สสส. ประกาศผลมอบรางวัล “โครงการนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ” บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ “นักนวัตกร” เพื่อสร้างเสริม “สุขภาวะ” คนไทย

พฤหัส ๓๐ สิงหาคม ๒๐๑๘ ๐๙:๐๖
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดพิธีประกาศผลและมอบรางวัล "โครงการประกวดนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ" ให้กับเยาวชนในระดับมัธยมศึกษาและระดับอาชีวศึกษาที่ผ่านการคัดเลือกเข้ารอบ 19 ทีมสุดท้าย พร้อมจัดนิทรรศการนำเสนอผลงานภายใต้แนวคิด "นวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพฝีมือเยาวชน จะช่วยเปลี่ยนชีวิตคุณให้ดีขึ้นได้อย่างไร" โดยได้รับเกียรติจาก พล.อ. ปัฐมพงศ์ ประถมภัฏ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี เพื่อต่อยอดแนวคิดและนำนวัตกรรมที่คิดค้นขึ้น ไปใช้ขยายผลแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพ และสร้างเสริมสุขภาวะของคนไทยในพื้นที่ของตนเองอย่างยั่งยืน

พล.อ. ปัฐมพงศ์ ประถมภัฏ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานในพิธีเปิดเผยว่า ในศตวรรษที่ 21 มีการเปลี่ยนแปลงหลายด้านที่มีผลต่อสุขภาพทั่วโลก ทั้งโรคอุบัติใหม่ อุบัติซ้ำ ผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ โรคที่เกิดจากพฤติกรรมสุขภาพ และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งในอีก 20 ปี ประเทศไทยจะมีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุมากที่สุดในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ดังนั้นการขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ที่เน้นความคิดสร้างสรรค์เพื่อหาวิธีการใหม่ๆ ในการส่งเสริมสุขภาพ เพื่อให้เท่าทันต่อโลกที่หมุนเร็วในศตวรรษที่ 21 จึงเป็นสิ่งสำคัญ การดำเนินนโยบายของรัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการนำพาสังคมไทยไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 โดยปรับเปลี่ยนจากเศรษฐกิจที่เคยพึ่งพาเทคโนโลยีจากภายนอกเป็นหลัก ไปสู่การพึ่งพาตนเองโดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม เริ่มจากรากฐานที่สำคัญคือการสร้างคนสู่การเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ เพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ซึ่งเป็นการวางรากฐานการพัฒนาประเทศในระยะยาว และเป็นจุดเริ่มต้นในการขับเคลื่อนไปสู่การเป็นประเทศที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

"โครงการประกวดนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ที่ สสส. จัดขึ้นจึงเป็นเหมือนการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์เพื่อสร้างนักนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ให้แก่นักเรียนนักศึกษาซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่สำคัญของประเทศ รวมทั้งครูที่ปรึกษาซึ่งได้ร่วมกระบวนการอบรม ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการบ่มเพาะลูกศิษย์ในอีกหลายรุ่นให้มีแนวคิดเป็นนวัตกร และเข้าใจแนวทางสร้างเสริมสุขภาพที่เริ่มต้นจากตัวเอง ชุมชน และสังคมโดยรอบได้ และสามารถต่อยอดนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อสังคมวงกว้างมากยิ่งขึ้น รวมถึงการทำงานกับเครือข่ายครู ให้มีแนวคิดเป็นนักนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ซึ่งจะเป็นตัวคูณที่สำคัญในการสร้างลูกศิษย์จากรุ่นสู่รุ่น และเป็นเครือข่ายที่สำคัญในการสนับสนุนงานนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ"

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เปิดเผยว่า สสส. ได้ขับเคลื่อนงานด้านการสร้างเสริมสุขภาพ โดยมุ่งแก้ไขต้นเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพของคนไทย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการสร้างนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านนโยบาย สิ่งแวดล้อม เสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน การปรับเปลี่ยนระบบบริการสุขภาพ และการสร้างทักษะและพฤติกรรมส่วนบุคคลให้มีสุขภาพดีครบ 4 มิติ คือ สุขภาพกาย สุขภาพจิตใจ สุขภาพทางสังคม และสุขภาพทางปัญญา ซึ่ง สสส. มีความเชื่อมั่นในพลังคนรุ่นใหม่ จึงได้จัดทำ "โครงการประกวดนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ" ในกลุ่ม นักเรียนระดับมัธยมศึกษา และ นักเรียนสายอาชีวศึกษา โดยมีครูและอาจารย์เป็นที่ปรึกษาเข้าร่วมในโครงการ โดยมีโจทย์หลักคือ ความต้องการที่จะเปลี่ยนสังคมรอบตัวด้วยแนวคิดนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อแก้ปัญหาหรือส่งเสริมสุขภาพของชุมชน หรือในเชิงประเด็นทางสังคมที่สามารถขยายผลในวงกว้างได้

"เราไม่ได้มุ่งหวังเพียงแค่การประกวดเพื่อให้ได้ชิ้นงานนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ แต่มุ่งหวังที่จะสร้าง เมล็ดพันธุ์นักนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ที่เกิดขึ้นทั้งลูกศิษย์และครู โดยมีผลงานจากนักเรียนระดับมัธยมและอาชีวศึกษา ที่ส่งเข้าประกวดทั้งสิ้น 134 ทีม โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิที่หลากหลายทั้งภาควิชาการและภาคเอกชนร่วมเป็นคณะกรรมการคัดเลือกให้เหลือ 19 ทีมสุดท้าย โดย 19 ทีมสุดท้ายทั้งลูกศิษย์และครูได้เข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อบ่มเพาะทักษะความรู้ ความสามารถด้านการวิจัย ประดิษฐ์ คิดค้น สร้างสรรค์นวัตกรรมให้สามารถใช้ได้จริง เพื่อสร้างนวัตกรรุ่นใหม่ที่ใส่ใจด้านการสร้างเสริมสุขภาพ พร้อมกับสนับสนุนทุนทีมละ 10,000 บาท เพื่อกลับไปพัฒนาผลงานของตนเอง ซึ่ง สสส. ตั้งใจว่าจะจัดให้มีการประกวดอย่างต่อเนื่อง ระหว่างนี้ สสส. ได้วางแผนการทำงานร่วมกับครู อาจารย์ ทั้งสายสามัญและสายอาชีพ เพื่อบ่มเพาะแนวคิดของการเป็นนักนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการต่อยอดผลงานให้สามารถขยายผลในวงกว้าง เพราะเราเชื่อในศักยภาพของคน ความคิดสร้างสรรค์ที่ริเริ่มสิ่งใหม่ โดยใช้นวัตกรรมเป็นตัวขับเคลื่อนจะมีส่วนสำคัญในการสร้างเสริมสุขภาพให้กับทุกคนในสังคมไทย"

สำหรับ "โครงการประกวดนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ" ได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อบ่มเพาะทักษะความสามารถในการประดิษฐ์คิดค้น ต่อยอดนวัตกรรม ผ่านการวิเคราะห์ การใช้วิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ และเทคโนโลยี เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ในการแก้ไขปัญหาสุขภาพในชุมชนและสังคม รวมทั้งเพื่อปลูกฝังความคิดด้านการสร้างเสริมสุขภาพ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้คนในชุมชนและสังคมมีสุขภาพที่ดีได้อย่างยั่งยืน โดยได้เปิดรับสมัครและรับข้อเสนอโครงการมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2560 และมีการประกาศผลการคัดเลือกรอบที่ 1 และรอบที่ 2 จนมาถึงรอบสุดท้ายจำนวน 19 ทีม จากผลงานทั้งหมด 134 ทีม และจะมีการประกาศผลและมอบรางวัลให้กับทีมที่ชนะเลิศทั้งสองระดับคือระดับมัธยมศึกษาและอาชีวศึกษา ในวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ.2561 ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕:๓๕ อัปเดตล่าสุด กฎหมายแรงงานต่างด้าวฉบับใหม่ต้องรู้ 2567
๑๕:๑๐ อมาโด้ (amado) ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดคอลลาเจน คว้า 2 รางวัล จากเวทีธุรกิจ 2024 Thailand's Most Admired Brand (ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4) และรางวัล Brand Maker Award
๑๕:๒๒ ไฟ-ฟ้า โดย ทีทีบี เติมฝันเด็กไฟ-ฟ้า ผ่านโชว์ Cover Dance คว้า 2 รางวัล จุดประกายศักยภาพและสร้างแรงบันดาลใจมุ่งมั่นสู่เป้าหมายที่สำคัญ
๑๕:๑๒ วว. / สสว. นำ วทน. พัฒนาขีดความสามารถการแข่งขัน SMEs จัดอบรมพัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ด้วยบรรจุภัณฑ์ ฟรี
๑๓:๕๐ เถ้าแก่น้อย ครองใจผู้บริโภคคว้า 'แบรนด์ที่ผู้บริโภคชื่นชอบที่สุด' จากผลสำรวจ Thailand's Most Admired Brand
๑๓:๓๘ Bose-Backed สมาร์ทวอทช์แบรนด์ Noise เปิดตัวในไทยบน Shopee และ Lazada
๑๒:๑๗ TIDLOR ปลื้ม! หุ้นกู้ 3 ชุดใหม่ มูลค่า 4,000 ลบ. ขายหมดเกลี้ยง ขอบคุณนักลงทุนที่ร่วมสร้างผลตอบแทน พร้อมกับสร้างการเติบโตให้ธุรกิจไปด้วยกัน
๑๒:๔๗ แอล.พี.เอ็น. เปิดโมเดลซัพพอร์ทคนอยากมีบ้าน เจาะกลุ่มเรียลดีมานด์ที่อยู่อาศัย ไม่เกิน 3 ล้าน ผุดแคมเปญ 'LPN ดูแลให้' และ 'LPN
๑๒:๓๗ สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า 'Redmi Note 13 Series' ให้คุณกดบัตรคอนเสิร์ต '2023-2024 BamBam THE 1ST WORLD TOUR ENCORE [AREA 52] in BANGKOK Presented by Xiaomi' รอบ
๑๒:๐๘ กรมโยธาฯ ใช้มาตรการเด็ดขาด ยกเลิกสัญญาจ้างงานที่ล่าช้าสร้างความเดือดร้อนประชาชน