ออกเดินทางไปสัมผัสแคว้นซิซิลี ผ่านทางการชิมไวน์ และอาหาร ที่จัดวางอยู่ทั่วบริเวณของซูมอย่างลงตัว รับชมวิวอันสวยงามของเมืองหลวงที่บาร์ ของ ซูม สกาย เลาจน์ และนั่งรับประทานอาหารที่นั่งอันแสนสบาย หรือจะออกไปที่ระเบียงเพื่อชื่นชมกับวิวของแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วก้าวขึ้นไปยัง ซูม สกาย บาร์ แอนด์ เรสเตอรองต์ ที่ชั้นดาดฟ้า เพื่อรับชมวิวของกรุงเทพมหานครแบบ 360 องศา ด้วยการออกแบบของ ซูม สกาย บาร์ แอนด์ เรสเตอรองต์ ที่แบ่งออกเป็น 2 ชั้น ชั้นบนนั้นมีบาร์ขนาดใหญ่ ซึ่งจะเหมาะกับการสังสรรค์กับเพื่อนฝูง หรือจะลงไปที่ชั้นล่างที่มีโซฟาตัวใหญ่ที่จะให้ความเป็นส่วนตัว และทิวทัศน์ที่คุณนั้นอาจจะไม่เคยเห็น เพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงที่จะมาเพิ่มความสนุกให้กับคุณ จาก DJ Jerome ในค่ำคืนนั้น
แขกทุกท่านนั้นจะได้ชิมไวน์ และอาหารที่จะมีให้บริการตลอดทั้งคืน ซึ่งอาหารนั้นถูกสร้างสรรค์โดยเชฟกิ๊บขึ้นมาเพื่อจับคู่กับไวน์โลกเก่าจากแคว้นซิซิลี ซึ่งแต่ละสเตชั่นจะมีเชฟมาคอยให้บริการปรุงอาหารให้ตลอด เช่น 'Sword Fish Carpaccio with Lemon Oil and Rocket Puree', 'Grilled Beef Prime Rib with Italian Blue Cheese Sauce' และของหวานแสนอร่อย 'Pistachio Zabagliones with Strawberry' โดยที่อาหารแต่ละอย่างนั้นจะเพิ่มความอร่อยให้กับไวน์จากไรองุ่นจากแคว้นซิซิลี ที่ได้ถูกคัดเลือกมาแล้วเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นโพรเซคโค, ไวน์แดง, ไวน์ขาว และโรเซ่ไวน์
เพื่อเป็นการส่งเสริมการปลูกองุ่นสำหรับการทำไวน์ขั้นสูงที่แคว้นซิซิลี Pitars wines นั้นได้มีการถ่ายทอดการทำไวน์จากรุ่นสู่รุ่นภายในครอบครัว Pittaro ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการทำไวน์มาตั้งแต่ปีค.ศ. 1510 ด้วยดินที่มีหินปนอยู่ กับแร่ธาตุต่างๆ ที่อุดมสมบูรณ์ ของสวนองุ่น Cantina San Martino จึงได้มีผลผลิตขององุ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผสมผสานกับศิลปะของการทำไวน์ที่สืบทอดกันมา และเทคโนโลยีที่ทันสมัยของการผลิตไวน์ ทำให้ได้ไวน์ชั้นเลิศ ในขณะที่ไวน์ Feudo Maccari นั้นมีผลิตที่เมือง Val di Noto ซึ่งที่นั่นนั้นมีดินที่มีส่วนผสมของแร่ธาตุจากภูเขาอย่างเข้มข้น จึงเหมาะสมอย่างมากสำหรับการปลูกไวน์หลากหลายชนิดตั้งแต่สมัยโบราณ และนำไปรวมเข้ากับความหลงใหลในการทำไวน์ของครอบครัวของ Antonio Moretti ที่ได้สืบทอดมรดกอันทรงคุณค่าของอิตาลี ในการผลิตคอลเลคชั่นของไวน์ที่มีรสชาติเยี่ยม ได้อย่างน่าประทับใจ
เพิ่มความหลงใหลในรสชาติของอาหารจากแถบเมดิเตอร์เรเนียนได้ ที่ งานจับคู่ไวน์ชั้นเลิศจากแคว้นซิซิเลียน กับอาหารรสชาติเยี่ยม
ตามธรรมเนียมไทยกว่าหลายร้อยปีที่ผ่านมา คนไทยจะตั้งตุ่มน้ำดื่มไว้หน้าบ้านเพื่อต้อนรับผู้ที่เดินทางสัญจรไปมาให้ได้ดับกระหาย คำว่า "อนันตรา" มีรากศัพท์มาจากภาษาสันสกฤต ซึ่งมีความหมายว่า "ไม่มีที่สิ้นสุด" ซึ่งสะท้อนถึงแนวความคิดในการแบ่งปันน้ำดื่มและการต้อนรับจากใจ ซึ่งเป็นปรัชญาการสร้างประสบการณ์ให้แก่ผู้มาเยือนในแบบอนันตรา
ปัจจุบันโรงแรม และรีสอร์ทในเครืออนันตรา ได้เปิดให้บริการแล้วมากกว่า 25 แห่ง โดยตั้งอยู่ในหลากหลายภูมิประเทศที่มีความงดงามตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สูงบนภูเขา ริมหาดสวย ทะเลทราย ไปจนถึงใจกลางเมืองอันทันสมัย ทั้งในประเทศไทย มัลดีฟส์ บาหลี เวียดนาม สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีโครงการจะขยายโรงแรมและรีสอร์ทเพิ่มทั้งในประเทศไทย จีน ลาว สาธารณรัฐมอริเชียส ศรีลังกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รัฐสุลต่านโอมาน กาตาร์ และโมซัมบิก
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอนันตรา กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.anantara.com หรือติดตามข่าวสารผ่านทาง www.facebook.com/anantara และ Twitter: Anantara_Hotels
อนันตราเป็นสมาชิกของกลุ่มพันธมิตรโรงแรมสากล (Global Hotel Alliance: GHA) อันเป็นกลุ่มพันธมิตรโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีโรงแรมที่อยู่ในกลุ่มพันธมิตรได้แก่ อนันตรา, อาร์ท ซีรีส์, ดอยล์ คอลเลคชั่น, เฟิร์สท์, เคมพินสกี้, อินดิวิดวล คอลเลคชั่น, ลีลา, ลันกาโน คอลเลคชั่น, มาร์โค โปโล, โมการา, ออมนิ, แพนแปซิฟิค, พาร์ครอยัล, คิวที, ริดเจส, ชาซา, แทนแกรม และทิโวลี ประกอบด้วยโรงแรมหรูรวมทั้งหมด 345 แห่ง พร้อมห้องพักกว่า 85,000 ห้อง ใน 61 ประเทศ สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.gha.com