กลุ่มนานมี แนะวิธีสร้างเด็กไทยเป็นนักเขียนน้อย

จันทร์ ๒๖ มีนาคม ๒๐๑๘ ๐๙:๐๓
กลุ่มบริษัท นานมี จัดโครงการ "ฮอร์ส นักเขียนน้อย : สนุกคิด สนุกเขียน…รายวัน" ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมีน้องๆ เยาวชนจากทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการกว่า 1,000 คน แบ่งการประกวดเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ระดับอายุ ระหว่าง 7-9 ปี และกลุ่มที่ 2 ระดับอายุ ระหว่าง 10-12 ปี เพื่อปลูกฝังนิสัยให้เด็กไทยฝึกการคิดเรียนรู้และรักการเขียนตั้งแต่วัยเด็ก โดยมี ด.ญ.เรไร สุวีรานนท์ เจ้าของเพจชื่อดัง เรไรรายวัน ซึ่งเป็นนักเขียนเด็กที่มีชื่อเสียงด้านการเขียนบันทึกประจำวันร่วมให้กำลังใจเพื่อนๆ และยังเปิดโอกาสให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้มาพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและร่วมฟังการเสวนาจากประสบการณ์ตรงของคุณชนิดา สุวีรานนท์ คุณแม่น้องเรไร และอาจารย์อัจฉรา ประดิษฐ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวรรณกรรมสำหรับเด็ก ร่วมถ่ายทอดและแบ่งปันประสบการณ์การเลี้ยงลูกให้รู้จักคิดและเขียนอย่างสร้างสรรค์ ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลอง กรุงเทพฯ

นาง ปรีญาณี สุพุทธิพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทนานมี เล่าว่า โครงการนี้จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นให้เยาวชนไทยเห็นความสำคัญของ "การคิด" และ "การเขียน" ซึ่งจะช่วยพัฒนาสมองทั้งสองด้านของเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างเสริมศักยภาพของเยาวชนไทยให้เป็นคนเก่งและเป็นคนดีในทุกด้าน รวมทั้งยังเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมทางภาษาให้คงอยู่อย่างมีคุณค่าและภาคภูมิใจในภาษาไทยภาษาประจำชาติ โดยได้รับความร่วมมือจากน้องต้นหลิว ด.ญ.เรไร สุวีรานนท์จากเพจ "เรไรรายวัน" พร้อมกับคุณแม่มาถ่ายทอดเทคนิคสำคัญในการคิดและเขียนให้กับเพื่อนๆ โดยการประกวดในวันนี้เด็กๆจะได้ฝึกกระบวนการคิดอย่างสร้างสรรค์ และรวบรวมความรู้จากการศึกษาทุกเรื่องราวในศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อเลือกเรื่องที่ประทับใจมาเขียนเล่าเป็นบันทึกประจำวัน ซึ่งเชื่อว่าเด็กๆจะสามารถสร้างงานเขียนชิ้นเอกในแบบฉบับของตัวเองได้อย่างน่าประทับใจ"

คุณชนิดา สุวีรานนท์ คุณแม่น้องเรไร และอาจารย์อัจฉรา ประดิษฐ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวรรณกรรมสำหรับเด็ก กล่าวว่า ในการฝึกลูกให้คิดและเขียนเป็น เริ่มจากมุมมองความคิดก่อนว่าให้ลูกรู้จักกับโลกที่มีทั้งด้านดีและด้านร้าย ไม่ได้ปกป้องลูกให้อยู่แต่ในโลกสวยหรือโลกที่ปลอดภัยเท่านั้น แต่สอนให้ลูกเรียนรู้วิธีการรับมือเมื่อต้องเผชิญกับโลกในด้านลบ โดยจะดูแลอยู่ห่างๆ ให้เด็กลองแก้ไขปัญหาด้วยตนเองก่อน เมื่อเห็นว่าโจทย์ชีวิตยากขึ้นจึงค่อยยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ เพื่อฝึกให้ลูกมีความมั่นใจในตนเองและแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้ ส่วนการปลูกฝังด้านการเขียนนั้น เริ่มจากการไม่บังคับแต่เป็นการค่อยๆฝึกฝนทีละนิด มีการมีระเบียบความคิดอย่างเป็นระบบ วางกรอบเรื่องราวที่จะเขียน ทำเป็นดราฟ(ร่าง) เป็นคำ และเป็นประโยค แล้วจึงนำมาเชื่อมต่อกันเป็นเรื่องราว ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างทัศนคติที่ดีในการเขียน รู้สึกสนุกและมีความสุขทั้งตัวเด็กเองและตัวพ่อแม่ ทำให้เป็นการสนุกคิดและสนุกเขียน ที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวให้แน่นแฟ้นด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๒:๑๔ องค์การบรรจุภัณฑ์โลก จับมือ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ร่วมจัดกิจกรรมสัมมนาออนไลน์
๑๒:๑๒ การแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการ King Power International Ladies' Polo Tournament 2024
๑๒:๔๔ DEXON ปักธงรายได้ปี 67 ทะลุ 700 ลบ. โชว์ Backlog เฉียด 280 ลบ. ล็อคมาร์จิ้น 35-40%
๑๒:๑๐ JPARK ร่วมงาน Dinner Talk ผู้บริหารจดทะเบียนพบนักลงทุน จ.ราชบุรี
๑๒:๒๓ นีเวีย ซัน และ วัตสัน จับมือต่อปีที่สองชวนดูแลท้องทะเล กับโครงการ เพราะแคร์ จึงชวนแชร์ ร่วมพิทักษ์รักษ์ทะเลไทย
๑๒:๕๗ Cloud เทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัว เพียงแค่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง
๑๒:๒๘ โรยัล คานิน ร่วมกับ เพ็ทแอนด์มี จัดงาน Royal Canin Expo 2024: PAWRENTS' DAY เพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้นสำหรับน้องแมวและน้องหมา
๑๒:๑๐ STEAM Creative Math Competition
๑๒:๔๔ A-HOST ร่วมวาน MFEC Inspire ขึ้นบรรยายพร้อมจัดบูธ Cost Optimization Pavilion
๑๒:๔๗ ฟินเวอร์! ส่องความคิ้วท์ 'ฟอส-บุ๊ค' ควงคู่ร่วมงาน Discover Thailand เสิร์ฟโมเมนต์ฉ่ำให้แฟนๆ ได้ดับร้อนกันยกด้อมรับซัมเมอร์ และร่วมส่งต่อความสุขในกิจกรรม 'Exclusive Unseen Food Trip กับ คู่ซี้