โครงการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม ห้องเรียนธรรมะถ่ายทอดสดแห่งแรกของประเทศไทยที่มุ่งปลูกความรู้คู่คุณธรรมให้เยาวชนได้ศึกษาปฏิบัติธรรมตามแนวทางพระพุทธศาสนา จัดโดยเครือเจริญโภคภัณฑ์และกลุ่มทรู ได้ ก้าวสู่ปีที่ 7 แล้ว...จากผู้สมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 4,500 คนทั่วประเทศ ขณะนี้ ได้คัดเลือกตัวแทนเยาวชนว่าที่สามเณรน้อยเหลือเพียง 12 คน ที่จะเข้าพิธีบรรพชาเป็นสามเณรภาคฤดูร้อน ระยะเวลา 1 เดือนเต็ม ในวันที่ 8 เมษายนนี้ ณ วัดป่าไทรงาม อ.เดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ของพระครูนิโครธธรรมาภรณ์ (หลวงตาเอนก ยสทินฺโน)
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ / ประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า "โครงการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม ยังคงครองใจคนไทยอย่างต่อเนื่อง มาถึงปีที่ 7 ซึ่งในปีนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์และกลุ่มทรู จะนำ 12 เยาวชนชายที่ผ่านการคัดเลือก เดินหน้าสานต่อโครงการ ยึดหลักคืนสู่วิถีธรรมชาติ สัญจรสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นครั้งแรก โดยตั้งใจจัดขึ้นเพื่อบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และในปีนี้ เพื่อร่วมถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก อีกทั้งถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสมหามงคลที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร จะทรงเจริญพระชนมพรรษา 66 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2561 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 จะทรงเจริญพระชนมพรรษา 86 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2561"
"สำหรับโครงการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม ปี 7 นี้ ได้รับความเมตตาเป็นอย่างยิ่งจากหลวงตาเอนก เจ้าอาวาสวัดป่าไทรงาม จ.อุบลราชธานี ที่ให้เกียรติเป็นพระอาจารย์ใหญ่ เปิดห้องเรียนธรรมะด้วยแนวคิด "ความรักจักรวาล" ที่แบ่งออกเป็น 4 ระดับด้วยกัน คือ รัก –เรียน- เพียร –ให้ ซึ่ง "รัก" คือความเกื้อกูล เข้าใจถึงความเชื่อมโยงของสรรพสิ่ง เป็นพื้นฐานสำคัญของความเมตตา เมื่อเข้าถึงความเชื่อมโยงนี้ได้ ก็จะเห็นความเป็นจริง และเมื่อมีความรักเป็นพื้นฐานแล้ว การเรียนและการทำความเข้าใจถึงคำสอน เป็นเรื่องสำคัญในลำดับตามมา เปรียบเสมือนกับชีวิตและการทำงาน ถ้าปราศจากการเรียนรู้ฝึกฝนและการปฏิบัติด้วยความเพียร ก็ไม่สามารถที่จะปรับปรุงหรือทำให้ตัวเองพ้นออกจากความเสื่อมได้ง่าย ดังนั้น ความเพียรและความอุตสาหะ ปฏิบัติลงมือทำ จึงเป็นพื้นฐานสำคัญอย่างหนึ่งของพระพุทธศาสนา และหลังจากที่ได้ปฏิบัติ มีความเพียร อดทนอดกลั้น รู้เข้าใจ มีความรักด้วยความเมตตาอย่างแท้จริงแล้ว สิ่งที่ตามมา ก็คือการปล่อยวาง ในที่นี้ คือคำว่า "ให้" หมายความว่า สุดท้ายแล้วสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อกลับไปสู่ความรัก การเกื้อกูลกัน ก็คือ การรู้จักให้ซึ่งกันและกัน สละซึ่งความเป็นตัวตนนั่นเอง"
"ขอเชิญชวนทุกท่าน ติดตามชมรายการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม ปี 7 เพื่อเข้าถึงองค์ความรู้พระพุทธศาสนา โดยมีสามเณรน้อย เป็นสื่อกลางที่มีความบริสุทธิ์ทั้งความคิดและการปฏิบัติ ซึ่งจะช่วยกันสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ระบบสังคม โดยยึดหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้มีการปฏิบัติสืบทอดกันมา หวังว่าความตระหนักรู้ไม่ว่ามากหรือน้อยที่จะเกิดขึ้นในรายการนี้ จะถูกถ่ายทอดสู่ผู้ชมทุกเพศทุกวัย อีกทั้งจะเป็นส่วนหนึ่งในปัจจุบันและอนาคตข้างหน้าที่จะช่วยสร้างเสริมคุณค่าและคุณธรรมตามหลักพระพุทธศาสนา ตลอดจนเป็นมรดกอันสำคัญแก่ประชาชนคนไทยทั้งปวงและเป็นมรดกอันสำคัญต่อชาวโลกต่อไป" นายศุภชัย เจียรวนนท์ กล่าวสรุป
พระครูนิโครธธรรมาภรณ์ (หลวงตาเอนก ยสทินฺโน) เจ้าอาวาส วัดป่าไทรงาม อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี พระอาจารย์ใหญ่ ประจำโครงการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม ปีที่ 7 ได้ให้ธรรมโอวาทในงานว่า "รู้สึกยินดีที่วันนี้ได้มาร่วมโครงการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม ที่มีความตั้งใจที่ทำประโยชน์ให้สังคมอย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งการที่จะทำประโยชน์ลักษณะนี้ได้นั้นจะต้องมีพลัง 3 อย่างด้วยกัน นั่นคือ ศรัทธาพลัง ปัญญาพลัง และสมบัติพลัง สำหรับ "ศีลธรรม" เป็นเรื่องจำเป็นของทุกชีวิตที่อยู่บนโลกนี้ไม่ใช่เฉพาะแต่ชาวพุทธเท่านั้น แต่ศีลธรรม คือชีวิต หากทุกคนบนโลกมีศีลธรรมในจิตใจ โลกนี้จะน่าอยู่มากขึ้น แต่ศีลธรรมใดๆ ก็ไร้ผล หากมีผู้รู้แล้วแต่ไม่นำไปประพฤติปฏิบัติตาม จึงอยากให้ทุกคนเข้าถึงและกลับมาหาศีลธรรมกันให้มากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อทุกท่านมีความรู้ทางโลกแล้ว ควรนำมาผสมกลมกลืนกับวิชาหลักศีลธรรม เพื่อทำประโยชน์ให้โลกใบนี้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น"
"ท่านพุทธทาส เคยกล่าวไว้เป็นมรดกทางธรรมที่น่าสนใจว่า "ศีลธรรมในเยาวชน คือสันติภาพของโลก" เยาวชน คือความหวังของเรา เป็นอนาคตของประเทศชาติที่จะอยู่สืบทอดและรักษาบ้านเมืองต่อไป จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมากที่ผู้ใหญ่จะต้องปลูกฝังคุณงามความดีทางศีลธรรมนี้ลงในจิตใจของเด็ก เปรียบเสมือนนำน้ำสะอาดมาใส่แก้วก็จะได้น้ำบริสุทธิ์ไว้ดื่มโดยไม่เป็นอันตราย ทางเครือเจริญโภคภัณฑ์และกลุ่มทรู ได้มองเห็นความสำคัญในเรื่องนี้และจัดโครงการนี้ขึ้น อันควรแก่การอนุโมทนา นอกจากนี้ พ่อแม่ยังต้องปลูกฝังศีลธรรมลงสู่จิตใจของลูก รวมทั้งเป็นแบบอย่างที่ดีงามของลูกด้วย เพราะหากจิตใจของเด็กเมื่อมีศีลธรรมนำพาแล้ว ไม่ว่าโตขึ้นจะประกอบอาชีพอะไร ก็จะดีหมด รวมถึงความชั่วร้ายต่างๆ ก็จะหมดไปด้วยอำนาจของศีลธรรม"
ด.ช.วิชชวุฒฬ์ นาควัชระชัยท์ (น้องเร็น) อายุ 7 ปี จากจ.ปทุมธานี กล่าวว่า "ดีใจที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 12 สามเณร ปลูกปัญญาธรรมในปีนี้ อยากบวชเพราะอยากฉลาดในเรื่องธรรมะและฉลาดในเรื่องความดี ผมสวดมนต์ตามคุณแม่เกือบทุกวันและนั่งสมาธิบ้าง ซึ่งคิดว่าการนั่งสมาธิเป็นเรื่องที่ฝึกได้ไม่ยากและมีประโยชน์มาก ได้เตรียมฝึกตื่นเช้าบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้ฝึกเรื่องการอดอาหารเย็น แต่คิดว่าทำได้แน่นอน การบวชครั้งนี้ ตั้งใจมาก เพราะเชื่อว่าจะช่วยเปลี่ยนแปลงให้เป็นคนตื่นเช้าได้ มีสมาธิและความจำดีมากขึ้น อย่าลืมให้กำลังใจผมและเพื่อน ๆ ด้วยครับ"
ด.ช.จิรวัชร หอมเกตุ (น้องท๊อป) อายุ 8 ปี จากจ.สมุทรปราการ กล่าวว่า "ประทับใจรุ่นพี่ในรายการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม ปี 6 ที่ได้ออกบิณฑบาตและสวดมนต์ จึงอยากสมัครเข้ามาบวชเพราะอยากทำแบบพี่ๆ บ้าง ตอนนี้ได้เตรียมฝึกอดอาหารเย็นและนอนคนเดียว การบวชในครั้งนี้ อยากปรับปรุงตัวเองให้เป็นคนใจเย็นมากขึ้น ละเลิกนิสัยโกรธง่าย และรู้จักอดทนมากขึ้น สำหรับแนวคิดเรื่องความรักจักรวาล คิดว่าเราต้องทำความดีให้กับทุกคนในโลกนี้ ผมพร้อมที่จะตั้งใจศึกษาธรรมะกับพระอาจารย์ เพื่อเป็นคนดีให้พ่อแม่ภูมิใจ"
ด.ช.สิรภพ มีเพียร (น้องปูติน) อายุ 9 ปี จากจ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า "ติดตามรายการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม มาตั้งแต่ปีที่ 4 รู้สึกชอบมาก จึงได้สมัครผ่านเข้ามาทางเว็บไซต์ เหตุผลที่บวชเพราะอยากให้พ่อแม่ได้เกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์ และญาติที่เสียชีวิตไปแล้วจะได้รับบุญกุศล ตอนนี้ เริ่มฝึกนั่งสมาธิ สวดมนต์ได้บ้างแล้ว ส่วนการอดอาหารมื้อเย็นยังเป็นสิ่งที่ทำได้ยากที่สุด คิดว่าประโยชน์จากการบวชในครั้งนี้ จะทำให้ตนเองพูดน้อยลง สำรวมมากขึ้น และไม่พูดคำหยาบคายสามารถนั่งสมาธิให้นานมากขึ้น และมีสติมากขึ้น สำหรับผมแล้ว ธรรมะเป็นเรื่องที่เรียนรู้ได้ไม่ยากและยังเป็นเครื่องกล่อมเกลาจิตใจให้เราเป็นคนดีด้วย อยากฝากให้เพื่อนๆ ร่วมติดตามชมรายการนี้ สนุกและมีข้อคิดดีๆ มากมาย"
สำหรับรายการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม ปี 7 นี้ จะผู้มีชื่อเสียงระดับประเทศ มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ความรู้ และร่วมศึกษาธรรมะไปกับสามเณรน้อยด้วย อาทิ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้บริหารสูงสุดโรงเรียนสัตยาไส คุณวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และประธานสถาบันเศรษฐกิจพอเพียง หนูดี-วนิษา แหม่ม-สุริวิภา แพนเค้ก-เขมนิจ แดน-วรเวช แช็ค-ชุมแพ และปราชญ์ชาวบ้าน....อย่าพลาดรับชมการถ่ายทอดสดเรื่องราวการใช้ชีวิตจริงตลอด 1 เดือนเต็มของเหล่าสามเณรน้อยเร็วๆ นี้ ตั้งแต่ 6 เม.ย. – 6 พ.ค. 61 ทางช่องเรียลลิตี้ ทรูวิชั่นส์ ช่อง 60, 99 และช่องเรียลลิตี้ เอชดี ทรูวิชั่นส์ ช่อง 119 หรือ 333 หรือทางออนไลน์ www.trueplookpanya.com/truelittlemonk พร้อมรับชมช่วงไฮไลต์ประจำวันที่จะออกอากาศทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24 และช่องทรูปลูกปัญญา (ทรูวิชั่นส์ 37) รวมทั้งติดตามข่าวสารได้ทาง www.facebook.com/truelittlemonkthailand อีกด้วย