นางขวัญนภา ผิวนิล ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส เปิดเผยว่า ประเทศสหรัฐอเมริกาถือเป็นตลาดที่มีความสำคัญน่าจับตามอง เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง มีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของโลก อีกทั้ง ภาพรวมเศรษฐกิจการค้าในสหรัฐฯ มีสัญญาณดีขึ้นตั้งแต่ปี 2560 และมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยแผนงานการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการทำตลาดสหรัฐฯ ของสคต. ลอสแอนเจลิส คือ การสนับสนุนใน 3 กลุ่มสินค้าที่เป็นจุดแข็งของประเทศไทย และมีความต้องการในตลาดสหรัฐฯ ได้แก่ 1) กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร โดยจะมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์อาหารประเภทที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ มีนวัตกรรม เช่น อาหารออแกนิค อาหารประเภทพร้อมรับประทาน อาหารที่ดีกับสุขภาพ เพื่อเจาะตลาดกลุ่ม มิลเลนเนียม คนรุ่นใหม่ที่จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในอีก 10 ปีข้างหน้า 2) กลุ่มแฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ และ 3) กลุ่มธุรกิจภาพยนตร์บันเทิง
นางขวัญนภา กล่าวเพิ่มเติมว่า สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ หนึ่งในกลุ่มสินค้าแฟชั่นที่ทาง สคต. ให้ความสำคัญ มีการนำเข้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ มูลค่า 59,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ประเทศไทยมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 1,288 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 2.2 ประเทศไทยเป็นตลาดนำเข้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับอันดับที่ 13 ของสหรัฐฯ โดยตลาดเอเชียที่เป็นผู้นำตลาดสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในสหรัฐฯ ยังคงเป็นอินเดีย จีน และฮ่องกง
"พฤติกรรมของผู้บริโภคสหรัฐฯ มีการเปลี่ยนแปลงจากการซื้อสินค้าตามห้างร้านมาเป็นการซื้อผ่านออนไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะเว็บอเมซอน ส่งผลให้บริษัทต่างๆ ที่ยังค้าขายในรูปแบบเดิมๆ ต้องปิดตัวหลายรายในปีที่ผ่านมา ดังนั้น ผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับไทยที่ต้องการบุกตลาดสหรัฐฯ ควรปรับตัวสู่รูปแบบการค้าออนไลน์มากขึ้น"
สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่ได้รับความสนใจจะเป็นเครื่องประดับที่ใส่ง่าย ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ราคาไม่สูงมาก เจาะตลาดคนรุ่นใหม่ คนทำงาน ซึ่งเป็นตลาดกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อระดับกลาง เป็นตลาดขนาดใหญ่ จึงมีการแข่งขันด้านราคากันสูง อีกแนวทางหนึ่งในการทำตลาด คือ การร่วมมือกับดีไซเนอร์ หรือแบรนด์เครื่องประดับในสหรัฐฯ เพื่อผลิตสินค้าร่วมกัน ซึ่งประเทศไทยมีจุดเด่นด้านคุณภาพและดีไซน์ เป็นที่ยอมรับของชาวต่างชาติอยู่แล้ว โดยผู้ประกอบการจำเป็นต้องเปิดตัวให้เป็นที่รู้จักในงานแสดงสินค้าใหญ่ๆ เพื่อหาคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น งาน JCK Las Vegas ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้ร่วมออกบูธโรดโชว์แนะนำ งานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ครั้งที่ 62 หรือ 62nd Bangkok Gems & Jewelry Fair งานแสดงสินค้าเครื่องประดับและอัญมณีงานใหญ่ของไทย ภายในงาน JCK Las Vegas โดยนำผู้ประกอบการไทย และแบรนด์ไทย กว่า 50 ราย ร่วมแสดงศักยภาพสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทย โดยมีนักธุรกิจชาวต่างชาติให้ความสนใจเยี่ยมชมบูธและสอบถามข้อมูลจำนวนมาก คาดว่าจะสามารถต่อยอดไปสู่การเจรจาธุรกิจภายในงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ครั้งที่ 62
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เชิญชวนผู้ประกอบการเครื่องประดับและอัญมณีไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ครั้งที่ 62 ที่จะจัดขึ้นวันที่ 7-11 กันยายน 2561 ณ อาคาร ชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อขยายโอกาสทางการค้ากับคู่ค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สอบถามข้อมูลและสมัครได้ที่ โทร. 02-507-8392-3 หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bkkgems.com