“ชาวสิเกา” พร้อมใจหนุนจัด “งานบุญ” ต้อง “ปลอดเหล้า”

พฤหัส ๑๑ ตุลาคม ๒๐๑๘ ๑๕:๔๓
แม้ภาครัฐจะมีมาตรการทางกฎหมายเกี่ยวกับการจำหน่ายจ่ายแจกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเข้มข้น แต่ตัวเลขและจำนวนของการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของคนไทยยังอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก และพบว่าการดื่มสุราส่งผลเสียต่อสุขภาพ เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุ การทะเลาะวิวาท และอาจนำไปสู่ปัญหาอาชญากรรม สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล

"การขอร้อง-ป้องปราม" จึงเป็นมาตรการหนึ่งที่ประชาชนใน ชุมชนหลังตลาด ในเขตเทศบาลตำบลสิเกา อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง เห็นว่าน่าจะช่วยลดปัญหาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ จึงร่วมกันดำเนินโครงการ "การลด ละ เลิก การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงานบุญ งานประเพณี" เพื่อสร้างความตระหนักและเสริมสร้างสุขภาวะให้เกิดขึ้นในพ้นที่ของชุมชน โดยมี สำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้การสนับสนุน

สุเมธ รอดรัตน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสิเกา ยอมรับว่าในพื้นที่เทศบาลสิเกางาน เมื่อมีงานประเพณีต่างๆ ก็มักจะมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บริการอยู่เสมอ เช่น งานสงกรานต์ งานขึ้นปีใหม่ งานลอยกระทง งานศพ งานแต่งงาน งานบวช ฯลฯ ในแต่ละงานนั้นจะมีค่าใช้จ่ายค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประมาณ 30,000 บาทต่องาน ซึ่งเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายเจ้าภาพของงาน และการดื่มสุรามักเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ จึงต้องหาทางช่วยกันสร้างความตระหนักในเรื่องนี้

"ผลพวงหลักจริงๆ มาจากมาจากอุบัติเหตุ ถ้าเรามารณรงค์ว่าเรื่องแบบนี้มันไม่ใช่ประเพณีรากเหง้าของคนไทยที่มีมาแต่โบราณเลย แต่ถ้าให้เลิกทีเดียวคงเป็นเรื่องยาก ถ้าลดได้บ้างก็ช่วยได้ระดับหนึ่ง เราไม่ได้คาดหวังว่าต้องหยุดทั้งหมด แต่เราพยายามทำให้คนในเทศบาลมีความตระหนัก เพราะเวลาเกิดอุบัติเหตุไม่ได้เกิดเฉพาะคนขับที่ดื่มเหล้า คนดีๆ ก็จะประสบเหตุไปด้วยทั้งที่เขาก็ระมัดระวังการขับขี่ คนที่ดื่มเหล้าการควบคุมสติค่อนข้างยาก บางทีก็ทำให้ทะเลาะวิวาทกัน อย่างเด็กๆ เราพยายามไม่ให้เข้าไปล่วงล้ำในอบายมุขเหล่านี้ด้วยถ้าทำได้ก็จะเกิดผลดีต่อชุมชนหรือส่วนรวม" นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสิเกา กล่าว

ในฐานะที่ดูแลงานด้านสาธารณสุขของประชาชน พ.จ.อ.ไชยา สุทธิโภชน์ ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขเทศบาลตำบลสิเกา กล่าวว่าทุกเวทีมีการพบปะชาวบ้าน ทางเทศบาลจะใช้โอกาสประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับรู้ ชี้ให้เห็นผลเสียของการดื่มเหล้า และขอความร่วมมือจากเจ้าภาพงานเลี้ยงต่างๆไม่ให้นำเหล้ามาวางบนโต๊ะ ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็ขอให้จำกัดวงให้มีน้อยที่สุด เพราะถ้าหากนำเหล้าวางบนโต๊ะก็จะมีคนแสดงความเป็นเจ้าของ แม้ไม่ได้ดื่มในงานแต่ก็จะนำกลับบ้านไปด้วย

"เราจะเข้าไปกระซิบเจ้าภาพก่อนงาน อาจจะส่งอาสาสมัครในเครือข่ายของเราที่สนิทกับเจ้าภาพ เข้าไปทำความเข้าใจชี้ให้เห็นผลดีของการไม่มีเหล้าในงาน เอาป้ายไปติดเพื่อให้แขกที่มางานเข้าใจ ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ เช่นงานศพ ที่จัดในบ้านจะมีคนเฝ้าศพก็จะจำกัดให้อยู่ส่วนน้อย อย่างงานแต่งงานถ้ามีเหล้าโอกาสขาดทุนมีสูง ถ้าหลีกเลี่ยงการเลี้ยงเหล้าได้ก็จะไม่ขาดทุน ช่วงแรกมีเหมือนกันที่ไม่เข้าใจอาจมองว่าไม่มีเหล้ากินเจ้าภาพขี้เหนียวหรือเปล่า แต่ก็ต้องอธิบายให้เข้าใจ เป็นการขอร้องกันใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวพูดคุยทำให้ไม่มีความขัดแย้ง"ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขเทศบาลตำบลสิเกา กล่าว

ทางด้าน ปรีชา มากนคร ผู้ประกอบการร้านค้าในชุมชน เปิดเผยว่าโดยส่วนตัวเป็นผู้ที่เคยสูบบุหรี่จัดและดื่มเหล้าหนักมาก แต่ปัจจุบันสูงอายุขึ้นหากดื่มเหล้าจะทำให้ร่างกายอ่อนเพลียส่งผลเสียต่อการทำงานในวันรุ่งขึ้น จึงลดการดื่มลงและจึงตัดสินใจเลิกบุหรี่อย่างเด็ดขาด เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับลูกที่กำลังก้าวสู่วัยรุ่น และในฐานะที่มีประสบการณ์เป็นเจ้าภาพพบว่า งานศพ 7 วัน มีค่าใช้จ่ายจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูงถึง 100,000 บาท มากกว่าค่าอาหารในงานทั้งหมด ถ้าไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะลดรายจ่ายลงได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 และหากไม่มีเหล้าเลยรายจ่ายส่วนนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น

"สมัยก่อนงานศพมีทั้งเหล้า มีทั้งเล่นการพนัน บางทีมีการละเล่นในงานมีการทะเลาะเบาะแว้งกันด้วย แต่เดี๋ยวนี้เจ้าภาพก็จะดูแลไม่ให้เกิดขึ้น ตอนนี้เท่าที่ไปร่วมงานศพมาหลายงานที่เคยมีเหล้าลดลงถึงร้อยละ 80 อย่างงานแต่งงานซึ่งจะมีการกินเหล้ากันเยอะมาก ถ้าเชิญแขก 100 โต๊ะก็ต้องมีเหล้า 100 ชุด ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่สูง แต่ตอนนี้จะไม่มีการตั้งเหล้าบนโต๊ะ วงไหนกินจะต้องมากระซิบเจ้าภาพ พอไม่มีเหล้าบุหรี่ก็จะลดลงไปด้วยเพราะคนดื่มเหล้าก็มักสูบบุหรี่ไปด้วย" เจ้าของร้านค้าซึ่งเป็นผู้นำชุมชนด้วยเล่าประสบการณ์ได้อย่างเห็นภาพ

ขณะที่ ปิยวรรณ คนเที่ยง เจ้าภาพงานศพยอมรับว่าการไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงานช่วยลดรายจ่ายให้กับเจ้าภาพได้ และคนที่มาช่วยงานมีเวลาทำงานเต็มที่ไม่เสียเวลาไปดื่มเหล้า ซึ่งอาจมีเหตุทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งหากมีการมึนเมาขาดสติ

"อย่างในงานนี้ เราจะบอกไว้เลยว่าผู้ตายขอไว้ว่าไม่ให้มีเหล้าในงาน บอกผู้มาร่วมงานว่าเป็นการทำบุญทำกุศลร่วมกันอุทิศให้กับผู้จากไป เพราะเหล้าทำให้สิ้นเปลืองและทำลายสุขภาพด้วย" ปิยวรรณ กล่าว

ปัจจุบันการดำเนินงานลด ละ เลิกสิ่งเสพติดในเขตเทศบาลสิเกายังดำเนินงานไปอย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการชุมชนหลังตลาด โรงพยาบาลสิเกา เทศบาลตำบลสิเกา และเครือข่ายองค์กรงดเหล้าอำเภอสิเกา ต่างก็เห็นความสำคัญและมองเห็นปัญหาที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ และจับมือช่วยกันสร้างความรับรู้ให้เกิดขึ้นในชุมชน ให้ตระหนักถึงผลเสียของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างอย่างต่อเนื่อง แม้วันนี้อาจจะไม่เห็นผลในทันที แต่ก็เชื่อว่าในระยะยาวจะช่วยให้คนชุมชนแห่งนี้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปในทางที่ดีขึ้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐:๕๙ ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ให้การต้อนรับอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ศรีปทุม
๒๐:๓๑ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่เพื่อติดตามความก้าวหน้าตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
๒๐:๕๒ Vertiv เปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์ไมโครโมดูลาร์รุ่นใหม่ที่มี AI ในเอเชีย
๒๐:๐๙ พิธีขึ้นเสาเอก เปิดไซต์ก่อสร้าง โครงการ แนชเชอแรล ภูเก็ต ไพรเวท พูลวิลล่า บ้านเดี่ยวบนทำเลทองใจกลางย่านเชิงทะเล
๒๐:๔๖ เขตบางพลัดประสาน รฟท.-กทพ. ปรับภูมิทัศน์ เพิ่มพื้นที่สีเขียวหน้าสถานีรถไฟบางบำหรุ
๒๐:๕๘ ร่วมแสดงความยินดีแก่อธิบดีกรมยุโรป ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์
๒๐:๐๓ กทม. เดินหน้าจัดกิจกรรมริมคลองโอ่งอ่าง ส่งเสริมอัตลักษณ์ กระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว
๒๐:๔๙ พาราไดซ์ พาร์ค ร่วมกับ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พาคุณไปสัมผัสการนวดเพื่อสุขภาพจาก 4 ภูมิภาคของไทย
๒๐:๒๔ Digital CEO รุ่นที่ 7 เรียนรู้เข้มข้นต่อเนื่อง จากวิทยากรชั้นนำของวงการ
๒๐:๒๔ เด็กไทย คว้ารางวัลระดับโลก โดรนไทย ชนะเลิศนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ทางด้านอากาศยานไร้คนขับ UAV ณ กรุงเจนีวา