เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝน !! ประมงหวั่นสภาพอากาศแปรปรวน เตือนเกษตรกรเฝ้าระวังโรคปลา

ศุกร์ ๑๑ พฤษภาคม ๒๐๑๘ ๑๔:๓๔
นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง กล่าวเตือนเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชัง ว่าขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงเปลี่ยนฤดูจากฤดูร้อนเข้าสู่ฤดูฝนจึงทำให้อากาศแปรปรวนมีแดดร้อนจัดสลับกับมีฝนตกหนัก และในช่วงวันที่ 9 – 12 พ.ค. 2561 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนจึง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ซึ่งสภาวะดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อสุขภาพปลาที่เลี้ยงโดยตรงคือ จะทำให้ปลาเครียด อ่อนแอและยอมรับเชื้อโรคได้ง่ายโดยเฉพาะการเลี้ยงปลาในกระชังในแม่น้ำ ลำน้ำ อ่างเก็บน้ำและคลองส่งน้ำต่างๆ

โรคปลาที่ควรเฝ้าระวังในช่วงนี้ ได้แก่

- โรคที่เกิดจากปรสิต เช่น เห็บระฆัง ปลิงใส เห็บปลา เหาปลา และหมัดปลา โดยปลาที่มีปรสิตจะมีลักษณะอาการเช่น ว่ายน้ำผิดปกติ หายใจถี่ มีจุดแดงตามผิวลำตัว เพื่อเป็นการป้องกันโรคและกระตุ้นให้ปลาแข็งแรง คือ เสริมอาหารประเภทสารผสมล่วงหน้า เช่น วิตะมินซี โปรไบโอติก เป็นต้น นอกจากนี้ควรทำความสะอาดกระชังเพื่อกำจัดตะกอนและเศษอาหารออกให้หมด เป็นการตัดวงจรชีวิตปรสิต การกำจัดปรสิตในปลาที่เลี้ยงในบ่อ ทำได้โดยการใช้ด่างทับทิม 1-2 กรัมต่อน้ำ 1 ตัน หรือไตรคลอร์ฟอน 0.25 กรัมต่อน้ำ 1 ตัน แต่หากเป็นปลาที่เลี้ยงไว้ในกระชัง ให้ใช้ผ้าใบหุ้มกระชังก่อนสาดสารเคมี นอกจากนี้ยังสามารถแช่ขวดหรือถุงด่างทับทิม หรือถุงเกลือ ไว้ในกระชังเป็นจุดๆ เพื่อช่วยลดปริมาณปรสิตที่อยู่ในกระชังและลดความเครียดให้ปลา

- โรคที่เกิดจากแบคทีเรีย เช่น สเตรปโตคอสคัส แอโรโมแนส ฟลาโวแบคทีเรียม ซึ่งแบคทีเรียดังกล่าวนี้ เป็นแบคทีเรีย

นักฉวยโอกาสที่สามารถพบได้ตามแหล่งน้ำทั่วไป กล่าวคือ มันจะเข้าไปทำอันตรายปลาเมื่อปลาอ่อนแอและแพร่กระจายอย่างรวดเร็วผ่านทางกระแสเลือด โดยปลาจะมีอาการ ซึม ไม่กินอาหาร มีแผลเลือดออกตามลำตัวและอวัยวะต่างๆ มีตุ่มฝีที่บริเวณใต้คางและผิวลำตัว ตาขุ่น ฉะนั้น ควรรีบนำปลามาตรวจวินิจฉัยโรค เพื่อตรวจสอบชนิดแบคทีเรียและประสิทธิภาพของยาต้านจุลชีพที่จะใช้ให้เหมาะกับชนิดของแบคทีเรีย ก่อนนำยาดังกล่าวผสมอาหารให้กินตามคำแนะนำในฉลากยา

อย่างไรก็ตาม เกษตรกรควรจะป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคปลา เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย โดยควรคัดเลือกพันธุ์ปลาที่มีความแข็งแรง จากฟาร์มผู้ผลิตที่ได้มาตรฐานและเชื่อถือได้ เลือกใช้

อาหารที่มีคุณภาพที่ดีและให้อาหารปลาในปริมาณที่เหมาะสม และควรหมั่นตรวจสุขภาพปลาอย่างสม่ำเสมอ

เมื่อพบเห็นสิ่งปกติให้รีบหาสาเหตุและแก้ไขทันที ในขณะเดียวกันก็แจ้งให้ผู้เลี้ยงปลาในกระชังรายอื่นๆที่อยู่ใกล้เคียงทราบด้วย เพื่อที่จะหามาตรการป้องกัน การแพร่กระจายโรค กรณีที่มีปลาป่วยตาย ควรกำจัดโดยการฝังหรือเผา ไม่ควรทิ้งปลาป่วยไว้ในบริเวณบ่อหรือกระชังที่เลี้ยง เพราะจะเป็นการแพร่กระจายเชื้อโรคทำให้การระบาดของโรคเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ หากเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องโรคสัตว์น้ำสามารถติดต่อขอคำแนะนำ ในเรื่องการดูแลสุขภาพสัตว์น้ำได้จากสำนักงานประมงจังหวัด ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด/ชายฝั่ง ศูนย์วิจัยและพัฒนาการประมงน้ำจืด ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง หรือกองวิจัยและพัฒนาสุขภาพสัตว์น้ำ โทรศัพท์หมายเลข 02 – 561 – 4211 หรือศูนย์วิจัยสุขภาพสัตว์น้ำสงขลา โทรศัพท์หมายเลข 074-33 5244-8 อธิบดีกรมประมงกล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐:๕๙ ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ให้การต้อนรับอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ศรีปทุม
๒๐:๓๑ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่เพื่อติดตามความก้าวหน้าตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
๒๐:๕๒ Vertiv เปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์ไมโครโมดูลาร์รุ่นใหม่ที่มี AI ในเอเชีย
๒๐:๐๙ พิธีขึ้นเสาเอก เปิดไซต์ก่อสร้าง โครงการ แนชเชอแรล ภูเก็ต ไพรเวท พูลวิลล่า บ้านเดี่ยวบนทำเลทองใจกลางย่านเชิงทะเล
๒๐:๔๖ เขตบางพลัดประสาน รฟท.-กทพ. ปรับภูมิทัศน์ เพิ่มพื้นที่สีเขียวหน้าสถานีรถไฟบางบำหรุ
๒๐:๕๘ ร่วมแสดงความยินดีแก่อธิบดีกรมยุโรป ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์
๒๐:๐๓ กทม. เดินหน้าจัดกิจกรรมริมคลองโอ่งอ่าง ส่งเสริมอัตลักษณ์ กระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว
๒๐:๔๙ พาราไดซ์ พาร์ค ร่วมกับ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พาคุณไปสัมผัสการนวดเพื่อสุขภาพจาก 4 ภูมิภาคของไทย
๒๐:๒๔ Digital CEO รุ่นที่ 7 เรียนรู้เข้มข้นต่อเนื่อง จากวิทยากรชั้นนำของวงการ
๒๐:๒๔ เด็กไทย คว้ารางวัลระดับโลก โดรนไทย ชนะเลิศนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ทางด้านอากาศยานไร้คนขับ UAV ณ กรุงเจนีวา