สศก. ร่วมเวที LMI - FLM RWG ครั้งที่ 10 ผลักดันกรอบความร่วมมือ รุกแผนริเริ่มลุ่มน้ำโขงตอนล่าง

พุธ ๑๓ ธันวาคม ๒๐๑๗ ๑๑:๐๗
สศก. ร่วมประชุมคณะทำงานระดับภูมิภาคข้อริเริ่มลุ่มน้ำโขงตอนล่างและมิตรประเทศลุ่มน้ำโขงตอนล่าง หรือ LMI และ FLM RWG ครั้งที่ 10 ณ กรุงเวียงจันทน์ ร่วมผลักดันการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน ย้ำเป้าหมายการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการข้อริเริ่มลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพ

นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16-17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สศก. ได้ร่วมประชุมคณะทำงานระดับภูมิภาคข้อริเริ่มลุ่มน้ำโขงตอนล่างและมิตรประเทศลุ่มน้ำโขงตอนล่าง (Lower Mekong Initiative and Friends of the Lower Regional Working Group: LMI and FLM RWG) ครั้งที่ 10 ณ กรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมี รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (นายนิกรเดช พลางกูร) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย

การประชุม LMI และ FLM RWG ครั้งที่ 10 เป็นการประชุมเพื่อหารือเรื่องการจัดระเบียบโครงสร้างสาขาความร่วมมือภายใต้กรอบ LMI และการหาแนวทางเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน รวมทั้งทบทวนเป้าหมายการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการข้อริเริ่มลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ปี 2559-2563 ในสาขาต่าง ๆ ได้แก่ การเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร ความเชื่อมโยง การศึกษา ความมั่นคงด้านพลังงาน สิ่งแวดล้อมและน้ำ และ สาธารณสุข รวมทั้งประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ การจัดระเบียบ/ปรับปรุงโครงสร้างสาขาความร่วมมือภายใต้กรอบ LMI ที่ประชุมเห็นควรให้มีการดำเนินงานในลักษณะของการบูรณาการระหว่างสาขาที่มีความเกี่ยวข้องกันเพื่อลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ดังนั้น ข้อเสนอโครงการด้านการเกษตรจึงควรเป็นโครงการที่ก่อให้เกิดประโยชน์ในภาพรวมแก่ประเทศสมาชิกในภูมิภาค ทั้งนี้ ประเทศไทยได้เสนอโครงการ LMI University Network และ LMI Young Scientist Program ภายใต้สาขาการศึกษาที่มีไทยและสหรัฐอเมริการ่วมกันเป็นผู้นำในสาขานี้และสาขาความมั่นคงด้านพลังงาน

โอกาสเดียวกันนี้ ที่ประชุมได้หารือและรับทราบความก้าวหน้าในเรื่องต่างๆ ในสาขาการเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร โดยองค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. Agency for International Development: USAID) ได้รายงานความก้าวหน้าการดำเนินโครงการ 2 โครงการ คือ 1) Regional Innovation Ecosystem and Youth Networks ซึ่งต้องการกระตุ้นให้เยาวชนหันมาสนใจด้านการเกษตร และการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเกษตร และ 2) Regional Seed Trade policy reform ที่ต้องการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ให้แก่เกษตรกรรายย่อย ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมถึงการปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสมกับมาตรฐานสากล

นอกจากนี้ ในส่วนของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ที่ประชุมเห็นพ้องกันว่า แต่ละประเทศควรจัดทำกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องเป็นภาษาอังกฤษเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างกัน อีกทั้ง ควรมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความรู้ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงมีการกำหนดเป้าหมายและแนวทางการดำเนินงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนให้มากขึ้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๗ ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๑๗:๕๓ NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๑๗:๐๕ แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๑๗:๓๒ แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๑๗:๒๕ RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๑๗:๔๘ ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๑๗:๐๕ เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๑๗:๐๖ ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๑๗:๔๙ ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud
๑๗:๐๐ เปิดรับสมัครแล้ว HaadThip Fan Run 2024 แฟนรัน ฟันแลนด์ ดินแดนมหัศจรรย์ หาดสมิหลา จ.สงขลา