นายสุทธิ สุโกศล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่ากรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน ได้ดำเนินการตามแนวทางประชารัฐร่วมกับภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา ในการพัฒนาศักยภาพให้แก่คนทำงาน คนที่เข้าสู่ตลาดแรงงาน นักเรียน นักศึกษา ให้มีความรู้ความสามารถ มีทักษะฝีมือสูงได้มาตรฐานฝีมือแรงงาน ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน สามารถนำทักษะไปใช้ในการปฏิบัติงานสร้างบริการที่ดีเป็นที่ประทับใจแก่ผู้มาใช้บริการและประชาชน
การร่วมมือกับบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เช่นกัน โดยมุ่งเน้นพัฒนาพนักงานของศูนย์บริการรถยนต์ FIT Auto ซึ่งเป็นหนึ่งในบริการของบริษัท ในการดูแลบำรุงรักษารถยนต์ ทั้งสองหน่วยงานได้จัดฝึกอบรมหลักสูตรการฝึกยกระดับฝีมือสาขาการบำรุงรักษารถยนต์ (ระยะเวลาการฝึกอบรม 30 ชั่วโมง) และสาขาการตั้งศูนย์ถ่วงล้อรถยนต์ (ระยะเวลาการฝึกอบรม 24 ชั่วโมง) การฝึกเน้นทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ และสอดแทรกความรู้ด้านบริการด้วย ผู้ผ่านการฝึกอบรมได้รับโอกาสในการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ที่ผ่านมาได้ดำเนินการฝึกอบรมแล้ว ในหน่วยงานสังกัดกพร.สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน (สพร.) 5 แห่ง ได้แก่ สพร. 1 สมุทรปราการ สพร. 2 สุพรรณบุรี สพร. 6 ขอนแก่น สพร. 10 ลำปาง และสพร. 12 สงขลา มีผู้ผ่านการฝึกอบรมและทดสอบฯ จำนวน149 คน ในปี 2561 จะมีการวางแผนฝึกอบรมในจังหวัดเหล่านี้ และพร้อมขยายความร่วมมือในการฝึกอบรมไปยังจังหวัดอื่นต่อไป
นายสุทธิ กล่าวต่อไปว่าส่วนความร่วมมืออื่นๆ เช่น พัฒนาหลักสูตรให้ทันสมัย ร่วมกันใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ได้แก่ วิทยากร อาคารสถานที่ และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการฝึกอบรมคนทำงาน ยกระดับครูฝึกของกพร. เพื่อให้เป็นวิทยากรในการถ่ายทอดความรู้ให้แก่ นักศึกษาระดับปวช. ปวส. ผู้ว่างงาน แรงงานในสถานประกอบกิจการ จัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานสาขาช่างบำรุงรักษารถยนต์และช่างติดตั้งศูนย์และถ่วงล้อรถยนต์ ณ ศูนย์ฝึกอบรม อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี บริษัทสามารถใช้ศูนย์ดังกล่าวในการทดสอบพนักงานเพื่อพิจารณาอัตราค่าจ้าง ค่าตอบแทน และการเลื่อนตำแหน่ง เป็นต้น อีกทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการทดสอบให้กับคนทำงานในด้านดังกล่าวที่เป็นบุคคลภายนอกด้วย ซึ่งหากศูนย์ทดสอบฯ ให้แก่แรงงานครบทุก 100 คน จะได้รับเงินช่วยเหลือหรืออุดหนุนจากกพร. 10,000 บาทด้วย และบริษัทมอบผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น จำนวน 2000 ลิตร มอบให้แก่กพร. เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการให้บริการประชาชนสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนตาม "โครงการร่วมรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์"ซึ่งมีกำหนดให้บริการระหว่างวันที่ 1-28 ธันวาคม 2560
"ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการพัฒนาศักยภาพบุคลากร สร้างจิตสาธารณะในบริการให้แก่ผู้มาใช้บริการและประชาชน และพนักงานได้รับโอกาสที่ดีในการพัฒนาทักษะฝีมือ เพิ่มช่องทางในความก้าวหน้าในหน้าที่การงานและค่าจ้างตามทักษะฝีมือของตน" อธิบดีกพร. กล่าว