สาเหตุ
1. ความชื้นของอากาศและน้ำฝน เป็นต้นเหตุทำให้เกิดเชื้อรา แบคทีเรีย ซึ่งมักเจริญเติบโตอยู่ในที่สกปรก เมื่อเกิดขึ้นที่หนังศีรษะจะส่งผลให้เกิดอาการคัน รังแค
2. สิ่งเจือปนที่มากับอากาศและน้ำฝน ได้พัดพาเอามลพิษ น้ำ และฝุ่นละออง ที่ไม่สะอาด เมื่อสัมผัสกับหนังศีรษะและเส้นผมแล้ว ทำให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรก และอุดตันที่รูขุมขน ทำให้หนังศีรษะเกิดการอักเสบ
3. น้ำฝนมีค่า pH เป็นกรด เนื่องจากการรวมตัวกับแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ และไนโตรเจน ที่มีอยู่ในบรรยากาศ เมื่อสัมผัสกับหนังศีรษะและเส้นผมแล้ว จะทำให้สูญเสียความสมดุล และระคายเคืองได้ง่าย
เคล็ดลับการดูแล
1. สระผมให้เร็วที่สุด เมื่อเปียกฝนควรรีบทำความสะอาดหนังศีรษะและเส้นผมให้เร็วที่สุด เพื่อล้างทำความสะอาดสิ่งสกปรก โดยการใช้น้ำอุณหภูมิปกติในการสระ เพื่อป้องกันหนังศีรษะขาดสมดุล
2. เลือกใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน เพราะการสระผมบ่อยๆในช่วงฤดูฝนยิ่งจะทำให้ผมแห้งเสีย ควรเลือกสูตรที่สกัดจากธรรมชาติ ปราศจากน้ำหอม พาราเบน เพื่อลดการระคายเคือง นอกจากนี้ควรเลือกใช้แชมพูสูตรที่ยับยั้งเชื้อราและแบคทีเรีย เพื่อช่วยลดการคันหนังศีรษะ และรังแค
3. เช็ดผมให้แห้งเสมอ หลังจากสระผมเสร็จไม่ควรปล่อยให้ผมเปียกชื้น ควรรีบเช็ดผมให้แห้งสนิท โดยการเลือกใช้ผ้าขนหนูที่ผลิตจากเยื่อไผ่ หรือผ้านาโน เพราะมีประสิทธิภาพในการช่วยซับน้ำ และลดความชื้น ได้มากกว่าผ้าขนหนูทั่วไป อีกทั้งยังไม่ทำลายเกล็ดผมให้เปิด ช่วยลดการเสียดสีจากการออกแรงในการเช็ด และลดปัญหาผมขาดร่วง
4. หลีกเลี่ยงการเป่าลมร้อน และหวีผมในขณะที่เปียก การใช้อุณหภูมิที่ร้อนในการเป่าผม ยิ่งทำให้เซลล์รากผมและหนังศีรษะอ่อนแอและแห้งกว่าปกติ อีกทั้งไม่ควรหวีผมในขณะที่ยังเปียก เนื่องจากรูขุมขนหนังศีรษะกำลังเปิดกว้าง รากผมกำลังอ่อนตัว เมื่อถูกสัมผัสจากการหวีจะยิ่งกระตุ้นทำให้ผมร่วงมากขึ้น
5. บำรุงเป็นประจำ เมื่อเจอมลภาวะที่เป็นพิษ และความอับชื้นที่มากับน้ำฝน ยิ่งทำให้หนังศีรษะและเส้นผมอ่อนแอลง ส่งผลทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมา เช่น อาการคัน รังแค ตุ่มอักเสบที่มาจากความชื้น และผมร่วง ดังนั้น ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงหนังศีรษะที่สกัดมาจากธรรมชาติ เพื่อเติมสารอาหารให้หนังศีรษะและเส้นผม เสริมเกราะป้องกันจากมลภาวะ สิ่งสกปรก ลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอาการคัน รังแค อีกทั้งยังช่วยทำให้เส้นผมแข็งแรงสุขภาพดี