บัญชีกลางจัดงานสัมมนา CoST สรุปผลโครงการ ปี 61

อังคาร ๑๘ กันยายน ๒๐๑๘ ๐๙:๕๐
กรมบัญชีกลางจัดงานสัมมนาโครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ (CoST) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 โดยคัดเลือก 10 โครงการต้นแบบจากหลากหลายมิติ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด

นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยภายหลังงานสัมมนาโครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐของประเทศไทย (Construction Sector Transparency Initiative : CoST) โดยมีนายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ในวันนี้ (18 ก.ย. 61) ณ ห้อง Platinum Hall โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ฟอร์จูน ว่า การดำเนินโครงการ CoST ในประเทศไทยเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในปี พ.ศ. 2560 โดยมีโครงการก่อสร้างภาครัฐที่เข้าร่วมโครงการ CoST รวม 5 โครงการ ทั้งหมดเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีผลกระทบในวงกว้าง ต่อมาในปี พ.ศ. 2561 มีการคัดเลือกโครงการก่อสร้างภาครัฐเข้าร่วมโครงการ CoST เพิ่มมากขึ้น รวมจำนวน 147 โครงการ มูลค่าการก่อสร้างรวม 113,665 ล้านบาท จากทั้งหน่วยงานระดับกรม รัฐวิสาหกิจ และท้องถิ่น โดยมีการเปิดเผยข้อมูลโครงการตามแนวทางของ CoST แล้วจำนวน 120 โครงการ ส่วนโครงการที่เหลืออยู่ระหว่างการเตรียมการจัดซื้อจัดจ้าง และมีกระทรวงเข้าร่วมทั้งสิ้น 12 กระทรวง โดยกระทรวงคมนาคมมีมูลค่าโครงการสูงสุด 99,627 ล้านบาท ในขณะที่กระทรวงมหาดไทย มีจำนวนโครงการเข้าร่วมสูงสุด จำนวน 104 โครงการ

อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวต่อว่า การวิเคราะห์ภาพรวมของโครงการที่มีการเปิดเผยข้อมูล พบว่า โครงการของหน่วยราชการ และรัฐวิสาหกิจจะมุ่งเน้นงานถนน สะพาน และงานชลประทาน ส่วนท้องถิ่นจะมุ่งเน้นงานอาคารและงานถนน และจำนวนผู้เข้าร่วมประมูลมีความสัมพันธ์กับการแข่งขันด้านราคาในทิศทางเดียวกัน โครงการที่มีมูลค่างานต่ำจะมีจำนวนผู้เข้าแข่งขันมาก ส่งผลให้การแข่งขันด้านราคาสูงเกินกว่าร้อยละ 15 ในขณะที่การเปิดเผยข้อมูล

โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เฉลี่ยที่ร้อยละ 82.81 ในขณะเดียวกันยังได้มีการติดตามและประเมินผลโครงการ โดยสุ่มคัดเลือก 10 โครงการต้นแบบจากหลากหลายมิติ เช่น ประเภทการก่อสร้าง งบประมาณ และพื้นที่ เพื่อตรวจสอบข้อมูลที่เปิดเผยและมีการจัดเวทีภาคประชาชนเพื่อสอบถามความคิดเห็นหรือรับฟังปัญหาผลกระทบจากโครงการก่อสร้างที่สุ่มตรวจ พบว่า การเปิดเผยข้อมูลตามแนวทาง CoST ของหน่วยงานระดับกรมอยู่ที่ร้อยละ 90 หน่วยงานระดับท้องถิ่นอยู่ที่ร้อยละ 80 และมีข้อห่วงใยของประชาชนคือ การบริหารจัดการโครงการภายหลังการก่อสร้าง เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด ทั้งนี้ โดยภาพรวมประชาชนในพื้นที่เชื่อมั่นว่าโครงการที่ดำเนินการทั้ง 10 โครงการ มีความโปร่งใสในการก่อสร้าง และสามารถบริหารจัดการข้อร้องเรียนเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนได้เป็นอย่างดี

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑:๓๘ โอซีซี มอบฝาขวดน้ำ เพื่อทำเก้าอี้ให้น้อง ๆ ในโรงเรียนขาดแคลน
๑๑:๑๘ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จับมือมหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดศูนย์ทดสอบหลักสูตร CISA ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
๑๑:๓๕ 'ราชบุรี มีลาย' อนุรักษ์มรดกแห่งภูมิปัญญาท้องถิ่น ชูอัตลักษณ์ 'ลายผ้าราชาบุรี (กาบโอ่งนกคู่) รองผู้ว่าฯ เมืองโอ่ง
๑๑:๕๓ พีทีที สเตชั่น ร่วมกับ ทิพยประกันภัย มอบความสะดวกและรวดเร็ว ซื้อประกันภัยผ่าน QR Code
๑๑:๐๙ FTI จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 ผถห.อนุมัติจ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น
๑๐:๑๙ รมว.อว. เป็นประธานเปิดบูธนิทรรศการผลงาน @ Thai Pavilion พร้อมให้กำลังใจนักประดิษฐ์ไทย นำเสนอผลงานสิ่งประดิษฐ์นานาชาติเจนีวา ครั้งที่
๑๐:๔๖ BRIDGESTONE TURANZA T005 EV ยางพรีเมียมสมรรถนะสูงสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เหนือระดับด้วยเทคโนโลยี ENLITEN(R)ได้รับเลือกเป็นยางล้อมาตรฐานติดตั้งในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ MG4 XPOWER
๐๙:๑๔ อพท. เปิดรับสมัคร สุดยอดนวัตกรรมเพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืน เพื่อพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ชิงเงินรางวัลกว่า 130,000
๐๙:๔๑ หนังสือ Royal Thai Cuisine ตำรับอาหารไทยชาววัง วิทยาลัยดุสิตธานี
๑๘ เม.ย. เด็ก ม.กรุงเทพ ยกทีม คว้าชนะเลิศครีเอทคลิปสั้นได้ใจฟูมาก