บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มุ่งมั่นที่จะยกระดับวงการมอเตอร์สปอร์ตของประเทศ เริ่มตั้งแต่ระดับเยาวชนต่อเนื่องไปถึงการสนับสนุนนักแข่งในระดับอาชีพ เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้นักแข่งไทยได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ โดยล่าสุดส่ง 2 นักแข่งดาวรุ่งฝีมือดีจากรายการ "โตโยต้า มอเตอร์สปอร์ต 2018" ในรุ่นโคโรลล่า อัลติส วันเมคเรซ อย่าง เอิร์ธ-ชนินชา ปัญญารุ่งเจริญ และ โมโม่-พุทธมนต์ ธนะพาสุข ลงสนามแข่งขันในนาม Toyota Gazoo Racing Thailand เพิ่มพูนประสบการณ์การแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตยิ่งใหญ่ระดับเอเชีย Toyota Gazoo Racing Festival 2018 ในรุ่น Netz Cup Vitz Race ณ สนามฟูจิ สปีดเวย์ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 24-25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
การแข่งขันเต็มไปด้วยความสนุกและตื่นเต้น โดยอุณหภูมิที่สนามฟูจิสปีดเวย์ ประเทศญี่ปุ่น หนาวเย็นในระดับ 1 องศา แต่ตรงข้ามกลับความร้อนแรงของการแข่งขัน โดย 2 หนุ่มไทย ต้องลงสนามควอลิฟายด์ร่วมกับนักแข่งแถวหน้า ซึ่งแต่ละคนล้วนมีดีกรีเป็นตัวแทนที่คัดสรรมาแล้วจากแต่ละภูมิภาคทั่วประเทศญี่ปุ่นถึง 90 คน ด้วยรถยนต์ TOYOTA Vitz เครื่องยนต์เบนซิน 1,500 ซีซี โดย เอิร์ธ-ชนินชา ปัญญารุ่งเจริญ ลงสนามด้วยรถหมายเลข 122 และ โมโม่-พุทธมนต์ ธนะพาสุข ลงสนามด้วยรถหมายเลข 222 ซึ่งในรอบควอลิฟายด์เป็นแบบน็อคเอาท์ โดยไทยสามารถผ่านเข้ารอบได้ 1 คัน คือ เอิร์ธ-ชนินชา และออกจากกริดสตาร์ทในลำดับที่ 47 และเมื่อเข้าสู่รอบการแข่งขันจริงครบ 8 รอบ ระยะทางรวม 36 กิโลเมตร ท่ามกลางรถแข่งที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายทั้งหมด 53 คัน ผลปรากฏว่า เอิร์ธ- ชนินชา ปัญญารุ่งเจริญ จบการแข่งขันเข้าเส้นชัยในลำดับที่ 41
ชนินชา ปัญญารุ่งเจริญ กล่าวถึงความรู้สึกหลังจบการแข่งขันว่า "เป็นการแข่งขันที่สนุกและยอดเยี่ยมมากครับ ครั้งนี้ผมได้มีโอกาสลงสนามระดับโลกจริงๆ สนามมีความยากมากในการขับ ต้องใช้เทคนิคเยอะมาก สนามเป็นแบบโค้งและขึ้นลงเขา ผมได้เรียนรู้เทคนิคใหม่ๆ เช่น การใช้แอร์โลว์ไดนามิคในการแซง จุดเบรก จุดเร่ง ทุกอย่างสำคัญหมด ถ้าผิดพลาดไปนิดเดียวก็ต้องเสียเวลาแก้ไขไปอีกหลายโค้ง และที่ประทับใจคือทุกคนมีมารยาทและเคารพกฎ กติกา อย่างเคร่งครัดในสนาม นับเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับผมที่ได้มาเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจในกีฬามอเตอร์สปอร์ต ผมแนะนำว่าปีหน้าเปิดใจและมาลงสนามเริ่มจากวันเมคเรซของโตโยต้า ขยันฝึกซ้อมและมาลงแข่งเพื่อเก็บประสบการณ์ต่อยอดก็จะมีโอกาสเช่นเดียวกับผมครับ"
ด้านพุทธมนต์ ธนะพาสุข กล่าวเพิ่มเติมว่า "ผมได้ประสบการณ์ใหม่เยอะมากจากการมาลงสนามในครั้งนี้ แม้จะไม่เป็นไปตามเป้าที่เราวางไว้ แต่ประสบการณ์ในวันนี้จะเป็นแรงผลักดันให้ผมฝึกฝนเยอะขึ้นและพยายามมากขึ้นไปอีก นอกจากนั้นเทคนิคต่างๆ ที่ได้รับการสอนและแนะนำในครั้งนี้จะนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์สำหรับการแข่งขันในปีหน้าแน่นอนครับ นอกจากนั้นผมทั้งคู่ต้องขอขอบคุณ บริษัท โตโยต้าฯ ผู้บริหารและทีมงานทุกท่านที่ดูแลอย่างใกล้ชิด และให้คำแนะนำที่ดีมากๆ รวมถึงผู้สนับสนุนทุกท่านที่ให้โอกาสทำให้ได้มาร่วมแข่งขันในรายการนี้ครับ"
สำหรับ "Toyota Gazoo Racing Festival" เป็นรายการมอเตอร์สปอร์ตที่ยิ่งใหญ่ระดับเอเชียและเป็นงานประจำปีที่ชาวญี่ปุ่นรอคอย เพราะมีทั้งการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตในรุ่น Netz Cup Vitz Race เพื่อหาแชมป์ประจำปี และยังเป็นงานที่รวมการจัดแสดงเทคโนโลยีและสมรรถนะของยานยนต์รุ่นต่างๆ ที่ใช้ในการแข่งขันจริงในนามโตโยต้า กาซู เรซซิ่ง โดยในปีนี้ประเทศไทยมีส่วนร่วมในกิจกรรมนอกเหนือจากการส่ง 2 นักแข่งตัวแทนประเทศไปลงสนาม นั่นคือ Drift Extreme ที่ประเทศไทยส่งรถ Hilux Revo ฝีมือดัดแปลงจากคนไทย ไปร่วมโชว์โดย มาซาโตะ คาวาบาตะ ดริฟท์คิงส์ดีกรีแชมป์ดีวัน กรังซ์ปรีซ์ จากญี่ปุ่นและ ปอนด์ อินเจคชั่น ชาวต่างชาติคนแรกที่คว้ารางวัลรองแชมป์จากรายการ ดีวัน กรังปรีซ์ เจแปน ซึ่งทั้งคู่เคยร่วมสร้างความตื่นตามาแล้วกับลีลาการดริฟท์ในงานโตโยต้ามอเตอร์สปอร์ตของไทย ร่วมกับรถ Hilux Revo ฝีมือช่างชาวญี่ปุ่น และยังส่ง 2 นักแข่ง ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ และ ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ จาก "อาร์โต้ แพนเธอร์ ทีมไทยแลนด์" โชว์ใน SUPER GT Demonstration ซึ่งเป็นการรวมรถ SUPER GT ถึง 11 คัน มาโชว์ภายในงาน และกิจกรรม Pit Walk
แฟนมอเตอร์สปอร์ตสามารถชมภาพบรรยากาศความตื่นเต้นและยิ่งใหญ่ของรายการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตชั้นนำของเอเชีย "Toyota Gazoo Racing Festival 2018" ในรุ่น Netz Cup Vitz Race ของทั้ง 2 นักแข่งได้ พร้อมติดตามความเคลื่อนไหวและอัพเดทการแข่งขัน "โตโยต้า มอเตอร์สปอร์ต 2019" ฤดูกาลหน้าเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/ToyotaMotorsportThai
"TOYOTA GAZOO RACING FESTIVAL" เป็นรายการมอเตอร์สปอร์ตที่ยิ่งใหญ่และได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่น โดยจัดเป็นเทศกาลใหญ่ที่นอกจากจะมีการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตที่วัดกันด้วยฝีมือของนักแข่งแล้ว ยังมีการโชว์เทคโนโลยีและสมรรถนะของรถยนต์ และบูธกิจกรรมต่างๆ ถือเป็นโอกาสดีสำหรับนักแข่งรถของไทยที่จะได้เปิดประสบการณ์ทั้งในสนามแข่งและในด้านเทคโนโลยีของยานยนต์เพื่อนำมาพัฒนาฝีมือและทักษะต่อไป โดยจะคัดเลือกตัวแทนนักแข่งจากทั่วประเทศญี่ปุ่นจำนวนทั้งสิ้น 90 คน จากแต่ละภูมิภาคของประเทศญี่ปุ่น ภาคละ 10-15 คน เพื่อเข้าร่วมแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ และเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักแข่งตัวแทนประเทศไทย ที่ได้เข้าร่วมเป็นประสบการณ์จริง เพราะไม่มีรายการมอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทยรายการใดให้โอกาสนอกจากรายการโตโยต้า มอเตอร์สปอร์ต เท่านั้น สำหรับปีนี้ทำการแข่งขัน ณ สนามฟูจิ สปีดเวย์ สนามแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตมาตรฐาน FIA ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา ภูเขาไฟฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น และเป็นสนามที่ใช้จัดการแข่งขัน F1 ครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงการแข่งขันระดับโลกอีกหลายรายการ