สจล. แนะหน่วยงานรัฐ “มอนิเตอร์” ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ทั่ว กทม.

จันทร์ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๘ ๑๕:๓๙
- สจล. เร่งผลักดันแนวทางพัฒนา "กทม." สู่เมืองอัจฉริยะที่สมบูรณ์แบบ ชี้ระบบ "สมาร์ท ซิตี้" คือทางออกในการแจ้งเตือนปัญหามลพิษ แก่ประชาชนได้ทันท่วงที - ลดผลกระทบสุขภาพ

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) แนะหน่วยงานรัฐวางแผนยุทธศาสตร์เพื่อป้องกันและบรรเทาผลกระทบปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กและมลพิษในอากาศ แนะจัดให้มีระบบมอนิเตอร์ค่าฝุ่นละอองในเขตพื้นที่ก่อสร้างขนาดใหญ่ทุกแห่งตลอดเวลา หากพื้นที่ไหนค่าการตรวจวัดมีแนวโน้มสูงขึ้นเกินค่ามาตรฐาน ต้องทำการแจ้งเตือนเพื่อให้ผู้รับผิดชอบเข้าไปดำเนินการ ลดหรือควบคุมฝุ่นละอองให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานอย่างทันท่วงที พร้อมผลักดันแนวทางพัฒนากรุงเทพมหานครสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะที่สมบูรณ์แบบ โดยจัดตั้งสถาบันวิจัยนวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ (Smart City innovative Research Academy: SCiRA) ขึ้น ทำหน้าที่เป็นศูนย์ปฏิบัติการที่คอยรวบรวมองค์ความรู้และข้อมูล เผยแพร่ไปสู่ผู้เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไป ด้วยรูปแบบที่เข้าใจง่าย เพื่อให้สามารถนำข้อมูลไปใช้ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

จากสถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สูงเกินมาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยล่าสุดในวันนี้ (9 ก.พ. 2561) กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เมื่อเวลา 15.00 น. พบค่าฝุ่นละอองระหว่าง 37 - 59 มคก./ลบ.ม. ซึ่งภาพรวมแม้ว่าปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลงทุกพื้นที่ แต่ยังคงมีพื้นที่สูงเกินเกณฑ์มาตรฐานในหลายจุด ได้แก่ บริเวณเขตวังทองหลาง ริมถนนพระรามสี่ ริมถนนอินทรพิทักษ์ และริมถนนลาดพร้าวนั้น

ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงเกินค่ามาตรฐานในหลายพื้นที่ทั่วกรุงเทพมหานคร เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตคนกรุงโดยเฉพาะในด้านสุขภาพอนามัย โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจและผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ส่งผลให้ขณะนี้หน่วยงานด้านสุขภาพได้ออกมาเตือนและแนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัยเมื่อจำเป็นต้องออกจากอาคาร และหากมีอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์ ขณะเดียวกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ในการกำกับดูแลกิจกรรมต่างๆ ที่อาจก่อให้เกิดฝุ่นละอองในพื้นที่ โดยเฉพาะการใช้ยานพาหนะ การเผา และการก่อสร้าง เพื่อที่จะช่วยลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์ลงได้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสถานการณ์ในบางพื้นที่จะเริ่มคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ปัญหามลพิษที่เกิดขึ้นกับคนกรุงในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ และสะท้อนว่าขณะนี้ผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวคนเมืองอีกต่อไป ดังนั้น ประเด็นนี้จึงเป็นสิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งบูรณาการทำงานร่วมกัน ในการวางแผนยุทธศาสตร์เพื่อป้องกันและบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เนื่องจากขณะนี้ทั่วทุกพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร กำลังเร่งดำเนินโครงการก่อสร้างต่างๆ โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าและปรับปรุงถนนและทางเชื่อมแยก รวมไปถึงโครงการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยตามการขยายของเมือง ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าโครงการเหล่านี้เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้เกิดฝุ่นละอองเพิ่มสูงขึ้นในอากาศ นอกเหนือไปจากควันรถยนต์และการเผาไหม้

"แน่นอนว่าการพัฒนาพื้นที่โดยเฉพาะระบบขนส่งมวลชน เป็นสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการให้เท่าทันการขยายของเมือง แต่เนื่องจากโครงการก่อสร้างเหล่านี้มีส่วนสำคัญ ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น หน่วยงานรัฐโดยเฉพาะกรุงเทพมหานครควรดำเนินการเพื่อลดผลกระทบให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด โดยจัดให้มีระบบมอนิเตอร์ค่าฝุ่นละอองในเขตพื้นที่ก่อสร้างขนาดใหญ่ทุกแห่งตลอดเวลา หากพื้นที่ไหนค่าการตรวจวัดมีแนวโน้มสูงขึ้นเกินค่ามาตรฐาน ต้องทำการแจ้งเตือนเพื่อให้ผู้รับผิดชอบเข้าไปดำเนินการ ลดหรือควบคุมฝุ่นละอองให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานอย่างทันท่วงที" ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าว

ทั้งนี้ ในส่วนของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังนั้น ขณะนี้ได้เร่งผลักดันแนวทางพัฒนากรุงเทพมหานครสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะที่สมบูรณ์แบบ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนกรุง โดยจัดตั้งสถาบันวิจัยนวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ (Smart City innovative Research Academy: SCiRA) ขึ้น ซึ่งพบว่าในเรื่องปัญหามลพิษทางอากาศนั้น จำเป็นต้องศึกษาและปรับทุกระบบให้พร้อมในหลายด้าน โดยเฉพาะด้านระบบสิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ (Smart Environment) ระบบพลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy) และระบบสุขภาพอัจฉริยะ (Smart Health) สำหรับการมอนิเตอร์และแจ้งเตือนประชาชนให้ปฏิบัติตนได้ถูกต้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ รวมไปถึงระบบสารสนเทศอัจฉริยะ (Smart IT) ในการกระจายข้อมูลข่าวสารและการแจ้งเตือนเข้าถึงประชาชนได้อย่างทันท่วงที โดย SCiRA จะทำหน้าที่เป็นศูนย์ปฏิบัติการที่คอยรวบรวมองค์ความรู้และข้อมูล เผยแพร่ไปสู่ผู้เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไป ด้วยรูปแบบที่เข้าใจง่าย เพื่อให้สามารถนำข้อมูลไปใช้ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

นักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไป สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หมายเลขโทรศัพท์ 02-329-8111 หรือเข้าไปที่ www.kmitl.ac.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4