นายสุทธิ สุโกศล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เผยว่า กพร.ได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้อย่างใกล้ชิด ช่วงฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ได้สั่งการให้สถาบันและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน ระดมเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าไปในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านและผู้สูงอายุแล้ว พร้อมช่วยกันขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง จัดเจ้าหน้าที่ตัดระบบไฟฟ้าหรือเคลื่อนย้ายปลั๊กไฟ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อชีวิตของประชาชน พร้อมแจ้งมาตรการให้ความช่วยเหลือประชาชน ตามข้อสั่งการของพลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้แก่ มาตรการให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน เช่น บริจาคเครื่องอุปโภคและบริโภค บริการที่พักพิงชั่วคราว บริการยานพาหนะสำหรับขนย้ายสิ่งของและการเดินทาง มาตรการเยียวยาความเสียหาย เช่น การออกหน่วยบริการเครื่องที่ ซ่อมบำรุงอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน ซ่อมบำรุงเครื่องยนต์เพื่อการเกษตร ซ่อมบำรุงรถจักรยานยนต์ เป็นต้น พร้อมจัดตั้งทีมงานและคณะทำงานประสานงานเฝ้าระวัง นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานของแต่ละจังหวัด บูรณาการในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนได้ทันท่วงที
ปัจจุบันสถานการณ์บางแห่งเริ่มคลี่คลายแล้ว แต่บางพื้นที่น้ำยังสูง อาทิ จังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลา ตรัง ยะลา พัทลุง ปัตตานี นราธิวาส และสุราษฏร์ธานี ซึ่งน้ำท่วมในครั้งนี้หนักสุดในรอบ 7 ปี หลังเคยถูกน้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อ พ.ศ. 2553 ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนทั้งทางด้านที่อยู่อาศัย การประกอบอาชีพ และการดำรงชีวิต
นายสุทธิ กล่าวต่อไปว่า นอกจากการให้บริการซ่อมแซมอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้าน และเครื่องมือการเกษตรแล้ว จะดำเนินการฝึกอาชีพให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยเพื่อให้มีความรู้ติดตัว เพื่อให้สามารถซ่อมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้านได้ หรือสามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพ สร้างรายได้ดูแลครอบครัวต่อไป อาทิ ช่างก่อสร้าง ช่างไฟฟ้า ช่างปูกระเบื้อง ช่างซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน เป็นต้น สำหรับพื้นที่น้ำท่วมขัง ได้จัดส่งห้องสุขาลอยน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนด้วย
ในขณะเดียวกันภาคเหนือกำลังประสบภัยหนาว ซึ่งได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของความกดอากาศสูงจากประเทศจีน ที่แผ่ปกคลุมทำให้อุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบกับสุขภาพอนามัยและการดำเนินชีวิตของราษฎรเป็นวงกว้าง สถาบันและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานในเขตจังหวัดทางภาคเหนือ จึงระดมความช่วยเหลือรับบริจาคเครื่องนุ่งห่มและสิ่งของช่วยคลายความหนาวให้แก่ประชาชนผู้ประสบภัย โดยเฉพาะบนดอย ชุมชนบนพื้นที่สูง อาทิ จังหวัดน่าน พะเยา แม่ฮ่องสอน เชียงราย หลังจากนี้จะกำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือในลำดับต่อไป "การให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมและภัยหนาวนั้น เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องทำด้วยความรวดเร็ว ทุ่มเทและเสียสละ เนื่องจากภัยเหล่านี้เกิดขึ้นแบบกะทันหัน ไม่มีเวลาบอกล่วงหน้า เจ้าหน้าที่จึงทำงานแบบไม่เป็นเวลา จึงต้องทุ่มเทและเสียสละ" อธิบดี กพร. กล่าว