ไม่ดีนักเมื่อเทียบกับคันอื่นรอบๆ ดรายสปริงจึงส่งมอบรถให้แซนดี้ในขณะที่อยู่ในอันดับที่ 3 ประกอบกับมีปัญหาเกี่ยวกับกลไกการล็อกประตู ทำให้ทีมเสียเวลาไปถึง 12 วินาทีในพิท ทำให้อันดับของแซนดี้หล่นลงไปอยู่ที่ 7 ในช่วงที่ออกจากพิทเลน นักขับไทยพยายามประคองรถให้ดีที่สุดในสภาพเปียกที่เขามักจะถนัด ทว่าทำได้ดีที่สุด โดยการเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 10 ได้คะแนนติดมือมา 1 คะแนน
ในระหว่างการตรวจสอบหลังการแข่งขัน ทีมงานก็พบสาเหตุของการเร่งเครื่องไม่ขึ้น ถือเป็นข้อมูลที่สำคัญซึ่งจะทำให้พวกเขาพัฒนาได้ดียิ่งขึ้นในการแข่งขันที่คาดว่าว่าจะเปียกอย่างแน่นอนในวันอาทิตย์
ในเรสที่ 2 ทีมจึงได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าเซ็ทอัพเครื่องใหม่ ซึ่งก็เห็นผลได้อย่างชัดเจน นักขับไทยเริ่มสตาร์ทจากตำแหน่งที่ 10 และ รักษาอันดับของ ลัมโบกินีฮูราแคน จีทีสาม ได้อย่างต่อเนื่อง มุ่งหวังที่จะขึ้นไปได้จนถึงท็อป 5 ในขณะที่ทัศนวิสัยในการมองเห็นจำกัด อันเนื่องมาจากน้ำที่สาดออกมาจากล้อรถคันข้างหน้า จึงเป็นอันตรายอย่างมากในการแข่งขัน แซนดี้ยังคงต่อสู้และส่งมอบรถไปยังดรายสปริง ซึ่งนักขับชาวเยอรมันทำผลงานได้ดีและคว้าตำแหน่งที่ 5 มาครอง ก่อนกลับบ้าน
นี่เป็นการสิ้นสุดฤดูกาลปีแรกของแซนดี้ สตูวิค ในการแข่งขันจีที ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมและได้รับความรู้เพิ่มเติมอีกมากมาย ทำให้นักขับชาวไทยมั่นใจ ในการมุ่งมั่นสู่การแข่งขันชิงแชมป์ GT ในฤดูกาลปี 2018 ถัดไป