จูไห่เป็นเมืองชายฝั่งซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจีนติดกับฮ่องกงและมาเก๊า และเป็นหนึ่งในเมืองที่พยายามเดินหน้าสนับสนุนการเปิดเสรีการค้าและมีนโยบายที่เอื้อประโยชน์ต่อภาคธุรกิจมากกว่าภูมิภาคอื่นๆ โดยเมืองจูไห่ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการปูทางสู่ความร่วมมือกับกลุ่มประเทศ CLAC ด้วยคุณประโยชน์ทางสถาบันอันหลากหลาย ทำเลการค้าที่ลงตัว และสิ่งแวดล้อมทางธุรกิจที่มีความเหมาะสม
เป็นที่รู้กันว่าเขตใหม่เหิงฉิน ของเมืองจูไห่ เพิ่งออกนโยบายที่เอื้อประโยชน์ต่อบริษัทจากกลุ่มประเทศ CLAC มาเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสนับสนุนตั้งแต่การอำนวยความสะดวกให้กับภาคการค้าและการลงทุนไปจนถึงการจัดสรรงบประมาณในด้านต่างๆ อีกทั้งยังทำให้บริษัทสตาร์ทอัพสามารถลงทะเบียนธุรกิจของตนเองเพื่อรับสิทธิลดภาษีเงินได้นิติบุคคล 15% ได้ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 6 ชั่วโมง
ในฐานะเวทีล่าสุดที่จะทำให้เมืองจูไห่ประสบความสำเร็จในการสร้างความร่วมมือที่เกิดประโยชน์กับทุกฝ่ายร่วมกับกลุ่มประเทศ CLAC มหกรรมนี้จึงให้ความสำคัญกับการขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า ด้วยการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งในภาคธุรกิจ การลงทุน การเงิน วัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว นอกจากนี้ในพิธีเปิดงานมหกรรมประจำปีนี้จะมีการเปิดตัวสวนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าจีน-ละตินอเมริกา (China-Latin America Economic and Trade Cooperation Park) เฟสแรก ซึ่งตั้งอยู่ในเขตใหม่เหิงฉินและครอบคลุมพื้นที่ถึง 35,000 ตารางเมตร
สวนความร่วมมือซึ่งจะกินพื้นที่ทั้งหมด 244,000 ตารางเมตรแห่งนี้ จะดึงดูดเงินลงทุนได้ประมาณ 2,500 ล้านหยวน โดยสวนดังกล่าวถูกออกแบบมาให้ตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจจากกลุ่มประเทศ LAC เพื่อดึงดูดแหล่งเงินทุนและการลงทุนเข้ามาในจีน และด้วยเหตุนี้จึงทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีผู้ประกอบการจำนวนมากและมีการเชื่อมต่อทางธุรกิจที่หลายหลาก ว่ากันว่าสวนความร่วมมือแห่งนี้ได้เซ็นสัญญาความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับสถาบันและบริษัท 10 แห่ง รวมทั้งหอการค้าเม็กซิกันในประเทศจีนด้วย
มหกรรม CLAC Expo 2017 แสดงให้เห็นถึงความพยายามใหม่ๆ ในการขยายความร่วมมือและทำความเข้าใจอย่างลึกซึ่งระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายในช่วงเวลาที่ความร่วมมือของกลุ่มประเทศ CLAC กำลังเติบโตสู่ระดับที่สูงขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยสร้างโอกาสในการขยายตลาดเข้ามาในประเทศจีนให้กับบริษัทจากกลุ่มประเทศ LAC อีกด้วย
ปัจจุบัน มีโครงการที่เข้ามาเซ็นสัญญาในมหกรรมดังกล่าวแล้ว 56 โครงการ ทั้งบริษัทด้านการพิมพ์, การขนส่งสินค้าที่ทันสมัย, วิศวกรรมปิโตรเคมี และอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน โดยมีมูลค่าสัญญารวมกันถึง 3,250 ล้านหยวน ซึ่งพันธมิตรของโครงการเหล่านี้เป็นล้วนบริษัทที่มาจากประเทศในกลุ่ม LAC อย่างบราซิลและเม็กซิโก ตลอดจนประเทศที่อยู่ตามแนวเส้นทางสายไหมแห่งศตวรรษที่ 21 รวมทั้งไทยและเวียดนาม
ที่มา: คณะกรรมการจัดงานนิทรรศการนานาชาติ China-Latin America and the Caribbean International Exposition
AsiaNet 70938