มกอช. ร่วมประชุม HLCD ครั้งที่ 2 ระหว่างไทย-ญี่ปุ่น

อังคาร ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๙ ๑๖:๔๔
มกอช. ร่วมประชุม HLCD ครั้งที่ 2 ระหว่างไทย-ญี่ปุ่น หารือขยายกรอบมาตรการด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช รองรับส่งออกสินค้าเกษตร เจรจาขอเพิ่มโควตา-ลดภาษีสินค้าหมูไทย พร้อมจับมือร่วมป้องกันทำประมง IUU

นางสาวจูอะดี พงศ์มณีรัตน์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) พร้อมเจ้าหน้าที่ มกอช. เข้าร่วมการประชุมระดับสูงด้านอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 2 (The 2nd Meeting of The Japan-Thailand High–Level Cooperation Dialogue on Agricultural and Food Industries : HLCD) ซึ่งมีนางสาวดุจเดือน ศศะนาวิน รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานร่วมฝ่ายไทย และนายฮิโระมิจิ มัตสึชิมะ ปลัดกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงญี่ปุ่น เป็นประธานร่วมฝ่ายญี่ปุ่น พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐของทั้งสองฝ่าย เข้าร่วมการประชุมหารือ ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

นางสาวดุจเดือน ศศะนาวิน รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การประชุม HLCD เป็นการประชุมเพื่อเร่งรัดและผลักดันการดำเนินความร่วมมือ ให้มีผลเป็นรูปธรรมภายใต้กรอบบันทึกแสดงเจตจำนง (Memorandum of Intent-MOI) ว่าด้วยการส่งเสริมความร่วมมือในสาขาเกษตรกรรม และสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศได้ลงนามร่วมกัน เมื่อวันที่ 1 พ.ค.59 โดยมีผู้บริหารระดับปลัดกระทรวงขึ้นไป ของทั้งสองฝ่ายเป็นประธาน และจัดทุก 1-2 ปี โดยสลับเป็นเจ้าภาพ ทั้งนี้ การประชุม HLCD ครั้งที่ 1 จัดไปแล้วเมื่อวันที่ 13 ต.ค.59 ณ กรุงเทพฯ ส่วนครั้งที่ 2 มีกำหนดจัด ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 8 ก.พ.62 ที่ผ่านมา

รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ ไทยได้นำเสนอให้ฝ่ายญี่ปุ่นพิจารณาขยายขอบเขตและเพิ่มแนวทางความร่วมมือด้านความปลอดภัยอาหารภายใต้กรอบความตกลง JTEPA ให้ครอบคลุมถึงมาตรการด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช เพื่อให้ความร่วมมือระหว่างกันเพิ่มขึ้น มีขอบเขตกว้างมากขึ้น เป็นประโยชน์ต่อการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารระหว่างไทยและญี่ปุ่น โดยเฉพาะการเปิดตลาดสินค้าใหม่ระหว่างกัน ซึ่งได้เน้นย้ำถึงความประสงค์ขอเพิ่มโควตา และขอลดภาษีในสินค้าหมูและผลิตภัณฑ์จากไทย โดยอ้างอิงปริมาณการส่งออกที่มีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากไทยมีศักยภาพและกำลังการผลิตสูง และญี่ปุ่นเป็นผู้นำเข้าที่สำคัญ ซึ่งญี่ปุ่นรับจะนำไปหารือรายละเอียดต่อในเวทีการค้าสินค้าระหว่างกันต่อไป

ด้าน นางสาวจูอะดี พงศ์มณีรัตน์ เลขาธิการ มกอช. กล่าวเพิ่มเติม มกอช. ได้มีการหารือและแลกเปลี่ยนแนวคิดด้านธุรกิจอาหาร กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกนำเข้า การขึ้นทะเบียนสินค้า รวมทั้งความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารในลักษณะความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public Private Partnership) นอกจากนี้ ยังได้นำเสนอโอกาสการลงทุนในภาคเกษตรของไทย รวมทั้งการปรับปรุงการบริหารจัดการประมงเพื่อต่อต้านการทำประมง IUU ของไทย (Fisheries Reform) ที่ทำให้ไทยได้ปลดใบเหลืองออกจากสหภาพยุโรป (EU) ทำให้ญี่ปุ่นเห็นถึงความพยายามและศักยภาพในการภาคการประมงไทย นำไปสู่ความร่วมมือในการป้องกันทำประมง IUU

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๘:๒๑ งานวิจัย Kaspersky เผย ผลร้ายจากภัยคุกคามเป็นตัวกระตุ้นรูปแบบพฤติกรรมทางไซเบอร์ของนักการศึกษามากที่สุด
๐๘:๓๓ ซินเน็คฯ จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 ผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมกางแผนสร้างการเติบโต สู่เป้ารายได้ 40,000
๐๘:๓๘ BRR ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น แบบ Hybrid ประจำปี 2567 ผถห. เคาะจ่ายปันผล 0.20 บาท/หุ้น - ชูสตอรี่ ESG สู่ความยั่งยืน
๐๘:๑๖ DEMI HAIR CARE SCIENCE เปิดตัวผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูผมเสียอย่างล้ำลึก ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด
๐๘:๓๔ ซีอีโอ BBGI ร่วมงาน OECD Global Forum on Technology ขึ้นเวทีเสวนาระดับโลกในหัวข้อ Sustainable Production ที่กรุงปารีส
๐๘:๒๓ ฟันโอ-ทิวลี่ คว้ารางวัล 2023 Top Influential Brands Award สุดยอดแบรนด์ที่ทรงอิทธิพลต่อผู้บริโภคมากที่สุด
๐๘:๔๗ เฮอริเทจ จัดโปรแรง เอาใจคนรักผลไม้ ลดสูงสุดกว่า 15%
๐๘:๕๘ ต้อนรับฤดูร้อนสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนกับ GAMBERO ROSSO DI MAZARA กุ้งแดงมาซาร่า-ราชินีแห่งท้องทะเลซิซิลี ที่ห้องอาหารอิตาเลียน
๐๘:๔๐ Tinder ส่งฟีเจอร์ใหม่ Share My Date แชร์แผนการออกเดทในแอพฯ แบบเรียลไทม์ให้เพื่อน-ครอบครัว
๐๘:๐๘ เลี้ยงลูกตามใจ ไม่เคยขัดใจ เด็กอาจเสี่ยงเป็นฮ่องเต้ซินโดรม