สำหรับแผนการลงทุนใหม่นี้ ทาง เคอรี่ เอ็กซ์เพรส จะมุ่งเน้นไปที่ (1) เงินลงทุนอย่างน้อย 1.8 พันล้านบาท (2) เพิ่มจำนวนยานพาหนะที่ให้บริการ แบงคอค เซมเดย์ ขึ้นเป็นสองเท่า และ (3) จากเดิมที่เคยตั้งเป้าขยายจุดให้บริการเพิ่มขึ้น 1,500 สาขา จะปรับเป็นขยายให้ได้ 2,500 สาขา ภายในสิ้นปี 2561
คุณวราวุธ นาถประดิษฐ์ รองผู้จัดการทั่วไปสายงานการค้า บริษัทเคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ตลาดลูกค้าในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ล้วนให้การยอมรับและชื่นชมคุณภาพในการให้บริการของ แบงคอค เซมเดย์ ซึ่งที่ผ่านมา ทางบริษัทฯ ได้ทุ่มงบการลงทุนจำนวนมาก เพื่อสร้างแบรนด์ บางคอค เซมเดย์ ให้เป็นที่ยอมรับในหมู่ผู้บริโภค และคาดว่าบริการนี้จะสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมการส่งพัสดุของลูกค้าในเขตกรุงเทพฯ ได้อย่างแท้จริง"
ในส่วนของเครือข่ายสาขาที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทยของ เคอรี่ เอ็กซ์เพรส นั้น ไม่เพียงมีช่วยสนับสนุนให้คนไทยสามารถเข้าถึงคุณภาพบริการจัดส่งพัสดุชั้นเลิศได้ แต่ยังถือเป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์การทำตลาดแบบ O2O (online-to-offline) ของเคอรี่ เอ็กซ์เพรส อีกด้วย
"ขณะนี้ เคอรี่ เอ็กซ์เพรส กำลังมุ่งมั่นพัฒนาบริการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มนักช้อปออนไลน์ เชื่อว่าอีกไม่นานลูกค้าจะสามารถสั่งสินค้าจากช่องทางออนไลน์ และเลือกได้ว่าจะไปรับสินค้านั้นด้วยตนเองจากศูนย์บริการ เคอรี่ เอ็กซเพรส ที่อยู่ใกล้บ้าน ก่อให้เกิดประสบการณ์จัดส่งและรับพัสดุที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นกว่าเดิม"
ทั้งนี้ คุณวราวุธอธิบายเพิ่มเติมว่า "ในทางกลับกัน ปัจจุบันพบว่ามีผู้ขายสินค้าออนไลน์ คิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 20 ที่เดินเข้ามาใช้บริการในสาขาของ เคอรี่ เอ็กซ์เพรส แล้วเลือกส่งพัสดุผ่านเครื่องให้บริการด้วยตนเองได้ แทนที่จะใช้บริการผ่านเคาน์เตอร์ตามปกติ โดยขั้นตอนดังกล่าว ผู้ส่งเพียงแค่สแกนคิวอาร์โค้ดที่ได้รับจากทาง Seller Centre ของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำ แล้วสั่งพิมพ์ใบปะหน้าเพื่อติดลงบนพัสดุ พร้อมยื่นให้พนักงานประจำสาขา โดยไม่ต้องชำระเงินใดๆ เพราะทางเคอรี่จะดำเนินการหักจากบัญชีผู้ขายโดยตรง"
นอกจากนั้น เคอรี่ เอ็กซ์เพรส ยังมีแผนการขยายจำนวนศูนย์กระจายสินค้าย่อย สร้างคลังคัดแยกสินค้าขนาดใหญ่ และเพิ่มจำนวนการจัดซื้อยานพาหนะ ซึ่งที่สำคัญที่สุด คือ การเพิ่มจำนวนบุคลากร เพื่อยกระดับเครือข่ายให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้นำด้านการขนส่งพัสดุด่วนชั้นนำของประเทศไทย โดยมุ่งเน้นทางด้านการขนส่งพัสดุขนาดเล็กที่มีขนาดสูงสุดถึง 30 กิโลกรัมต่อกล่อง รับประกันด้วยยอดการขนส่งพัสดุที่มีมากกว่า 750,000 ชิ้นต่อวัน โดยบริการจัดส่งถึงมือผู้รับภายในวันถัดไป (ND) สามารถให้บริการครอบคลุมมากถึงเกือบร้อยเปอร์เซนต์ อีกทั้งยังเป็นผู้นำการให้บริการเก็บเงินปลายทาง (COD) ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ช่วยสนับสนุนให้ผู้รับมีตัวเลือกช่องทางในการชำระค่าสินค้า ไม่ว่าจะเป็นเงินสดหรือชำระโดย QR ผ่าน Rabbit LinePay เมื่อได้รับสินค้าที่หน้าบ้านอีกด้วย