การจัดงานในครั้งนี้ คาดว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการของเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำสวยงามได้เป็นอย่างดี โดยมีหน่วยงานกรมประมง กลุ่มจังหวัดภาคกลาง และจังหวัดราชบุรีร่วมกับตลาดกลางปลาสวยงามและสัตว์เลี้ยง (ฟิชวิลเลจ) อำเภอบ้านโป่ง กลุ่มเครือข่ายผู้เพาะเลี้ยงปลาสวยงามจังหวัดราชบุรี ชมรมผู้รักปลาทองตลาดฟิชวิลเลจ ชมรมผู้พัฒนาสายพันธุ์ปลาหมอสีครอสบรีดประเทศไทย ชมรมผู้เพาะเลี้ยงพันธุ์ปลาหางนกยูงแฟนซีประเทศไทย ชมรมปลาคาร์ฟฟิชวิลเลจ ชมรมปลากัดสวยงามแห่งสยาม ชมรมอนุรักษ์และพัฒนาปลากัดพื้นบ้าน และชมรมผู้ประกอบการตลาดปลาฟิชวิลเลจร่วมกันจัดงาน
"กระทรวงเกษตรฯ พร้อมที่จะส่งเสริมเกษตรกร และสนับสนุนธุรกิจสัตว์น้ำสวยงามในกลุ่มจังหวัดภาคกลาง ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจังหวัดราชบุรีถือเป็นแหล่งผลิตปลาสวยงามที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ มีผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำสวยงามเพื่อการค้าเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ธุรกิจสัตว์น้ำสวยงามของกลุ่มจังหวัดภาคกลาง โดยเฉพาะจังหวัดราชบุรี มีความพร้อมของสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำสวยงามเป็นอย่างมาก โดยมีตลาดกลางปลาสวยงามที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน มีแหล่งน้ำที่สะอาดและอุดมสมบูรณ์ เกษตรกรมีความรู้ความสามารถในการเพาะพันธุ์ปลาหลากหลายชนิด อีกทั้งยังก่อให้เกิดธุรกิจที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย อาทิ ธุรกิจการผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์ตกแต่งตู้ปลา ยารักษาโรค และธุรกิจอาหารปลา เป็นต้น" นายลักษณ์ กล่าว
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีผู้ผลิต ผู้เพาะเลี้ยง และผู้ส่งออกสัตว์น้ำสวยงามมีมูลค่าสูงติดอันดับต้น ๆ ของโลก และยังมีศักยภาพที่จะผลิต เพาะเลี้ยง และส่งออกสัตว์สวยงามชนิดต่าง ๆ ได้เพิ่มอีก เนื่องจากผู้ผลิต ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำสวยงามมีความสามารถในการผลิตและเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำสวยงามสายพันธุ์ใหม่ ๆ ได้แก่ ปลากัด ปลาหางนกยูง ปลาหมอสี ปลาทอง ปลาแม่น้ำชนิดต่าง ๆ ซึ่งการส่งออกสัตว์น้ำสวยงามส่วนใหญ่ของประเทศไทยจะส่งออกทางด่านตรวจสัตว์น้ำ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ รวม 88 ประเทศ แบ่งเป็น 8 ประเภท ได้แก่ ปลา กุ้ง หอย ปู กบ เต่า ตะพาบ แมงดา ตามลำดับ ซึ่งชนิดสัตว์น้ำสวยงามที่มีปริมาณส่งออกมาที่สุด 10 อันดับ ได้แก่ ปลากัด ปลาหางนกยูง ปลาหมอมาลาวี ปลาลูกผึ้ง ปลาหมอสี ปลาทอง ปลาหางไหม้ ปลาแรด ปลาก้างพระร่วง และปลาซัคเกอร์