รฟท. ยกระดับความปลอดภัย รับการพัฒนาสู่รถไฟทางคู่ในอนาคต

ศุกร์ ๐๔ พฤษภาคม ๒๐๑๘ ๑๑:๒๑
หากจะกล่าวถึงระบบรางของไทยที่มีใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2464 ซึ่งได้ผ่านการใช้งานมาอย่างยาวนาน จึงอาจมีผลต่อความปลอดภัย และความไม่สะดวกสบายในการเดินทางไปบ้าง แต่ต่อไปอีก 20 ปี เราจะได้เห็นรถไฟทางคู่ที่มีความทันสมัยซึ่งการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มที่จะช่วยปรับปรุงระบบโลจิสติกส์สำหรับธุรกิจ และช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางเศรษฐกิจ โดยล่าสุดการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เร่งรัดแผนการลงทุน โครงการรถไฟทางคู่ 14 เส้นทาง มูลค่าการลงทุนกว่า 3.9 แสนล้านบาท อาทิ เส้นทางฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย และเส้นทางจิระ-ขอนแก่น, เส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร, เส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ, เส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ, เส้นทางนครปฐม-หัวหิน, เส้นทางหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น แต่จะดีแค่ไหน หากการปรับปรุงโครงสร้างรถไฟทางคู่ที่มาพร้อมกับความทันสมัย ความสะดวกสบาย จะมาควบคู่กับความปลอดภัย เพื่อสร้างมั่นใจให้แก่ผู้โดยสารและชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงสถานีรถไฟ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเดินทางโดยรถไฟนั้นมีความปลอดภัยที่สุด เพราะเมื่อหากเทียบกับอุบัติเหตุบนท้องถนนแล้วมีสูงถึง 8 หมื่นครั้งต่อปี มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 2 หมื่นคน แต่การเดินทางทางรางเกิดอุบัติเหตุเฉลี่ยปีละไม่ถึง 100 ครั้ง ซึ่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหลายสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมหาศาล โดยการศึกษาของ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) พบว่า ในช่วงปี 2554-2556 มูลค่าของอุบัติเหตุเฉลี่ยต่อปีเท่ากับ 5.45 แสนล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จึงจำเป็นอย่างยิ่งในการปรับปรุงการโครงสร้างพื้นฐานรวมถึงระบบรางให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งในอนาคตการเดินทางโดยรถไฟจะเป็นระบบการคมนาคมของชาติ อุบัติเหตุย่อมลดลงและจะช่วยลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจจากอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อย่างมาก

นางสิริมา หิรัญเจริญเวช รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กลุ่มยุทธศาสตร์ กล่าวว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เตรียมแผนในการลดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะบริเวณจุดตัดรถไฟซึ่งเป็นอุบัติเหตที่เกิดขึ้นกับรถไฟบ่อยที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการใช้บริการและเตรียมความพร้อมในการสร้างจิตสำนึกในการระมัดระวังในการใช้จุดตัดรถไฟ จึงบรรจุ "โครงการ 1+1 =0 รถไฟไทยปลอดภัยทุกเส้นทาง" ไว้ในแผนปฏิบัติการตามโครงการความรับผิดชอบต่อสังคมของการรถไฟแห่งประเทศไทย ในการให้ความรู้และเผยแพร่แนวทางปฏิบัติให้เกิดความปลอดภัยบริเวณชุมชน โรงเรียนใกล้เคียงทางตัด ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อเป็นการรณรงค์ถึงความปลอดภัยของผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะบริเวณจุดตัดทางรถไฟ ทางลักผ่าน ทางตัดผ่าน ทุกเส้นทาง อีกทั้งทำความเข้าใจร่วมกันกับผู้ขับขี่ยวดยาน เกี่ยวกับ พรบ.จราจรทางบก พ.ศ.2552 อย่างถูกต้อง รวมทั้งให้ความรู้แก่ประชาชนถึงสัญลักษณ์หรือป้ายเตือนต่าง ๆ และคำแนะนำในการปฏิบัติเมื่อต้องขับรถผ่านจุดตัดรถไฟ เพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุ ส่งเสริมความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนที่ขับขี่ยวดยาน และเป็นการลดการสูญเสียทางเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศอีกด้วย

ที่ผ่านมาการรถไฟฯ จัดกิจกรรมรณรงค์เกี่ยวกับการใช้ทางตัดเสมอระดับให้ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่เคยลงพื้นที่เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนและชุมชนใกล้เคียงแบบใกล้ชิด ปีนี้จึงเป็นโอกาสดีที่โครงการฯ ดังกล่าว จะเริ่มนำร่องลงพื้นที่ทางตัดสถานีรถไฟวัดงิ้วราย จังหวัดนครปฐม ในเขตภาคกลางและปริมณฑล และทางตัดสถานีรถไฟบ้านปิน จังหวัดแพร่ ในเขตภาคเหนือ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป โดยจะสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ชุมชนใกล้เคียงบริเวณทางตัด ทั้งโรงเรียน วัด และหมู่บ้านต่าง ๆ คำนึงถึงความปลอดภัย และการปฏิบัติตามกฎจราจรก่อนข้ามทางตัด รวมทั้งการให้ความสำคัญกับป้ายสัญลักษณ์เตือนต่าง ๆ อาทิ ป้ายทางข้ามทางรถไฟมีเครื่องกั้นทาง ป้ายทางข้ามทางรถไฟไม่มีเครื่องกั้นทาง ป้ายหยุด ป้ายกากบาท "ระวังรถไฟ" อันเป็นการลดการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินและเป็นการสร้างมวลชนสัมพันธ์อีกด้วย ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยเผยแพร่ให้ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับจุดตัดทางรถไฟที่ถูกต้องและสร้างการรับรู้ให้ผู้ใช้เส้นทางมีวินัยและตระหนักในการใช้เส้นทาง เพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุให้เหลือเท่ากับศูนย์ในอนาคตอันใกล้ และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัยในการยกระดับสู่รถไฟทางคู่ที่จะสมบูรณ์พร้อมให้บริการในอนาคต นางสิริมา กล่าว

นายเผอิญ ไทยสม ชาวบ้านชุมชนใกล้เคียงสถานีรถไฟอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ในแต่ละปี มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบริเวณจุดตัดรถไฟที่สถานีนี้บ่อยครั้งมาก เฉลี่ยแล้วประมาณ เดือนละครั้ง ซึ่งจริงๆ แล้วจุดตัดบริเวณนี้มีเครื่องกั้นที่ค่อนข้างสมบูรณ์มีทั้งป้ายเตือนระวังรถไฟ ป้ายหยุด มีเครื่องกั้นทาง สัญญาณไฟกระพริบ เสียงสัญญาณเตือน และมีเจ้าหน้าที่ควบคุมตลอดเวลา เพราะเป็นเส้นทางรถไฟในเขตเมืองที่มีถนนสายหลักตัดผ่านไปสู่แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดทั้งวัดพนัญเชิง และวัดใหญ่ชัยมงคล ซึ่งคิดว่าการรถไฟฯก็ได้พยายามป้องกันอุบัติเหตุอย่างเต็มที่แล้ว แต่ก็ยังเกิดอุบัติเหตุ ส่วนใหญ่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นคนในพื้นที่โดยเฉพาะคนที่ขับรถมอเตอร์ไซต์ เนื่องจากขาดความระมัดระวัง ประมาทฝ่าฝืนเครื่องกั้น และที่สำคัญขาดจิตสำนึกในวินัยด้านจราจร บ่อยครั้งเมื่อรถไฟกำลังจะมาเจ้าหน้าที่เอาเครื่องกั้นทางลงคนเหล่านี้ก็ไม่อยากจะรอจึงฝ่าฝืนขับฝ่าเครื่องกั้น ซึ่งบางครั้งประมาทเกินไป ไม่ดูให้รอบคอบเสียก่อน ทำให้หลบรถไฟที่วิ่งมาตามรางไม่ทัน และก็เกิดอุบัติเหตุขึ้น จึงคิดว่าจิตสำนึกของประชาชนสำคัญมาก ควรจะมีการรณรงค์เรื่องนี้อย่างจริงจัง รวมทั้งควรมีการลงพื้นที่มาให้ความรู้และสร้างจิตสำนึกให้แก่ประชาชนอย่างใกล้ชิด น่าจะทำให้อุบัติเหตุลดลงได้บ้าง

นางสาวกัณฐิกา ไกยราช ผู้ใช้บริการรถไฟเป็นประจำ กล่าวว่า ตนได้ใช้บริการรถไฟทุกครั้งที่ต้องเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด เนื่องจากเป็นการเดินทางที่ปลอดภัย ค่อนข้างตรงเวลา และสะดวกเพราะมีตู้นอนสามารถนอนพักระหว่างเดินทางได้ แต่ก็มีข้อเสียอยู่บ้างคือใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนาน และยิ่งหากวันนั้นเกิดอุบัติเหตุรถไฟชนรถยนต์บริเวณจุดตัดอีก ก็ยิ่งทำให้เสียเวลามากขึ้นไปอีก ดังนั้นหากการรถไฟมีมาตรการที่จะช่วยให้อุบัติเหตุเหล่านั้นลดลงก็จะยิ่งทำให้การเดินทางโดยรถไฟสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น และก็จะช่วยให้นักท่องเที่ยวมั่นใจในการเดินทางโดยรถไฟมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

หากเกิดเหตุฉุกเฉิน สามารถขอความช่วยเหลือจากพนักงานรถไฟที่อยู่ใกล้ หรือโทรสายด่วน 1690 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ศูนย์ปลอดภัย การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 02 621 8701 ต่อ 821 5240 -1 หรือ www.railway.co.th และอีเมล์ [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4