ปภ.รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 9 จังหวัด พร้อมบูรณาการจังหวัดช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

จันทร์ ๐๔ ธันวาคม ๒๐๑๗ ๑๑:๕๕
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 9 จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี ยะลา สงขลา พัทลุง ตรัง สตูล นราธิวาส นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี รวม 95 อำเภอ 657 ตำบล 4,573 หมู่บ้าน 281,819 ครัวเรือน 892,376 คน ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยครอบคลุมทุกด้านอย่างต่อเนื่อง พร้อมระดมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยสนับสนุนการแก้ไขปัญหาอุทกภัยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้จากอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2560 ทำให้เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี ยะลา สงขลา พัทลุง ตรัง สตูล นราธิวาส นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และกระบี่ รวม 109 อำเภอ 698 ตำบล 4,745 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 299,004 ครัวเรือน 953,561 คน เสียชีวิต 5 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 1 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 9 จังหวัด รวม 95 อำเภอ 657 ตำบล 4,573 หมู่บ้าน 281,819 ครัวเรือน 892,376 คน ประกอบด้วย ลุ่มน้ำปัตตานี 2 จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 12 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโคกโพธิ์ อำเภอหนองจิก อำเภอยะรัง อำเภอไม้แก่น อำเภอสายบุรี อำเภอปะนาเระ อำเภอเมืองปัตตานี อำเภอแม่ลาน อำเภอทุ่งยางแดง อำเภอยะหริ่ง อำเภอมายอ และอำเภอกะพ้อ รวม 108 ตำบล 606 หมู่บ้าน 20 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 18,576 ครัวเรือน 55,662 คน ผู้เสียชีวิต 2 ราย ยะลา น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองยะลา อำเภอยะหา อำเภอบันนังสตา อำเภอกรงปินัง อำเภอรามัน อำเภอธารโต อำเภอกาบัง และอำเภอเบตง รวม 56 ตำบล 299 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 29,934 ครัวเรือน 111,301 คน ผู้เสียชีวิต 1 ราย ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา 2 จังหวัด ได้แก่ สงขลา น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 16 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเทพา อำเภอนาหม่อม อำเภอสทิงพระ อำเภอหาดใหญ่ อำเภอจะนะ อำเภอสะบ้าย้อย อำเภอควนเนียง อำเภอสิงหนคร อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอรัตภูมิ อำเภอนาทวี อำเภอนางกล่ำ อำเภอคลองหอยโข่ง อำเภอระโนด อำเภอสะเดา และอำเภอเมืองสงขลา รวม 123 ตำบล 911 หมู่บ้าน 94 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 72,078 ครัวเรือน 202,828 คน เสียชีวิต 2 ราย พัทลุง เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพัทลุง อำเภอควนขนุน อำเภอศรีบรรพต อำเภอศรีนครินทร์ อำเภอกงหรา อำเภอปากพะยูน อำเภอป่าพะยอม อำเภอป่าบอน อำเภอเขาชัยสน อำเภอบางแก้ว และอำเภอตะโหมด รวม 65 ตำบล 651 หมู่บ้าน 19 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 38,517 ครัวเรือน 119,424 คน ลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันตก 2 จังหวัด ได้แก่ ตรัง เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตรัง อำเภอห้วยยอด อำเภอนาโยง อำเภอปะเหลียน อำเภอวังวิเศษ อำเภอกันตัง อำเภอรัษฎา และอำเภอย่านตาขาว รวม 55 ตำบล 384 หมู่บ้าน 12 ชุมชน ประชาชนได้รับ 16,398 ครัวเรือน 50,467 คน สตูล น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อำเภอละงู รวม 3 ตำบล 18 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 645 ครัวเรือน 1,935 คน ลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันออก 2 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 13 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนราธิวาส อำเภอจะแนะ อำเภอเจาะไอร้อง อำเภอสุคิริน อำเภอระแงะ อำเภอบาเจาะ อำเภอรือเสาะ อำเภอตากใบ อำเภอศรีสาคร อำเภอยี่งอ อำเภอสุไหงปาดี อำเภอสุไหงโก – ลก และอำเภอแว้ง รวม 75 ตำบล 549 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 34,487 ครัวเรือน 137,799 คน นครศรีธรรมราช น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 21 อำเภอ ได้แก่ อำเภอชะอวด อำเภอบางขัน อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอจุฬาภรณ์ อำเภอพิปูน อำเภอทุ่งสง อำเภอปากพนัง อำเภอสิชล อำเภอเมืองนครศรีธรราช อำเภอนาบอน อำเภอฉวาง อำเภอลานสกา อำเภอนบพิตำ อำเภอหัวไทร อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอพรหมคีรี อำเภอพระพรหม อำเภอทุ่งใหญ่ อำเภอช้างกลาง อำเภอร่อนพิบูลย์ และอำเภอท่าศาลา รวม 143 ตำบล 974 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 69,102 ครัวเรือน 203,223 คน ลุ่มน้ำตาปี 1 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพระแสง อำเภอเวียงสระ อำเภอเคียนซา อำเภอบ้านนาสาร และอำเภอบ้านนาเดิม รวม 29 ตำบล 181 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,082 ครัวเรือน 9,737 คน ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง โดยแจกจ่ายถุงยังชีพตามวงรอบอย่างต่อเนื่อง พร้อมประสานจังหวัดจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวตามแผนเผชิญเหตุ รวมถึงให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตระดมทรัพยากรและเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย ทั้งเต็นท์ที่พัก รถผลิตน้ำดื่ม รถไฟฟ้าส่องสว่าง รถบรรทุก รถสุขาเคลื่อนที่ เรือท้องแบน และเครื่องสูบน้ำ สนับสนุนการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตลอดจนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติม เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังสู่ลำน้ำสายหลัก ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๐ แคสเปอร์สกี้เผย บริษัทมากกว่าครึ่งในเอเชียแปซิฟิกใช้ AI และ IoT ในกระบวนการทางธุรกิจ
๑๗:๑๔ พร้อมจัดงาน สถาปนิก'67 ภายใต้ธีม Collective Language : สัมผัส สถาปัตย์
๑๗:๓๓ โรงแรมชามา เลควิว อโศก กรุงเทพฯ จัดโปรโมชั่นฉลองเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๓๘ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ห่วงใยชาวสระแก้ว มอบศาลาที่พักผู้โดยสาร เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ผู้ใช้รถใช้ถนน และเพื่อเป็นที่หลบแดดหลบฝน ณ
๑๗:๔๙ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จัดพิธีประสาทปริญญาบัตร พร้อมมอบดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ 3 ท่าน
๑๗:๑๘ แน็ก ชาลี - มุก วรนิษฐ์ ชวนเปิดประสบการณ์ความเฟรช ในงาน Space of Freshtival 30 มีนาคมนี้ ที่ สยามสแควร์วัน
๑๗:๑๐ อิมแพ็ค จัดงาน Happy Hours: Wine Tasting Craft Beer ต้อนรับลูกค้าช่วงมอเตอร์โชว์
๑๗:๓๒ สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานแพร่ มอบเครื่องมือพื้นฐานชุดการฝึก (ชุดเครื่องมือทำมาหากิน) รุ่นที่ 4/2567
๑๗:๕๒ ดีพร้อม ดึงผู้ประกอบการเงินทุนฯ ทั่วประเทศ เปิดพื้นที่ทดสอบตลาด จัดงาน พร้อมเปย์ ที่ DIPROM FAIR
๑๗:๔๕ เขตราชเทวีจัดเทศกิจกวดขันผลักดันผู้ค้าตั้งวางแผงค้ารุกล้ำบนทางเท้าถนนราชปรารภ