กลุ่มมิตรผลจัดสัมมนา “Mitr Phol Top Talk 2018” เปิดวิสัยทัศน์ Business Transformation in The Era of Creative Disruption เดินเกมรุกปรับองค์กรสู่ยุคนวัตกรรมสร้างสรรค์ธุรกิจ

พฤหัส ๐๕ เมษายน ๒๐๑๘ ๑๐:๑๓
กลุ่มมิตรผล จัดงาน "Mitr Phol Top Talk 2018: Business Transformation in The Era of Creative Disruption" มุ่งพลิกโฉมความสามารถในการแข่งขันขององค์กรสู่ยุคนวัตกรรมสร้างสรรค์ธุรกิจ พร้อมสร้างวิสัยทัศน์จากผู้มีประสบการณ์ชั้นนำระดับโลกให้แก่ผู้บริหาร คู่ค้า และพนักงาน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนองค์กรสู่ธุรกิจยุคดิจิทัลอย่างแข็งแกร่ง ที่โรงแรมโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้

กลุ่มมิตรผลตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างองค์กรสู่ยุคนวัตกรรมสร้างสรรค์ธุรกิจ จึงได้จัดงาน "Mitr Phol Top Talk 2018: Business Transformation in The Era of Creative Disruption" พร้อมเชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ มาถ่ายทอดประสบการณ์และแนวทางการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงธุรกิจสู่ยุคดิจิทัลนี้ ให้แก่ผู้บริหาร คู่ค้า และพนักงาน เพื่อร่วมกันพัฒนาและปรับกลยุทธ์องค์กรสู่ธุรกิจยุคดิจิทัลให้เติบโตอย่างเข้มแข็ง

นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ กลุ่มมิตรผล กล่าวระหว่างพิธีเปิดงานว่า "ความสามารถในการแข่งขันเป็นหัวใจหลักในการอยู่รอดขององค์กร ภายใต้สภาวะการเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันทางธุรกิจจากเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ส่งผลให้เกิดนวัตกรรมโมเดลธุรกิจ (Business Model Innovation) การจัดการข้อมูลเชิงลึก (Big Data) และการใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ที่ทำให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงลูกค้าได้หลากหลายกลุ่มมากขึ้น กลุ่มมิตรผลให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ และสนับสนุนการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาสร้างโอกาสทางธุรกิจ เพิ่มความสามารถทางการแข่งขัน และพัฒนาคนให้มีศักยภาพพร้อมรับความเปลี่ยนแปลง"

ต่อมา นายกฤษฎา มณเทียรวิเชียรฉาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มมิตรผล ได้กล่าวเพิ่มเติมจากนายอิสระว่า "การเปลี่ยนแปลง คือ ความท้าทายของธุรกิจ" เทคโนโลยีสมัยใหม่กำลังสร้างความเปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งความท้าทายให้กับธุรกิจ กลุ่มมิตรผลตระหนักถึงความสำคัญของการปรับตัวให้ก้าวทันเทคโนโลยี เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมการทำธุรกิจที่แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

มร. ไมเคิล เพ็ง กรรมการผู้จัดการ จากบริษัทออกแบบระดับโลกอย่าง IDEO โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้มาร่วมให้ความรู้ ภายใต้หัวข้อ 'Design x Creativity' เผยแนวคิด Design Thinking 6 ประการ ที่องค์กรสามารถนำไปปรับใช้ เพื่อริเริ่มการสร้างนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์อนาคตให้เกิดขึ้นภายในองค์กรได้ ซึ่งได้แก่ 1) การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน (Purposefulness) 2) การมองออกไปข้างนอกในมุมกว้าง (Looking out) 3) การทดลองใช้จริง (Experimentation) 4) การร่วมมือกัน (Collaboration) 5) การเสริมสร้างศักยภาพ ให้ทุกส่วนในองค์กรสามารถทำงานได้อย่างสร้างสรรค์ (Empowerment) และ 6) ใส่ใจในทุกรายละเอียด (Refinement)

ทั้งนี้ มร. ไมเคิล เผยว่า "การจะสร้างนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์อนาคตได้นั้น ต้องเริ่มต้นจากการบ่มเพาะวัฒนธรรมความสร้างสรรค์ให้แก่พนักงานภายในองค์กรก่อน ซึ่งต้องอาศัยเวลาระยะเวลาจึงจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นคือการเริ่มลงมือทำตั้งแต่วันนี้ โดยสามารถเริ่มต้นจากงานเล็กๆ ที่จะกระตุ้นให้คนในองค์กรเห็นถึงความสำคัญและการมีส่วนร่วมกัน หรือ อาจเปิด Creative Lab พื้นที่ให้ทดลองใช้ความคิด เพื่อสนับสนุนการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ภายในองค์กร"

ต่อมา นายอรพงศ์ เทียนเงิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านการลงทุนและการค้นคว้านวัตกรรมการเงิน ได้มาให้ความรู้ในเรื่องของการนำเทคโนโลยี "บล็อกเชน" (Blockchain) มาปฏิวัติวงการธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในขณะนี้นายอรพงศ์ได้อธิบายว่า เทคโนโลยี "บล็อกเชน" (Blockchain) เสมือนการนำระบบการจัดการฐานข้อมูลมาใช้ เพื่อขยายฐานความรู้ด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีชั้นสูง และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคต

เทคโนโลยีนี้เป็นตัวแทนแห่งนวัตกรรมทางด้านข้อมูล ด้วยการนำเสนอวิธีที่ชาญฉลาดและโปร่งใสในการบันทึกข้อมูล พร้อมเผยแพร่ออกไปให้สามารถตรวจสอบได้ในวงกว้าง ด้วยเทคโนโลยีนี้ เราจึงไม่จำเป็นที่จะต้องมีคนกลางในการมาตรวจสอบความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสของการแลกเปลี่ยนในโลกออนไลน์ที่เกิดขึ้น ข้อดีของบล็อกเชน คือ ความน่าเชื่อถือ ประหยัดเวลา งบประมาณ และทรัพยากร

จากนั้น ดร. จาชชัว แพส กรรมการผู้จัดการ บริษัท AddVentures by SCG ได้ขึ้นกล่าวให้ความรู้ถึงการสร้างสรรค์นวัตกรรมหรือการกระตุ้นให้เกิดไอเดียธุรกิจใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในองค์กร เพื่อนำนวัตกรรมจากสตาร์ทอัป (Startup) เหล่านั้นมาต่อยอดธุรกิจขององค์กร

ดร. จาชชัว เล่าว่า "ทุกวันนี้ สตาร์ทอัปได้เข้ามามีบทบาทในทุกธุรกิจ เพราะสตาร์ทอัปคิดได้เก่ง อีกทั้งยังสามารถทำได้เร็ว องค์กรต่างๆ จึงควรต้องมีบทบาทในการผนวกและเชื่อมโยงทั้งสตาร์ทอัปและบริษัทเข้าด้วยกัน"

กลุ่มสตาร์ทอัปมีจุดเด่นในเรื่องสปิริตความเป็นเจ้าของกิจการ ผนวกกับความรู้ด้านเทคโนโลยีจากการมองในมุมมองของผู้บริโภค เมื่อประกอบกับ Speed ในกระบวนการทำงานที่เรียกว่า Lean Startups รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล จึงทำให้ข้อจำกัดในการทำธุรกิจแบบเดิมๆ หายไป และทำให้ผลลัพธ์ของสตาร์ทอัปสามารถขยายให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้ พร้อมช่วยเสริมรากฐานอันแข็งแกร่งในระยะยาวให้องค์กร จากการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในธุรกิจ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กรต่อไปในอนาคต

ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีอิทธิพลเป็นอย่างมากในธุรกิจต่างๆ ทำให้องค์กรต่างๆ ต้องสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ให้ได้โดยเร็ว เพื่อปรับตัวตามธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอๆ กลุ่มมิตรผลตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันที่เกิดขึ้น และพร้อมพลิกโฉมองค์กรสู่ยุคนวัตกรรมสร้างสรรค์ธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไปในอนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๗ ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๑๗:๕๓ NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๑๗:๐๕ แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๑๗:๓๒ แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๑๗:๒๕ RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๑๗:๔๘ ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๑๗:๐๕ เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๑๗:๐๖ ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๑๗:๔๙ ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud
๑๗:๐๐ เปิดรับสมัครแล้ว HaadThip Fan Run 2024 แฟนรัน ฟันแลนด์ ดินแดนมหัศจรรย์ หาดสมิหลา จ.สงขลา