ฟังแล้วหลายคนอาจกล้าๆ กลัวๆ หรือไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร แนวทางที่ง่ายที่สุดคือ การค้นหาธุรกิจที่เหมาะสมกับตัวเอง เริ่มต้นด้วยสิ่งที่ตัวเองมีความถนัดและรู้ดีที่สุด หลังจากนั้นค่อยๆ ต่อยอดไปสู่สิ่งที่รักและธุรกิจที่ตัวเองอยากสร้าง ซึ่งจะทำให้ทำได้นาน ไม่เหนื่อยใจง่ายๆ เมื่อต้องเจออุปสรรคต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ในทุกย่างก้าวต้องพัฒนาทักษะและความสามารถควบคู่กันไปด้วย จนขยับขยายไปสู่กิจการ SMEs ขนาดเล็ก มุ่งไปเป็น SMEs ขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนประสบความสำเร็จ ซึ่งการทำธุรกิจส่วนตัว หากจับถูกทางและทำไปเรื่อยๆ จนมั่นคงสักระยะหนึ่ง ผลตอบแทนจะสูงกว่าการเป็นมนุษย์เงินเดือนแน่อน
ส่วนคนที่พยายามค้นหาแล้ว ไม่พบว่าตนเองมีความสามารถหรือทักษะใดซ่อนอยู่จริงๆ รวมถึงยังไม่กล้าเสี่ยง หรือยังไม่พร้อมที่จะทำธุรกิจในแบบที่ตัวเองคิดเอาไว้ ลองเรียนรู้ธุรกิจในรูปแบบระบบตัวแทนจำหน่ายดูก่อนก็ได้ ซึ่งธุรกิจรูปแบบนี้ เหมาะกับมือใหม่หลายประการ ทั้งสามารถลงทุนได้แม้มีงบที่จำกัด สามารถเลือกสมัครกับแบรนด์ที่ตนเองสนใจได้หลากหลายแบรนด์ในเวลาเดียวกันอีกด้วย
การมองหาธุรกิจแฟรนไชส์ที่ตรงใจ เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ และตอบโจทย์มือใหม่ที่มีงบประมาณอยู่ในมือได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นรูปแบบธุรกิจที่มีแบบแผน มีการวางระบบมาให้แล้วอย่างชัดเจน โดยผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์และผ่านการคัดเลือก จะได้เข้ารับการอบรม เรียนรู้วิธีการขายและบริหาร ได้รับอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งยังได้ชื่อเสียงของแบรนด์นั้นๆ มาเริ่มต้นกิจการอีกด้วย
เมื่อเรามีไอเดียธุรกิจผลิตสินค้าหรือบริการที่ดี ซึ่งต้องเป็นธุรกิจที่อยู่ในกระแส หรือ เทรนด์ ไม่ใช่ธุรกิจที่ตะวันตกดินแล้ว อีกสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการทำธุรกิจก็คือ เรื่องเงินทุน การวางแผนการเงิน หรือวางแผนสภาพคล่องของกิจการ จึงควรสำรวจฐานะทางการเงิน ว่าตนเองมีเพียงพอหรือไม่ เพราะหลายต่อหลายครั้ง ธุรกิจดีๆ ต้องล้มหายตายจากไป เพราะขาดสภาพคล่อง
สำหรับการขอกู้เงินนั้น หากเป็นผู้ประกอบการรายใหม่อาจเป็นเรื่องยาก เนื่องจากไม่ได้รับความเชื่อถือ ดังนั้น การสร้างเครดิตหรือความน่าเชื่อถือให้กับตัวเองจึงเป็นเรื่องสำคัญ และสิ่งที่ยืนยันความน่าเชื่อถือของเราได้คือ ผลการดำเนินงานของกิจการที่ผ่านมา รวมถึงสถานะทางการเงิน เช่นงบการเงินต่าง ๆ ประมาณการกำไรที่คาดว่าจะได้รับ
เมื่อรู้จักตัวเองแล้ว ต้องรู้จักตลาดลูกค้าและคู่แข่ง โดยเฉพาะธุรกิจที่เป็นเทรนด์ ต้องพึงระวังว่า "คู่แข่ง" อาจเข้ามาได้ทุกเมื่อ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องรู้ว่าคู่แข่งเป็นอย่างไร จุดเด่น จุดด้อยของเขาอยู่ตรงไหน เช่นเดียวกับข้อมูลลูกค้าที่ผู้เริ่มต้นธุรกิจควรสำรวจความต้องการสินค้าหรือบริการ ว่ามีมากน้อยเพียงใด เหมาะกับลูกค้ากลุ่มใด วัยใด ชายหรือหญิง เพื่อใช้เป็นแนวทางสำหรับการผลิตต่อไป
การเตรียมความพร้อมเหล่านี้ที่เป็นเพียงบันไดขั้นต้นในการเข้าสู่เส้นทาง "เถ้าแก่ป้ายแดง" ก็อย่าเพิ่งถอดใจ เพราะในยุค 4.0 ที่เทคโนโลยีถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นตัวช่วยในการทำธุรกิจให้สะดวกและง่ายดายขึ้น ขณะที่มีช่องทางลัดให้ก้าวเดินอีกหลากหลาย ทำให้ความสำเร็จอยู่ไม่ไกลหากมีใจมุ่งมั่นและพร้อมจะทุ่มเท
หนึ่งในตัวช่วย "ชี้ช่องรวย ที่เดียวจบพบทางรวย" ก็คือ งาน SMART SME EXPO 2018 เป็นงานแสดงธุรกิจสินค้าและให้บริการสำหรับ SME จะมีขึ้นในวันที่ 5-8 กรกฎาคม 2561 ณ Hall 3-4 ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี โดยภายในงานนี้จะทำให้ผู้ประกอบการได้พบตัวช่วยในการเป็นเถ้าแก่ใหม่อย่างครบครัน
งาน SMART SME EXPO 2018 ได้รวมธุรกิจของ SME ในกระแสยุค 4.0 อย่างธุรกิจ Franchise Beauty Innovation และ Food มีผู้ประกอบการเข้าร่วมออกบูธกว่า 400 บูธ พร้อมทั้งหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการเงินมากมายที่พร้อมให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาในการเริ่มต้นธุรกิจ ตลอดจนบุคคลที่มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจมาร่วมแชร์ประสบการณ์ในงาน เรียกว่าไปงานนี้มี คนช่วยคิด ชีวิตดีขึ้นแน่นอน