นายสุทธิ สุโกศล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่าจากการที่รัฐบาลมีนโยบายที่ต้องการสร้างโอกาสและคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้ต้องขัง โดยผ่านกระบวนการฝึกอบรมวิชาชีพ จริยธรรม ให้โอกาสกับผู้เคยกระทำผิดปรับปรุงตนเอง อันจะเปลี่ยนภาระให้เป็นพลัง คืนคนดีสู่สังคม พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จึงได้มอบหมายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) ดำเนินการพัฒนาทักษะฝีมือให้กับผู้ต้องขังที่ใกล้พ้นโทษ เน้นเพิ่มทักษะความรู้ความสามารถ เตรียมความพร้อมทางด้านจรรยาบรรณในวิชาชีพเข้าสู่กระบวนการทำงาน สร้างความเชื่อมั่นให้กับนายจ้างและสถานประกอบกิจการ หรือสามารถประกอบอาชีพอิสระได้ รวมถึงแก้ปัญหาขาดแคลนคนทำงานในบางสาขาอาชีพ โดยร่วมมือกับให้กรมการจัดหางานหาอาชีพให้ทำ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานและสำนักงานประกันสังคม ดูแลสิทธิประโยชน์ในระหว่างทำงาน เป็นต้น
นายสุทธิ กล่าวต่อไปว่าหน่วยงานในสังกัด สถาบันและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานทั่วประเทศใช้แนวทางประชารัฐประสานความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ จัดฝึกอบรมในเรือนจำในจังหวัดต่างๆ ในสาขาอาชีพที่อยู่ในความต้องการของตลาดแรงงาน ในปี 2560 ได้ดำเนินการฝึกอบรมจำนวน 7,693 คน ส่วนในปีนี้ (2561) ได้ดำเนินการฝึกอบรมไปแล้ว 3,058 คน ประกอบด้วยการฝึกให้กับ ผู้ต้องขังหญิง อาทิการทำขนมไทย การประกอบอาหารไทย การนวดตอกเส้นเพื่อสุขภาพ การสานเปลจากเศษผ้า ส่วนผู้ต้องขังชาย ก็จะเน้นไปทางด้านอาชีพช่าง ช่างเชื่อมอาร์กโลหะด้วยมือ ช่างซ่อมเครื่องปรับอากาศในบ้านและการพาณิชย์ขนาดเล็ก ช่างติดตั้งหลังคาและผนังเมทัลชีท ช่างก่ออิฐฉาบปูน เป็นต้น เกินจากเป้าหมายที่วางไว้ 2,460 คน ผู้ผ่านการฝึกอบรมจะได้รับโอกาสในการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานในสาขานั้นๆ ด้วย
"เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงานของผู้ต้องขัง กพร.จึงประสานความร่วมมือกับหลายหน่วยงาน อาทิ กรมการจัดหางาน กรมราชทัณฑ์ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยจะร่วมกันดำเนินการฝึกอาชีพระยะสั้นและระยะยาว ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ประกอบชิ้นงานเพื่อจำหน่ายสร้างรายได้แก่ผู้ต้องขัง แนะแนวอาชีพ ให้ข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงาน แนะนำการประกอบอาชีพอิสระ ได้แก่ การหาทำเล การคำนวณต้นทุน การบริหารธุรกิจ รับผู้ต้องขังชั้นดีใกล้พ้นโทษเข้าฝึกทักษะในสถานประกอบกิจการ รับลงทะเบียนและบริการจัดหางานให้แก่ผู้พ้นโทษที่ประสงค์จะหางานทำ ซึ่งจะมีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือ "โครงการโรงงานในเรือนจำ"ร่วมกันในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 ณ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษจังหวัดปทุมธานี ทั้งนี้ กลุ่มผู้ต้องขังเป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายเฉพาะที่ กพร. ต้องมีการพัฒนาทักษะฝีมือให้มีงานทำเฉกเช่นเดียวกับกลุ่มผู้ประสบภัยธรรมชาติ ผู้ผ่านการบำบัดยาเสพติด ทหารบาดเจ็บและทุพพลภาพ ชนกลุ่มน้อย คนพิการ/ผู้ดูแลคนพิการ แรงงานนอกระบบ เพื่อให้คนกลุ่มนี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น" อธิบดีกพร. กล่าว