"เพะ-ชะ-คุ-ชะ" (Pecha Kucha) คือ Stage of ideas เวทีแห่งไอเดีย ซึ่งคำนี้จำลองมาจากเสียงพูดคุย (chit-chat) ของชาวญี่ปุ่น เกิดจากความคิดสนุกสุดสร้างสรรค์ของ Astrid Kliein (แอสตริด ไคลน์) และ Mark Dytham (มาร์ค ไดแธม) ผู้ก่อตั้งบริษัทสถาปนิกชั้นนำระดับโลก Klein Dytham architecture (KDa) ในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปีพ.ศ. 2546 (ค.ศ. 2003) เป็นการเปิดพื้นที่ในยามค่ำคืนให้ผู้คนจากสารพัดวงการได้มีโอกาสพกพาไอเดียสุดเจ๋งของตน จะเป็นใครก็ได้ ไม่มีเส้นแบ่งระหว่างคนดังกับโนเนม, มืออาชีพกับมือสมัครเล่น, ผู้ใหญ่กับเด็ก ฯลฯ มา "ปล่อยของดี" อวดโฉมต่อหน้าสาธรณชนอย่างมีอิสระ เล่าสู่กันฟังอย่างสนุกสนานในบรรยากาศเป็นกันเอง ผ่านเวที PechaKucha Night ไปพร้อมๆ กับการเรียนรู้วิธีคิดอย่างสร้างสรรค์ของผู้อื่นไปด้วย เพื่อจะก้าวต่อไปเป็น ผู้นำทางความคิด ที่ดีในอนาคต
สิ่งที่เป็นหัวใจหลักและมีเอกลักษณ์อันเป็นสากลของ PechaKucha ล้วนเกี่ยวพันกับตัวเลข "20 x 20" คือการนำเสนอไอเดียด้วย 20 IMAGE x 20 SECONDSหรือ 20 ภาพ ภาพละ 20 วินาที ของเรื่องราวนั้นๆ ทำให้ PechaKucha เป็นศิลปะการนำเสนอแบบหนึ่งที่กระชับและมีเสน่ห์ ด้วยรูปแบบของงานที่เรียบง่าย ที่ใครได้มีโอกาสมาเข้าร่วมแล้วก็ล้วนสนุก พร้อมเปิดกว้างต้อนรับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกไอเดียดีๆ เสมอ ทำให้ ณ วันนี้ PechaKucha จึงกลายเป็นงานยอดฮิตที่ถูกจัดขึ้นแล้วกว่า 1,000 เมืองทั่วโลก
และสำหรับที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย PechaKucha Night Bangkok ที่ทุกคนรอคอย กำลังจะกลับมาอีกครั้ง ด้วยสปิริตใหม่ บนพื้นที่ OPEN HOUSE Co-Living Space ชั้น 6 Central Embassy เป็นครั้งแรก ซึ่งที่นี่เองก็ได้รับการออกแบบโดย KDa จนสามารถคว้ารางวัลด้านการออกแบบระดับสากล Design For Asia GRAND AWARD 2017 โดยครั้งนี้ยังได้รับเกียรติจาก Mark Dytham สถาปนิกและผู้ก่อตั้ง KDa จะเดินทางมาร่วมเปิดฉากพูดคุยและแบ่งปันไอเดียบนเวทีPechaKucha กับชาวกรุงเทพฯ โดยมี เชน สุวิกะปกรณ์กุล แห่ง Serindia Gallery และ Hardcover: The Art Book Shop ในฐานะ City Organizer และประสานงาน PechaKucha Night Bangkok ในครั้งนี้และต่อๆ ไป ด้วยความร่วมมือจาก OPEN HOUSE และ Central Embassy
เพื่อสร้างสีสันแห่งการเริ่มต้นใหม่ของ "PechaKucha Night Bangkok" ครั้งนี้ หากคุณเป็นนักคิดนักสร้างสรรค์ที่มีไอเดียสุดเจ๋ง ไม่ว่ารุ่นไหน สไตล์ไหน ขอเชิญชวนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ ผู้นำเสนอไอเดีย ในงานที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันอังคารที่ 17 กรกฎาคม 2561 เวลา 20:20 น. ณ OPEN HOUSE ชั้น 6 Central Embassy โดยกรุณาส่งอีเมลมาที่ [email protected] หรือติดต่อคุณเชนที่ 089 495 5535 ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 10 ก.ค. 2561 หากผลงานสร้างสรรค์มีความน่าสนใจ คุณจะได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในเจ้าของผลงานชิ้นเยี่ยมผ่าน http://www.pecha-kucha.org เว็บไซต์ทางการที่รวบรวมรายละเอียดความเคลื่อนไหวของเพะชะคุชะไนท์ ทั่วโลกไว้ในที่เดียว และสำหรับผู้สนใจเข้าร่วมชมงาน สามารถเข้าร่วมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ:
Facebook: pechakuchabangkok / Instagram: pechakuchabkk
Email: [email protected]
City Organizer: Shane Suvikapakornkul M. 089 495 5535
เกี่ยวกับ PechaKucha
เพะ-ชะ-คุ-ชะ คือ stage of ideas เวทีของไอเดีย สำหรับ "ปล่อยของดี" ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2546 (ค.ศ.2003) โดย สถาปนิก Astrid Klein และ Mark Dythamแห่ง Klein Dytham Architecture (KDa) ผู้ออกแบบ Open House ชั้น 6 Central Embassy
เพะชะคุชะ เป็นงานกลางคืนเรียกว่า PechaKucha Night เพะชะคุชะไนท์ เริ่ม "ปล่อยของ" เวลา 20:20 น. ก่อนหน้านั้น ตั้งแต่ 19:30 น. เป็นเวลาสังสรรค์ มีเครื่องดื่มและอาหารทั้งไม่เสียค่าใช้จ่ายและแบบจำหน่าย เป็นโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้มีโอกาสพบปะสังสรรค์อย่างเป็นกันเอง
วิธีการ "ปล่อยของดี" ของ เพะชะคุชะ คือการนำเสนอไอเดียด้วยภาพและคำอธิบายอย่างกระชับ ด้วยรูปแบบ "20 × 20" คือด้วย 20 IMAGES × 20 SECONDSหรือ 20 ภาพ ภาพละ 20 วินาที (รวมแล้วประมาณ 6นาที) ด้วยโปรแกรม Keynote หรือ Powerpoint
ผู้ที่มา "ปล่อยของ" หรือ Speakers ไม่จำกัดว่าจะคือใคร สามารถเสนอตัวและไอเดียผ่าน City Organizerได้ แต่ละครั้งอาจจะมีธีมหลัก โดยรวมทั้งหมดแล้ว งานPechaKucha Night หนึ่งครั้งจะมีผู้นำเสนอประมาณ 8-12 คน คนละ 20 ภาพ ภาพละ 20 วินาที (ประมาณคนละ 6 นาที)
สำหรับที่กรุงเทพ เพะชะคุชะ จัดเป็นครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. 2551 (2008) หลังจากนั้นมีการสานต่อแบบไม่เป็นทางการ จนกระทั่ง ปีนี้ (พ.ศ. 2561) โดยมี เชน สุวิกะปกรณ์กุล แห่ง Serindia Gallery และ Hardcover Art Book Shop ในฐานะ City Organizer และประสานงาน PechaKucha Night Bangkok อย่างเป็นทางการในครั้งนี้และต่อๆ ไปด้วยความร่วมมือจาก OPEN HOUSE และ Central Embassy
ปัจจุบัน เพะชะคุชะ แพร่ไปถึงว่า 1,000 เมือง ในหลายประเทศ ทั้งเอเซีย อเมริกา และยุโรป แต่ละเมืองมีผู้จัดงานประจำเมืองนั้นๆ หรือ เรียกว่า City organizerโดย เพะชะคุชะ มีสำนักงานใหญ่ อยู่ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ชื่อ PechaKucha 20 IMAGES × 20 SECONDS เป็นแบรนด์ในการจัดงานPechaKucha Night โดย City organizer ของเมืองนั้นๆ
เกี่ยวกับ Serindia Gallery และ Hardcover: Art Book Shop ในฐานะ City Organizer
เชน สุวิกะปกรณ์กุล เป็นผู้อำนวยการหอศิลป์ เซรินเดีย แกลเลอรี่ (Serindia Gallery) และร้านหนังสือฮาร์ดคัฟเวอร์ (Hardcover: Art Book Shop) ธุรกิจหลายๆ อย่างที่เชนมีส่วนร่วมเป็นธุรกิจทางด้านส่งเสริมวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นทางด้านศิลปะ งานออกแบบสำนักพิมพ์ และร้านหนังสือทั้งหมดเป็นการช่วยส่งเสริมความรู้และพัฒนาทักษะของคนรุ่นใหม่ในด้านองค์ความรู้ทางด้านศิลปะวัฒนธรรม เพะชะคุชะ เป็นกิจกรรมในการส่งเสริมการแสดงออกทางด้านความคิดสร้างสรรค์ที่ควรได้รับการสนับสนุน ซึ่งเชนได้อาสาสมัครเป็น City Organizer ของเพะชะคุชะ ไนท์ กรุงเทพฯ คนปัจจุบันอย่างเป็นทางการจากสำนักงานใหญ่เพะชะคุชะ ที่กรุงโตเกียว
เกี่ยวกับ OPEN HOUSE
"OPEN HOUSE" Co-living space (โค-ลิฟวิ่ง สเปซ) คอนเซ็ปต์ใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ บนพื้นที่ชั้น 6 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ถือเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญ ที่ทำให้ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น พร้อมมอบประสบการณ์ใหม่ให้การใช้ชีวิตในเมืองของคุณได้มีความโดดเด่นร่วมสมัย โดยต้องการให้ OPEN HOUSE พื้นที่แห่งความสุขซึ่งทุกๆ คนสามารถพบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ ใช้เวลากับครอบครัว รวมไปถึงมีพื้นที่การทำงานและพักผ่อนด้วยกันได้อย่างลงตัว
ด้านการออกแบบได้ร่วมมือกับ Klein Dytham architecture (KDa) บริษัทออกแบบชั้นแนวหน้าจากญี่ปุ่น ผู้ออกแบบโครงการ Daikanyama T-Site และ Ginza Place ในการออกแบบพื้นที่ภายใน OPEN HOUSE โดยหัวใจหลักในการออกแบบคำนึงถึงความโปร่งสบาย ใกล้ชิดกับธรรมชาติ และเน้นการใช้สอยได้จริง ซึ่งสะท้อนออกมาผ่านเพดานที่มีความสูงถึง 6 เมตร ซึ่งนับเป็นเพดานที่สูงที่สุดของศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี และการใช้กระจกสูงรอบด้านเพื่อให้ผู้มาใช้สอยเพลิดเพลินไปกับวิว 360 องศาของใจกลางกรุงเทพฯ ในส่วนของวัสดุต่างๆ ที่ KDa เลือกใช้ไม่ว่าจะเป็นไม้ฉลุในลวดลายต่างๆ พื้นที่สีขาวโพลน การใช้รูปทรงสี่เหลี่ยม ไปจนถึงลวดลายใบไม้ที่เพ้นท์มือทุกใบโดยฝีมือของศิลปินไทย ส่งผลให้ OPEN HOUSE เป็นพื้นที่ซึ่งมีความเรียบง่ายแต่มากไปด้วยรายละเอียด และพร้อมที่จะให้ผู้ใช้สอยเสาะหาแรงบันดาลใจและสนุกไปกับโซนต่างๆ แบ่งพื้นที่เป็น 8 โซนหลัก ประกอบไปด้วย Eating Deck, Eat by the Park, Open House Bookshop by Hardcover, Co-Thinking Space, Stationery EastWest, Open Playground และแบรนด์เสื้อผ้าสำหรับเด็ก อาทิ 10mois รวมถึงDiplomat Screens Embassy by AIS รวมไปถึงเชื่อมโยงสู่การนอนพักที่โรงแรม Park Hyatt Bangkok ให้ OPEN HOUSE เป็นดั่งบ้านหลังที่สองของคุณ ซึ่งเติมเต็มความต้องการในทุกๆ ด้านของคุณและครอบครัว ให้ทุกๆคนสามารถหาความสุขในแบบของตัวเองได้บนพื้นที่เดียวกัน