ปภ.รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ พร้อมประสานจังหวัดให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและระดมเครื่องจักรกลเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้จากอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน – 9 ธันวาคม 2560 ทำให้เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี ยะลา สงขลา พัทลุง ตรัง สตูล ชุมพร นราธิวาส นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และกระบี่ รวม 121 อำเภอ 820 ตำบล 5,901 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 502,158 ครัวเรือน 1,616,447 คน เสียชีวิต 22 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 4 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ สตูล ยะลา นราธิวาส ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 7 จังหวัด รวม 56 อำเภอ 374 ตำบล 3,075 หมู่บ้าน 293,321 ครัวเรือน 903,603 คน ประกอบด้วย ลุ่มน้ำปัตตานี 1 จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหนองจิก และอำเภอเมืองปัตตานี รวม 20 ตำบล 93 ประชาชนได้รับผลกระทบ 23,494 ครัวเรือน 88,415 คน ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา 2 จังหวัด ได้แก่ สงขลา ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสทิงพระ อำเภอควนเนียง อำเภอสิงหนคร อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอนางกล่ำ และอำเภอระโนด รวม 46 ตำบล 328 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับ 44,547 ครัวเรือน 125,398 คน พัทลุง เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพัทลุง อำเภอควนขนุน อำเภอศรีบรรพต อำเภอศรีนครินทร์ อำเภอกงหรา อำเภอปากพะยูน อำเภอป่าพะยอม อำเภอป่าบอน อำเภอเขาชัยสน อำเภอบางแก้ว และอำเภอตะโหมด รวม 65 ตำบล 651 หมู่บ้าน 19 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 135,282 ครัวเรือน 405,560 คน ลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันตก 1 จังหวัด ได้แก่ ตรัง ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตรัง อำเภอนาโยง อำเภอวังวิเศษ และอำเภอกันตัง รวม 30 ตำบล 192 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับ 5,757 ครัวเรือน 25,129 คน ลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันออก 2 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอละแม อำเภอเมืองชุมพร อำเภอทุ่งตะโก อำเภอปะทิว อำเภอพะโต๊ะ อำเภอสวี และอำเภอหลังสวน รวม 67 ตำบล 526 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 9,407 ครัวเรือน 30,122 คน นครศรีธรรมราช ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 18 อำเภอ ได้แก่ อำเภอชะอวด อำเภอบางขัน อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอจุฬาภรณ์ อำเภอทุ่งสง อำเภอปากพนัง อำเภอสิชล อำเภอนาบอน อำเภอฉวาง อำเภอนบพิตำ อำเภอหัวไทร อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอพรหมคีรี อำเภอทุ่งใหญ่ อำเภอช่างกลาง อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอท่าศาลา และอำเภอถ้ำพรรณรา รวม 103 ตำบล 1,037 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 70,617 ครัวเรือน 214,091 คน ลุ่มน้ำตาปี 1 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพระแสง อำเภอเวียงสระ อำเภอ เคียนซา อำเภอบ้านนาสาร อำเภอบ้านนาเดิม อำเภอพุนพิน และอำเภอดอนสัก รวม 43 ตำบล 248 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,217 ครัวเรือน 14,888 คน ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง โดยแจกจ่ายถุงยังชีพ เครื่องอุปโภคบริโภค และน้ำดื่ม พร้อมระดมทรัพยากรและเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ทั้งเต็นท์ที่พัก รถผลิตน้ำดื่ม รถไฟฟ้าส่องสว่าง รถบรรทุก รถสุขาเคลื่อนที่ เรือท้องแบน และเครื่องสูบน้ำ สนับสนุนการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตลอดจนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติม เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป