นางสาวดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการที่พระราชบัญญัติการยาสูบแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2561 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 14 พฤษภาคม 2561 ทำให้การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) มีความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ และสามารถเดินหน้าขยายธุรกิจได้ทันที ความร่วมมือที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมยาสูบของประเทศไทยและประเทศจีนในวันนี้ จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์และอุตสาหกรรมยาสูบของไทยให้ก้าวหน้าออกสู่ตลาดต่างประเทศมากยิ่งขึ้น "โครงการบุหรี่นักท่องเที่ยวจีน" เป็นความร่วมมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันทางการตลาดให้แก่ผลิตภัณฑ์ยาสูบของการยาสูบแห่งประเทศไทย ทำให้เกิดการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของไทยให้ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ที่หลั่งไหลเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยจำนวนมาก และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของนักท่องเที่ยวจีน เนื่องจากมีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์บุหรี่ของไทยก็ยังเป็นของขวัญพิเศษที่ชาวจีนนิยมซื้อกลับไปเป็นของฝากของที่ระลึก
บริษัท Jinye และ Reascend เป็นบริษัทของประเทศจีนที่มีความแข็งแกร่งด้วยประสบการณ์ในการทำธุรกิจมายาวนาน มีศักยภาพและองค์ความรู้ในด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์บุหรี่ ทั้งวัตถุดิบ รสชาติ บรรจุภัณฑ์ และทราบถึงความต้องการของผู้บริโภคชาวจีนเป็นอย่างดี สามารถนำผลการวิจัยอันยอดเยี่ยม และข้อได้เปรียบในการทำการตลาดและการส่งเสริมการขายในประเทศจีนมาใช้ ซึ่งจะทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จได้ ส่วนการยาสูบแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้ผลิตบุหรี่แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จะทำหน้าที่ผลิตบุหรี่ที่มีคุณภาพ ตรงตามความต้องการของนักท่องเที่ยวจีน โดยขยายตราสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในกลุ่มนักท่องเที่ยว รวมไปถึงการสอดแทรกและนำเสนอวัฒนธรรมความเป็นไทยผ่านผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมสินค้าไทยและกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคการท่องเที่ยวอีกด้วย
ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย กล่าวอีกว่า ในระยะแรกจะเป็นความร่วมมือในการรับจ้างผลิต และเมื่อมีปริมาณความต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ ก็อาจมีการร่วมลงทุนในอนาคต สำหรับความร่วมมือดังกล่าวยังช่วยสนับสนุนให้เกษตรกรชาวไร่ยาสูบมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการร่วมกันวิจัยและพัฒนาเพื่อใช้ใบยาสูบที่ปลูกในประเทศไทยมาผลิตบุหรี่ รวมทั้งในอนาคตจะมีการต่อยอดผลิตภัณฑ์จากโครงการนี้ และขยายตลาดออกสู่ต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียน