นายราชิด สุดพุ่ม กล่าวว่า ปัจจุบันปัจจัยสำคัญในการเพิ่มศักยภาพในการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันเพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนของทุกองค์การ คือการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ประเทศที่มีการพัฒนาด้านเทคโนโลยี ผู้สร้างนวัตกรรมหรือผู้นำทางการค้าจะมีการจัดวางรูปแบบและระบบการพัฒนาองค์กรทั้งระยะสั้นและระยะยาวโดยมีเป้าหมายสำคัญคือการพัฒนาสมรรถภาพของคนไปสู่ระดับมาตรฐานที่สูงขึ้นในสายอาชีพนั้นๆโดยมีตำแหน่งและเงินเดือนรองรับ สำหรับการพัฒนากำลังคนของประเทศไทย ภาครัฐโดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มีการส่งเสริมให้สถานประกอบกิจการได้ดำเนินการพัฒนากำลังคนของตนเองภายใต้พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ.2545 และการจัดตั้งกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานเพื่อเป็นกองทุนหมุนเวียนสำหรับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาลูกจ้างในสถานประกอบกิจการให้เกิดการเรียนรู้ในสถานที่ทำงาน เพื่อเพิ่มผลิตภาพแรงงาน นำไปสู่การเพิ่มผลผลิตและบริการที่ดีขึ้น
นางสาวสมจิตร ทองสุวรรณ ผู้อำนวยการกลุ่มงานประเมินรับรองความรู้ความสามารถ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 12 สงขลา เปิดเผยว่า จากพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงานพุทธศักราช 2545 มีเจตนารมณ์ในการส่งเสริมสนับสนุนให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาฝีมือแรงงานให้มากยิ่งขึ้น โดยมีมาตรการจูงใจในด้านการยกเว้นภาษี สำหรับค่าใช้จ่ายในฝึกอบรมและสิทธิประโยชน์ในด้านต่างๆโดยกำหนดให้ผู้ประกอบกิจการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป มีหน้าที่ต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน เว้นแต่จะได้ดำเนินการฝึกอบรมฝีมือแรงงานให้แก่ลูกจ้างในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนลูกจ้างทั้งหมด สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 12 สงขลา จัดสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การฝึกอบรมฝีมือแรงงานและเงินสมทบกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อชี้แจง ทำความเข้าใจ ให้ผู้ประกอบกิจการที่อยู่ข่ายบังคับกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานได้ทราบถึงสาระสำคัญ ขั้นตอน วิธีปฏิบัติที่ถูกต้องในการดำเนินการภายใต้ พ.ร.บ.ส่งเสริมฯ พ.ศ.2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่2) พ.ศ.2557 การรับรองความรู้ความสามารถ การขอรับเงินอุดหนุนและการกู้ยืมเงินจากกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน มีผู้เข้าร่วมสัมมนา จำนวน 192 คน จากสถานประกอบกิจการ 163 แห่ง