“รมช.ยักษ์”มอบหม่อนไหมทำแผนเพิ่มจำนวนเกษตรกรปลูกหม่อนเลี้ยงไหมหวั่นสูญ นำร่อง ต.ปะอาว จ.อุบลฯ เพิ่มสัดส่วนเกษตรกรเลี้ยงไหมอีก 10% ต่อปี พร้อมลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์เชื่อมโยงตลาดขึ้นห้างเซ็นทรัล

พุธ ๐๓ มกราคม ๒๐๑๘ ๐๙:๒๑
"รมช.ยักษ์"มอบหม่อนไหมทำแผนเพิ่มจำนวนเกษตรกรปลูกหม่อนเลี้ยงไหมหวั่นสูญ นำร่อง ต.ปะอาว จ.อุบลฯ เพิ่มสัดส่วนเกษตรกรเลี้ยงไหมอีก 10% ต่อปี พร้อมลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์เชื่อมโยงตลาดขึ้นห้างเซ็นทรัล

ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดงาน "ชิมหม่อน ชมไหม ส่งสุขปีใหม่ 2561" ซึ่งจัดขึ้นโดยกรมหม่อนไหม ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลปะอาว อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินโครงการ "เกษตรกรได้รับ ประชาชนได้รู้ คืนความสุขสู่คนไทย จากใจกระทรวงเกษตรและสหกรณ์" โดยมอบหมายให้หน่วยงานในสังกัด ร่วมจัดกิจกรรมเพื่อเป็นการคืนความสุขให้กับเกษตรกรและประชาชนทั่วไปในช่วงเทศกาลปีใหม่ตามนโยบายของรัฐบาลและกระตุ้นการใช้จ่ายเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งกรมหม่อนไหมได้จัดงาน"ชิมหม่อน ชมไหม ส่งสุขปีใหม่ 2561" ขึ้นระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2560- 2 มกราคม 2561 ณ ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ 21 ศูนย์ ทั่วประเทศ และจัดให้มีการเปิดตัวโครงการขึ้นในวันนี้ โดยโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อคืนความสุขให้กับเกษตรกรและประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ สร้างแหล่งเรียนรู้ศึกษาดูงานด้านหม่อนไหมให้ผู้ที่สนใจ และยังเป็นการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์หม่อนไหมที่มีคุณภาพ ช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดให้สินค้าหม่อนไหม

"กิจกรรมดังกล่าวนอกจากเป็นการคืนความสุขให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่แล้ว ยังเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ซึ่งในปัจจุบันพบว่ามีเกษตรกรปลูกหม่อนเลี้ยงไหมทั่วประเทศเพียง 80,000 ราย ดังนั้น กระทรวงเกษตรฯ ได้มอบหมายให้กรมหม่อนไหมจัดทำแผนเพิ่มจำนวนเกษตรกรผู้ปลูกหม่อมเลี้ยงไหมให้แก่เกษตรกรโดยเป็นแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี มีเป้าหมายเพิ่มจำนวนเกษตรกรไม่ต่ำกว่า 5 %/ปี หรือคิดเป็นจำนวนเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเพิ่มขึ้นเป็น 850,000 รายในอีก 20 ปีข้างหน้า โดยที่ ต.ปะอาว เกษตรกรมีการรวมกลุ่มกันอย่างเข้มแข็งและมีสัดส่วนเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมถึง 10% /ปี ซึ่งจะส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกร วิถีชีวิตและภูมิปัญญาการผลิตไหมไทยไม่ให้สูญหาย รวมถึงการเพิ่มทางเลือกให้กับเกษตรกรโดยเฉพาะการปลูกหม่อนที่เป็นพืชที่มีความแข็งแรง ต้านทานในทุกสภาพอากาศได้เป็นอย่างดี"ดร.วิวัฒน์ กล่าว

ส่วนในช่วงบ่ายดร.วิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ได้เดินทางต่อไปยังบ้านวังอ้อ ต.หัวดอน อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี เพื่อเปิดป้ายกลุ่มเกษตรอินทรีย์วิถีไทย ณ ศูนย์พุทธรรมพรหมวชิรญาณ วัดป่าใหญ่วังอ้อ พร้อมตรวจเยี่ยมกิจกรรมตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง โคก หนอง นา โมเดล พบปะเกษตรกรเครือข่ายเกษตรอินทรีย์วิถีไทยและกลุ่มเซ็นทรัลกรุ๊ป และท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งเป็นภาคเอกชนที่รับซื้อผลผลิตโดยตรงจากเกษตรกรไปจำหน่าย ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พลาซ่า จ.อุบลราชธานี

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๐ ก.แรงงาน เตือนประชาชนรอบโกดังกากของเสีย จ.ระยอง ปฏิบัติตามคำแนะนำ พร้อมกำชับดูแลความปลอดภัยของลูกจ้างแรงงาน
๐๙:๒๘ MSC ร่วมกับ AWS จัดงาน MSC x AWS ECO Connect
๐๙:๐๕ เอเอฟเอส ประเทศไทย ผนึกกำลังศิษย์เก่า แลกเปลี่ยนแนวคิดธุรกิจให้เติบโตและยั่งยืน
๐๙:๐๐ Synology ช่วยให้องค์กรต่างๆ นำแผนการกู้คืนข้อมูลจากแรนซัมแวร์ไปปรับใช้ได้อย่างไร
๐๙:๓๗ ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ชวนคนกรุงฯ ค้นหาความสุขที่แท้จริงของชีวิต กับกิจกรรม ธรรมะในสวน ห้วข้อ เข้าใจชีวิต พิชิตสุข ณ สวนเบญจกิติ 4 พฤษภาคม 2567
๐๙:๐๒ ฉางเจียงเปิดแฟชั่นโชว์ หลอมรวมวัฒนธรรมและงานศิลป์อวดสายตาชาวโลก
๐๙:๕๗ เจาะฟีเจอร์กล้อง 108MP ใน HUAWEI nova 12i สเปกเท่าเรือธงในงบต่ำหมื่น!
๐๘:๑๓ ม.หอการค้าไทย ลงนามความร่วมมือ กับ AIT
๐๘:๒๑ จับติ้วแบ่งสายสุดเดือด ศึกลูกหนังเยาวชน แอสเซทไวส์ สยามกีฬาคัพ 2024 เริ่มโม่แข้ง 23 เม.ย.นี้!!
๐๘:๔๐ The Winner of OpsSimCom 2024 by MIT Sloan is.THAMMASAT.!!