“เสาหลักนำทางยางพารา” ลดอุบัติเหตุบนท้องถนน “วท.สุราษฎร์ธานี” คว้ารางวัล “ชนะเลิศ” การประกวด “นวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส.”

อังคาร ๒๘ สิงหาคม ๒๐๑๘ ๑๔:๑๙
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2564) ได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยในการจราจรและการใช้รถใช้ถนนของประชากรวัยเด็กและวัยแรงงาน โดยให้ทุกภาคส่วนหาแนวทางในการป้องกันและจัดการกับปัญหาอุบัติเหตุทางถนนอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะอุบัติเหตุบนท้องสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมหาศาลในแต่ละปี

ด้วยการที่เป็นผู้ใช้รถใช้ถนน ผ่านพบเห็นอุบัติเหตุต่างๆ บนท้องถนนมาหลายครั้ง โดยเฉพาะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์ที่เฉี่ยวชนกับเสาหลักกั้นทางซึ่งทำขึ้นจากปูน ที่มักจะทำให้เกิดความเสียหายและสร้างความบาดเจ็บที่รุนแรงต่อตัวของผู้ประสบเหตุ จึงทำให้นักศึกษาจาก วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี มีแนวคิดที่จะหาทางป้องกันและลดระดับความรุนแรงของอุบัติเหตุ ทีม "สี่สหาย-สายช่าง" ที่เกิดขึ้นจากรวมตัวกันของนักศึกษา ปวช.ปี 3 จากแผนกต่างๆ จึงได้คิดค้นวัสดุที่จะนำมาทดแทน "เสาหลักนำทาง-เสาหลักกิโลเมตร" ที่สร้างขึ้นจากปูนที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน

"ที่ผ่านมาได้เห็นอุบัติเหตุจากการที่รถชนกับเสาหลักที่เป็นปูนหรือแผงเหล็กกั้นทาง ผู้บาดเจ็บก็มักจะมีอาการรุนแรงสาหัส ประกอบกับเคยเห็นว่าตามทางโค้งต่างๆ ในสนามแข่งรถนิยมใช้ยางรถยนต์เก่ามากั้นเพื่อบรรเทาความรุนแรง ก็เลยเอาแนวคิดนี้มาปรึกษากับอาจารย์ที่ปรึกษา แล้วก็เกิดความคิดว่าเรามาลองทำเสาหลักนำทางจากยางพารากันดูไหม" นายธรรมนูญ รุจิญาติ "หรั่ง" นักศึกษาแผนกช่างเชื่อมโลหะ ปวช.ปี 3 วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี เล่าถึงที่มาของไอเดีย

จากความคิดว่า "น่าจะทำได้" ทำให้สมาชิกของทีมทั้ง 3 คนช่วยกันคิดค้นหาวิธีที่ทำให้ยางพารามีความแข็งแกร่ง แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีความทนทาน และมีความยืดหยุ่นไม่สร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินและร่างกายของผู้ประสบเหตุไปพร้อมกัน

"ตอนแรกก็งง ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เพราะยางพาราจะมีคุณสมบัติที่นิ่ม ก็เลยไปหาสารเคมีต่างๆ หรือส่วนประกอบอื่นๆ เข้ามาทดลองผสมดูเพื่อให้มีความแข็งแรง สุดท้ายก็เลยได้ข้อสรุปว่าใช้ขี้เลื่อยผสมกับยางพาราในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 จะทำให้เสาที่ทำขึ้นนั้นมีความแข็งแรงคล้ายกับไม้ และมีความยืดหยุ่นในขนาดที่พอรับได้ ไม่สร้างให้เกิดความเสียหายกับตัวรถและผู้ขับขี่ และช่วยลดแรงปะทะลดความรุนแรงที่เกิดขึ้นลงไปได้มาก" นายณรงค์ศักดิ์ ทิพย์มาก "โดม" นักศึกษา ปวช.ปี 3 จากแผนกเทคโนโลยียางและพอลิเมอร์กล่าว

ผลงาน "เสาหลักนำทางจากยางพารา" ได้ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมรอบแล้วรอบเล่า จาก 134 ทีม จนผ่านเข้าสู่รอบ 19 ทีมสุดท้ายและได้มีการจัดกิจกรรม Workshop เพื่อเรียนรู้มุมมองใหม่ๆ ในการนำนวัตกรรมมาใช้ในการส่งเสริมสุขภาพของชุมชน และเพื่อพัฒนาชิ้นงานให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น

"หลังจากนั้นมานั่งคิดกันต่อว่าน่าจะเอาแนวคิดที่ได้รับจากการอบรมมาต่อยอด โดยเริ่มจากการติดตั้งระบบไฟโซล่าเซลเพื่อเพิ่มความปลอดภัย แต่การติดไฟก็อาจจะยังไม่เพียงพอต่อการป้องกันอุบัติเหตุ ก็เลยมาคิดต่อว่า ถ้าเราทำให้เสาหลักนำทางมีระบบ GPS เวลาที่เกิดเหตุก็สามารถแจ้งเตือนไปยังมูลนิธิหรือกู้ภัยต่างๆ ด้วยก็น่าจะดียิ่งขึ้น ก็เลยมีการพัฒนาระบบ Application เชื่อมเข้ากับระบบ Line เวลาที่เกิดอุบัติเหตุก็จะมีข้อความระบุพิกัดสถานที่เกิดเหตุส่งผ่านระบบ Line เข้าไปที่หน่วยกู้ภัย ก็จะทำให้สามารถมาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บได้ตรงจุดและทันท่วงที" นายอิศร มยาเศรษฐ "บาส" เล่าถึงแนวทางการต่อยอดผลงาน

จากไอเดียที่ไม่หยุดนิ่งในที่สุดผลงาน "เสาหลักนำทางจากยางพารา" ก็สามารถคว้า รางวัลชนะเลิศ ระดับอาชีวะศึกษา จากการประกวดนวัตกรรมนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ หรือ ThaiHealth INNO Awards ที่จัดขึ้นโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อเปิดโอกาสให้กับเยาวชนที่รุ่นใหม่ระดับมัธยมและอาชีวศึกษาได้สร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ที่เกิดขึ้นจากการผสมผสานความคิดริเริ่มสร้างสรรค์บนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดีในทุกๆ ด้าน

"หากเกิดรถชนที่ไม่รุนแรงมาก แล้วตัวเสาก็จะกลับคืนตัวขึ้นตั้งขึ้นเองได้เหมือนเดิม จากการทดลองการชนที่ความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พบว่าตัวรถก็อาจจะมีรอยถลอกนิดหน่อย แต่ไม่เสียหายถึงโครงสร้าง ส่วนคนยังไม่ได้ทดลองแต่อย่างไรก็ต้องเจ็บน้อยกว่าปูนอยู่แล้วเพราะมีความยืดหยุ่นมากกว่า"

"เราใส่สารเคมีที่ป้องกันการติดไฟด้วย เพราะตามป่าหญ้าสองข้างทางอามีคนทิ้งก้นบุหรี่ หรือมีไฟไหม้ป่าไหม้หญ้าข้างทาง ตัวเสาตัวนี้ก็จะไม่เสียหาย เพราะไม่ติดไฟ ถ้ามีคนสนับสนุน ก็อยากจะให้เอาไปใช้กันทั่วประเทศน่าจะปลอดภัย และสร้างรายได้ให้กับชาวสวนยางได้ด้วย"

"เสาของเรา ถ้าเกิดรถชนจนพัง สามารถนำมาบดใหม่ ใช้ซ้ำได้ และมีราคาต้นทุนประมาณ 300 บาทเท่านั้น ถ้ามีการเอาไปใช้งานจริงๆ ทั่วประเทศก็จะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับชาวสวนยางพาราที่ประสบปัญหาราคาตำต่ำอยู่ในขณะนี้ได้อีกด้วย" 3 หนุ่มจากทีมสี่สหาย-สายช่างช่วยกันอธิบาย

ด้าน อาจารย์ศรีวิการ์ เมฆธวัชชัยกุล อดีตรองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ คณะกรรมตัดสิน เปิดเผยว่าผลงานเสาหลักนำทางจากยางพารานั้น สามารถตอบโจทย์ที่เป็นปัญหาสำคัญของประเทศได้ 3 ด้านคือสามารถสร้างความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ป้องกันบรรเทาความรุนแรงจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และเป็นนวัตกรรมใหม่ที่รวมเอาเทคโนโลยีต่างๆ เช่นมีระบบ GPS เซ็นเซอร์เตือนภัย ที่เชื่อมโยงเข้ากับระบบ Line เพื่อแจ้งตำแหน่งที่เกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่มีราคาที่ถูกและสามารถใช้งานได้นานถึง 8 ปี

"สิ่งที่สำคัญคือผลงานชิ้นนี้ยังตอบโจทย์ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ และปัญหาในเชิงพื้นที่ซึ่งก็คือเรื่องของยางพาราที่มีราคาตกต่ำ ที่หากขยายผลนำไปใช้ทั่วประเทศนอกจากจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้แล้วยังสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับคนได้อีกเป็นจำนวนมาก"

"สสส. ไม่ได้มุ่งหวังเพียงแค่การประกวดเพื่อให้ได้ชิ้นงานนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ แต่มุ่งหวังที่จะสร้าง เมล็ดพันธุ์นักนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ที่เกิดขึ้นทั้งลูกศิษย์และครู ทั้งในระดับมัธยมและอาชีวศึกษา ซึ่ง สสส. ได้วางแผนการทำงานร่วมกับครู อาจารย์ ทั้งสายสามัญและสายอาชีพ เพื่อบ่มเพาะแนวคิดของการเป็นนักนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพอย่างต่อเนื่อง เพราะเราเชื่อในศักยภาพของคน และความคิดสร้างสรรค์ที่ริเริ่มสิ่งใหม่ โดยใช้นวัตกรรมเป็นตัวขับเคลื่อนและสร้างเสริมสุขภาพให้กับทุกคนในสังคมไทย" ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวสรุป.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๗ ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๑๗:๕๓ NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๑๗:๐๕ แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๑๗:๓๒ แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๑๗:๒๕ RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๑๗:๔๘ ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๑๗:๐๕ เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๑๗:๐๖ ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๑๗:๔๙ ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud
๑๗:๐๐ เปิดรับสมัครแล้ว HaadThip Fan Run 2024 แฟนรัน ฟันแลนด์ ดินแดนมหัศจรรย์ หาดสมิหลา จ.สงขลา