รัฐมนตรีเกษตรฯ ร่วมหารือ 6 บริษัทเอกชนผู้ผลิตยางล้อรถยนต์รายใหญ่ของไทย เน้นเพิ่มปริมาณรับซื้อและขยายกำลังการผลิต เล็งปลดล็อกกระบวนการรับซื้อยางพาราเบ็ดเสร็จภายในประเทศ

พฤหัส ๐๖ ธันวาคม ๒๐๑๘ ๑๖:๑๕
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาราคายางพาราร่วมกับ 6 บริษัทเอกชนผู้ประกอบการผลิตยางล้อรถยนต์รายใหญ่สำหรับส่งออกไปต่างประเทศ ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า การหารือในวันนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และการยางแห่งประเทศไทย ได้เชิญบริษัทเอกชนผู้ประกอบการผลิตยางล้อรถยนต์รายใหญ่ในประเทศไทย 6 บริษัท ร่วมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาราคายางพาราใน 2 ประเด็น คือ

1. ขอความร่วมมือผู้ประกอบการฯ ในการเพิ่มปริมาณการรับซื้อวัตถุดิบยางพารา เพื่อนำไปผลิตยางล้อรถยนต์ให้มากขึ้น โดยซื้อขายตรงผ่านสถาบันเกษตรกร

และ 2. ขอรับฟังข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ตลอดจนข้อจำกัดของผู้ประกอบการ และสิ่งที่ต้องการการสนับสนุนจากภาครัฐ หากรัฐต้องการให้ขยายกำลังและฐานการผลิตภายในประเทศ

ข้อเท็จจริงในการซื้อขายยางพาราของผู้ประกอบการดังกล่าว ปัจจุบันเป็นการซื้อขายล่วงหน้าในตลาดยางพาราต่างประเทศ คือ โตเกียว และสิงคโปร์ โดยให้เหตุผลว่าบริษัทคู่สัญญามีความสามารถส่งยางพาราที่มีคุณภาพและตรงตามเวลาที่กำหนดได้ แม้ว่ายางพาราที่ซื้อขายในตลาดล่วงหน้าจะเป็นยางพาราที่ส่งออกจากประเทศไทยก็ตาม ซึ่งผู้ประกอบการให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในอดีตเคยดำเนินการซื้อขายกับสถานบันเกษตรกรโดยตรงแล้ว แต่ประสบปัญหาเรื่องวัตถุดิบยางพาราไม่ได้คุณภาพ และไม่สามารถส่งได้ทันตามกำหนด ทำให้เกิดความเสียหาย จึงหันไปซื้อขายยางพาราในตลาดต่างประเทศแทน

ทั้งนี้ ทางกระทรวงเกษตรฯ ได้เสนอแนวทางให้ผู้ประกอบการรับซื้อยางจากสถาบันเกษตรกรโดยตรง เพื่อเป็นการลดขั้นตอน ลดระยะเวลาในการดำเนินการให้เบ็ดเสร็จภายในประเทศไทย นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแนวทางสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ ขยายกำลังการผลิตยางในประเทศไทย ซึ่งผู้ประกอบการได้ขอให้ภาครัฐช่วยลดขั้นตอนและกระบวนการขึ้นทะเบียนต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ ได้สั่งการด่วนให้การยางแห่งประเทศไทยไปศึกษาแนวทางปฏิบัติและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อคลี่คลายข้อจำกัดของระบบการซื้อ-ขายยางพาราต่าง ๆ ให้หมดไป รวมทั้งขอให้การยางแห่งประเทศไทยสนับสนุนสถาบันเกษตรที่มีความเข็มแข็ง ให้สามารถดำเนินการซื้อ-ขายยางพาราที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานตรงตามความต้องการของผู้ประกอบการต่อไป

สำหรับมาตรการนำยางพารามาเป็นส่วนผสมในการทำถนนพาราซอยด์ซีเมนต์ นั้น ได้เตรียมหารือร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กรมทางหลวง และกรมบัญชีกลางในการจัดทำคู่มือและสูตรของส่วนผสมกลาง สำหรับเป็นมาตรฐานและแนวทางในการปฏิบัติงาน โดยเตรียมส่งมอบให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีหน้าที่ในการทำถนนโดยตรง นำไปบริหารจัดการต่อได้ ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มนำร่องสร้างถนนในหลายจังหวัดแล้ว อาทิ จังหวัดสงขลา ตรัง บึงกาฬ และหนองบัวลำพู เป็นต้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๑๓ นักวิชาการ TEI แนะมุมมองการสร้าง Urban Climate Resilience ต้องเร่งปรับตัวและเตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
๐๙:๓๙ TEI เปิดวงเสวนา บทเรียนและทางออกการจัดการกากแคดเมียม ? พร้อมเร่งแก้ปัญหา โจทย์ใหญ่กากแคดเมียม จัดการอย่างไรให้ปลอดภัยและถูกต้อง
๐๙:๒๔ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต ร่วมกับกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้กับสตรีที่ด้อยโอกาสในโครงการส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรี ณ
๐๙:๑๑ เขตปทุมวันกำชับเจ้าของพื้นที่ตั้งวางสิ่งของ-อุปกรณ์การค้าริมกำแพงส่วนบุคคลให้เรียบร้อย
๐๙:๓๔ ม.หอการค้าไทย ปฐมนิเทศสำหรับผู้เข้าอบรมหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านนวัตกรรมการบริการ รุ่นที่ 5 (Top Executive Program for Creative Amazing Thai Services :
๐๙:๐๒ เฮงลิสซิ่ง รับรางวัล หน่วยงานส่งเสริมสุขภาพการเงินพนักงาน ระดับดีเด่น โดย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
๐๙:๔๕ มูลนิธิเฮอริเทจ (ประเทศไทย) ส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดสมุทรสาคร
๐๙:๔๔ พาราไดซ์ พาร์ค ต้อนรับ The Little Gym เปิดสาขาที่ 3
๐๙:๒๕ STI จัดอบรมหลักสูตร ChatGPT ผู้ช่วยงานอัจฉริยะในยุคดิจิทัล เพื่อยกระดับพนักงานสู่ยุค AI
๐๘:๕๑ จีนเปิดตัว เห็ดหลินจืออำเภอกวน ณ งานวันเห็ดโลก ประจำปี 2567