สภาปัญญาสมาพันธ์ แนะรัฐพัฒนา 6 ยุทธศาสตร์ ดันไทยสู่ประเทศรายได้สูง รับปี 61

พุธ ๑๓ ธันวาคม ๒๐๑๗ ๑๕:๒๔
· เปิดผลวิจัยยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยสู่ประเทศรายได้สูง พร้อมเสนอทางเลือกเชิงนโยบายและกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม ให้หลุดจากกับดักประเทศรายได้ปานกลาง

สภาปัญญาสมาพันธ์ เปิดผลวิจัยยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศสู่ประเทศรายได้สูง เผยยุทธศาสตร์และกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม จะทำให้ประเทศหลุดจากกับดักประเทศรายได้ปานกลางได้อย่างยั่งยืน ในอนาคต พร้อมเสนอ 6 ยุทธศาสตร์ความสำเร็จในการก้าวสู่ประเทศรายได้สูง ได้แก่

1. เพิ่มการลงทุนในการวิจัยและพัฒนา

2. ยกระดับคุณภาพการศึกษา

3. พัฒนาเศรษฐกิจภาคบริการ

4. ขยายตลาดส่งออก

5. ลดต้นทุนโลจิสติกส์

และ 6. ลดการพึ่งพาการนำเข้า

ระบุการวางกลยุทธ์ที่ถูกต้องและเหมาะสมของรัฐบาล คือประเด็นสำคัญที่ควรตระหนักในการสร้างชาติให้มั่นคงและยั่งยืน

นายทวีชัย เจริญเศรษฐศิลป์ ผู้อำนวยการวิจัยสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา เปิดเผยผลวิจัยยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศสู่ประเทศรายได้สูง พร้อมเสนอทางเลือกเชิงนโยบายและกลไกในการขับเคลื่อน ระบุว่าปัจจุบันประเทศไทยยังคงติดอยู่ในกับดักรายได้ปานกลาง (Middle Income Trap) เนื่องจากไม่สามารถปฏิรูปเศรษฐกิจไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม (innovation-driven economy) จึงไม่สามารถรักษาการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับสูงไว้ได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ การที่ประเทศไทยมีทรัพยากรจำกัดจึงควรมียุทธศาสตร์ ในการจัดการกับทางเลือกต่างๆ อย่างเหมาะสม งานวิจัยชิ้นนี้จึงได้สังเคราะห์ทางเลือกนโยบายการพัฒนาประเทศสู่รายได้สูง โดยค้นหานโยบายต่างๆ มาจัดเรียงลำดับความสำคัญ พร้อมวิเคราะห์และนำเสนอยุทธศาสตร์และกลไกขับเคลื่อนให้เกิดขึ้นจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ แบ่งออกเป็น 6 ด้าน ได้แก่

1. เพิ่มการลงทุนในการวิจัยและพัฒนา โดยการจัดทำโครงการลงทุนขนาดใหญ่ด้านการวิจัยและพัฒนา

2. ยกระดับคุณภาพการศึกษา โดยการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เพื่อให้ผู้เรียนเข้าถึงการเรียนการสอนที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง

3. พัฒนาเศรษฐกิจภาคบริการ โดยเปิดเสรีภาคบริการ ส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน และย้ายแรงงานออกจากภาคเกษตร

4. ขยายตลาดส่งออก โดยการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าเกษตรส่งออก

5. ลดต้นทุนโลจิสติกส์ โดยการผลักดันการขนส่งระบบราง และพัฒนาศักยภาพการบริหารสินค้าคงคลัง

และ 6. ลดการพึ่งพาการนำเข้า โดยการส่งเสริมพลังงานทดแทนเพื่อลดการนำเข้าพลังงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน

ด้าน ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ประธานสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา และประธานสถาบันการสร้างชาติ กล่าวเสริมว่า ประเด็นสำคัญที่ควรตระหนักในการสร้างชาติให้มั่นคงและยั่งยืน คือการกำหนดยุทธศาสตร์สำหรับพัฒนาประเทศ โดยคำนึงถึงโครงสร้างและความซับซ้อนของโลกปัจจุบัน อันเป็นผลมาจากปัจจัยในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการวางกลยุทธ์ที่ถูกต้องและเหมาะสมของรัฐบาล พร้อมกัน 5 ด้าน ได้แก่

1. กลยุทธ์ต้องเข้าใจได้ง่าย เพื่อลดความไม่แน่นอนและช่วยผู้ที่เกี่ยวข้อง คาดการณ์สถานการณ์และตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เช่น นโยบายด้านอัตราแลกเปลี่ยน

2. กลยุทธ์การร่วมมือกัน โดยเพิ่มการสื่อสารให้มากขึ้นระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสัมคม เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

3. กลยุทธ์กระจายอำนาจ เพื่อช่วยให้การตัดสินใจนโยบายภาครัฐเกิดประสิทธิผลมากขึ้น เช่น การกระจายอำนาจด้านการศึกษาให้โรงเรียนต่างจังหวัด ได้รับการพัฒนาและส่งเสริมอย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น

4. กลยุทธ์ด้านระบบดิจิตอล โดยนำเอาระบบดิจิตอลมาช่วยการจัดอย่างเป็นระบบ เพื่อลดความซับซ้อนและจำนวนคนที่เกี่ยวข้อง

และ 5. กลยุทธ์การมองจากภายนอก โดยภาครัฐควรใช้นโยบายเชิงรุกในเวทีระหว่างประเทศ เช่น การเป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งการรวมกลุ่มระหว่างประเทศ เป็นต้น

ขณะที่ ศาสตราจารย์ ดร.โฮเซ สเตลเล่ ผู้เขียนหนังสือ 'บทเล็คเชอร์ที่จีน' กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์เลวร้ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกในปัจจุบัน มีอิทธิพลมาจากแรงกดดันหลัก 2 ประการ ได้แก่ 1. ระบบสังคมนิยม และ 2. แรงกดดันอื่นที่คล้ายกับระบบสังคมนิยม สิ่งที่จะช่วยให้สถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้นได้นั้น จำเป็นต้องอาศัย "หลักนิติธรรม" ประกอบด้วย กฏหมายต้องถูกสร้างขึ้นเพื่อประโยชน์กับคนในประเทศ ต้องมีความเสมอภาคในการใช้กฏหมาย ผู้บังคับใช้กฏหมายต้องเป็นกลาง และต้องมีกระบวนการยุติธรรมและรัฐธรรมนูญที่ดี ควบคู่กับการเปิดโอกาสให้ทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพภายใต้กฏหมาย เพื่อให้ประชาชนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุขในสังคม ซึ่งในภาพรวมจะก่อนให้เกิดความสามัคคีและประเทศชาติที่เข้มแข็ง และนำไปสู่การเพิ่มศักยภาพขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สภาปัญญาสมาพันธ์ (WISDOM COUNCIL) โทรศัพท์ 084-522-4424 อีเมล: [email protected] หรือเข้าไปที่www.wisdomcouncilthailand.com

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๐๑ ALLY ผนึก Mural ลงทุนซื้อหุ้นสมาคมมวยปล้ำสเปน หวังผลักดันมวยปล้ำสเปนขึ้นแท่นลีกหลักในยุโรปและลาตินอเมริกา
๑๖:๓๙ โอกาสจองซื้อหุ้นกู้บริษัทชั้นนำ ช.การช่าง เสนอขายช่วงวันที่ 25 - 29 เมษายน 2567 ชูผลตอบแทน 3.40 - 4.10% ต่อปี อันดับความน่าเชื่อถือ A- ติดต่อผ่าน ธ.กรุงเทพ และ ธ.กรุงไทย
๑๖:๕๔ บางจากฯ สนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนาเยาวชนในทักษะแห่งอนาคต ผ่านโครงการ SI Sphere: Sustainable Intelligence-based Society Sphere โดย UN Global Compact Network
๑๕:๑๓ เปิดไลน์อัพ 10 ศิลปินหน้าใหม่มาแรงแห่งปีจาก Spotify RADAR Thailand 2024
๑๕:๐๘ อาร์เอส กรุ๊ป เดินหน้ากลยุทธ์ Star Commerce ยกทัพศิลปิน-ดารา เป็นเจ้าของแบรนด์ และดันยอดขายด้วย Affiliate Marketing ประเดิมส่งศิลปินตัวแม่ ใบเตย อาร์สยาม
๑๕:๒๐ กสิกรไทยผนึกกำลังเจพีมอร์แกน เปิดตัวโปรเจกต์คารินา ดึงศักยภาพบล็อกเชน ลดระยะเวลาธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ
๑๕:๐๖ สเก็ตเชอร์ส จัดกิจกรรม SKECHERS PICKLEBALL WORKSHOP ส่งเสริมสุขภาพและขยายคอมมูนิตี้กีฬา Pickleball ในไทย
๑๕:๕๖ SHIELD จับมือแอสเซนด์ มันนี่ และ Money20/20 Asia จัดกิจกรรมระดมเงินบริจาคแก่มูลนิธิรามาธิบดี
๑๕:๔๓ 'ASW' เตรียมโอนกรรมสิทธิ์ 4 คอนโดฯ ใหม่ ไตรมาส 2 ครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และภูเก็ตมูลค่ารวมกว่า 6,600 ล้านบาท
๑๕:๔๑ โก โฮลเซลล์ สนับสนุนเกษตรกรไทย ปูพรมจำหน่ายผลไม้ฤดูกาล สดจากสวนส่งตรงถึงมือคุณ