ซึ่งในปี 2017 อิปปุโดะประเทศไทย ได้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 และยังคงเดินหน้าเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมเปิดให้บริการในประเทศไทยแล้ว 8 สาขา ปัจจุบัน Ippudo มีสาขาซึ่งเป็น full store concept 4 สาขาที่ เซ็นทรัลเอ็มบลาสซี่, เอ็มโพเรียม, สีลมคอมเพล็กซ์, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า และ kiosk 2 สาขาที่ เทอมินัล 21, เซ็นทรัลบางนา และสาขาน้องใหม่ล่าสุด คือสาขา Emquartier และ Megabangna
สาขา Emquartier อยู่ชั้น B ของตึก The Glass Emquartier ร้านอิปปุโดะรูปแบบ Kiosk เน้นความรวดเร็วโดยจะจำหน่ายเฉพาะเมนู signature เหมาะสำหรับลูกค้าที่มีเวลาไม่มาก ตกแต่งด้วยสีสันที่สดใส ออกแบบให้ตัวร้านดูโล่งโปร่งสบาย แต่ยังคงความเป็นส่วนตัวด้วยกระจกรอบด้าน ภายในร้านตกแต่งด้วยไม้เพิ่มความผ่อนคลาย highlight อยู่ที่โครงไม้ ซึ่งเป็นการนำชิ้นไม้มาต่อกันชิ้นต่อชิ้น จนออกมาเป็นรูปชามราเมงเรียงรายกันอย่างสวยงาม เมนูขึ้นชื่อหลักๆ ของทางร้านก็คือราเมงสไตล์ฮากาตะรสชาติต้นตำรับ
ชิโรมารุ โมโตอาจิ (ราเมงน้ำซุปกระดูกหมูสูตรต้นตำรับของอิปปุโดะ ใช้เส้นราเมงแบบเล็กพิเศษ, หมูชาชูส่วนไหล่, หมูชาชูส่วนท้อง, ถั่วงอก, เห็ดหูหนูคิคูราเกะ และต้นหอม),อากะมารุ ชินาจิ ราเมงรสชาติกลมกล่อมทันสมัย (ซุปกระดุกหมูต้นตำรับของอิปปุโดะ เพิ่มกลิ่นและรสชาติด้วยแบล็ค การ์ลิค และซอสมิโซะเข้มข้น เสิร์ฟกับเส้นราเมงแบบเล็ก, ถั่วงอก, หมูชาชูส่วนไหล่, หมูชาชูส่วนท้อง, เห็ดหูหนูคิคูราเกะ และต้นหอม) และราเมงรสเผ็ดสูตรพิเศษ คาราคา เมง (ซุปกระดูกหมูดั้งเดิมจากอิปปุโดะ เพิ่มรสชาติด้วยหมูสับผัดซอสมิโซะรสเผ็ด และเม็ดมะม่วงหิมพานต์บด)
นอกจากนี้ยังมีอาหารทานเล่นยอดนิยมอื่นๆ อาทิ เกี๊ยวซ่าสไตล์ฮากาตะ, ทาโกะยากิ, และแซลมอนโรลท็อปด้วยไข่ปลาเมนไทโกะ ให้คุณได้ลิ้มลอง
สำหรับสาขา Megabangna อยู่ชั้น L2 Mega FoodWalk โซนใหม่ โดย Ippudo สาขานี้เปิดให้บริการแบบ Full Store Concept ขนาดใหญ่รองรับได้กว่า 92 ที่นั่ง ตกแต่งอย่างเป็นเอกลักษณ์ ด้วยฝีมือดีไซน์เนอร์จากญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยกำแพงชามราเมง I love ramen ที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านอิปปุโดะทั่วโลก การออกแบบตัวร้านที่โปร่งสบายด้วยการใช้กระจกบานใหญ่เชื่อมไปยังโซนระเบียงด้านหลัง ซึ่งลูกค้าสามารถนั่งชิลเอาท์ด้านนอกได้อีกด้วย ภายในร้านตกแต่งด้วยงานไม้สีอ่อนเพิ่มบรรยากาศความอบอุ่น ตัวร้านที่กว้างขวางเหมาะกับการมาทานกับครอบครัว หรือหากมาทานคนเดียวก็สามารถนั่งที่ Counter Bar ติดกับ Open Kitchen ขนาดใหญ่ซึ่งคุณจะสามารถมองเห็นขั้นตอนการทำราเมงและเมนูต่างๆ ได้อย่างชัดเจน นอกจากเมนูขึ้นชื่อหลักๆ ของทางร้าน ที่สาขาใหม่นี้ยังมีราเมงน้องใหม่ที่เพิ่งเริ่มจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายนเพื่อฉลองครบรอบ 3 ปี อาทิ
ฮากาตะ โทริ ชิโระมารุ ราเมงน้ำซุปไก่ ที่ผ่านการเคี่ยวอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้รสชาติต้นตำรับ ตามแบบฉบับฮากาตะ ที่มีความเลื่องชื่อในเรื่องน้ำซุปไก่ เสิร์ฟพร้อมเส้นราเมงแบบหนา ท็อปด้วยไก่ชาชู, ผักโขม, หน่อไม้ และต้นกระเทียมญี่ปุ่น
ฮากาตะ โทริ อากามารุ ราเมงน้ำซุปไก่รสชาติต้นตำรับ ตามแบบฉบับฮากาตะ ที่เพิ่มความเข้มข้นของน้ำซุปด้วยน้ำมันหอมระเหย แบล็ค การ์ลิค เสิร์ฟพร้อมเส้นราเมงแบบหนา ท็อปด้วยไก่ชาชู, ผักโขม, หน่อไม้ และต้นกระเทียมญี่ปุ่น
อิปปุโดะ เกียวไค ทงคตสึ น้ำซุปทงคตสึสูตรเข้มข้น หอมกลิ่นปลาแห้ง เสิร์ฟพร้อมราเมงเส้นหนาปานกลาง ท็อปด้วยหมูชาชู, ผักกะหล่ำ, หน่อไม้ญี่ปุ่น และต้นหอม และยังมีเมนูอื่นที่น่าลิ้มลองไม่แพ้กันนั่นคือ กุ้งทอดสอดไส้ชิกุวะ, เทริยากิ ทามาโกะ บัน, เกี๊ยวซ่าทอด เสิร์ฟพร้อมต้นหอมซอย และอื่นๆ อีกมากมาย
อิปปุโดะพร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่ของการทานราเมงให้คนไทย ใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่การออกแบบร้านที่ทันสมัยและเป็นเอกลักษณ์ เสิร์ฟราเมงต้นตำรับญี่ปุ่นแท้ๆ สไตล์ฮากาตะ โดยใช้วัตถุดิบคุณภาพชั้นเยี่ยม และบริการที่เป็นเลิศ เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาทานอาหารในร้านในทุกๆ วัน