ประชาชนเกินครึ่ง หรือร้อยละ 56.4 มีความหวังต่อสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้ เพราะ เห็น คนไทยรักกันผ่าน ก้าวคนละก้าวของพี่ตูน เชื่อมั่นในความรักความสามัคคีของคนไทย เห็นบ้านเมืองสงบ ปีหน้าจะมีการเลือกตั้ง และมีการจัดระบบมากขึ้น ในขณะที่ร้อยละ 43.6 ระบุ ยังคงมีความกลัวต่อสถานการณ์บ้านเมือง เพราะ ปัญหาปากท้อง คนในประเทศกำลังคิดต่าง มีแต่คนหาผลประโยชน์ตัวเอง ปัญหาอาชญากรรม ไม่ปลอดภัย ไม่บังคับใช้กฎหมายจริงจัง เมื่อจำแนกตามช่วงอายุคน 3 วัย พบว่า กลุ่มคนเกษียณมีความหวังน้อยสุดคือร้อยละ 44.0 ในขณะที่กลุ่มคนวัยทำงานมีความหวังมากสุดคือร้อยละ 59.0 และ กลุ่มวัยรุ่นร้อยละ 53.4 มีความหวังต่อสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้ นอกจากนี้ เมื่อจำแนกตามระดับการศึกษา พบว่า คนที่มีการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรีมีความหวังต่ำสุดคือร้อยละ 53.9 เทียบกับผู้จบปริญญาตรีมีความหวังร้อยละ 60.3 และสูงกว่าปริญญาตรีมีความหวังร้อยละ 65.7
ที่น่าเป็นห่วงคือ เมื่อจำแนกคนตอบแบบสอบถามออกตามอาชีพ พบว่า คนว่างงานมีความหวังต่ำสุดคือร้อยละ 33.3 และมีความกลัวสูงสุดคือร้อยละ 66.7 ในขณะที่อาชีพราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ มีความหวังสูงสุดคือร้อยละ 60.6 อย่างไรก็ตาม เมื่อจำแนกประชาชนออกตามภาคต่างๆ พบว่า คนในภาคใต้มีความหวังต่ำสุดคือร้อยละ 46.8 และคนภาคกลางมีความหวังสูงสุดคือร้อยละ 58.9