ป.ป.ช. แนะพรรคการเมืองนำเกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย เป็นหลักการหาเสียงในช่วงเลือกตั้ง

ศุกร์ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๙ ๑๕:๐๕
นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา พลตำรวจเอกวัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ได้ลงนามในหนังสือนำส่งหลักเกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบายและคู่มือการใช้เกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย ถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้สำนักงาน กกต. นำไปใช้เป็นหลักเกณฑ์ที่จะให้พรรคการเมืองใช้เป็นกรอบในการพัฒนาและกำหนดนโยบายของพรรคเพื่อลดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย โดยให้พรรคการเมือง นำนโยบายของพรรคที่ใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ไปเทียบกับเกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย ในขั้นตอนการพัฒนานโยบาย เพื่อตรวจสอบว่านโยบายดังกล่าวมีความสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับหลักเกณฑ์นี้หรือไม่ และนอกจากนี้ขั้นตอนสำคัญอีกขั้นตอนที่พวกเราต้องจับตามองมากที่สุดคือขั้นตอนการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ที่หน่วยงานรัฐจะเป็นผู้ปฏิบัติตามเกณฑ์ในขั้นตอนนี้ ซึ่งจะเกิดขึ้นภายหลังจากที่ได้รับการเลือกตั้ง มีการจัดตั้งรัฐบาล และแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว

สำหรับเกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบายดังกล่าว แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ เกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย ในขั้นตอนการพัฒนานโยบาย กำหนดเป็นเกณฑ์ชี้วัดสำหรับการประเมิน 5 เกณฑ์ ได้แก่ 1. การแสดงความเชื่อมโยงกับแผนยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทตามยุทธศาสตร์ชาติ 2. การกำหนดวัตถุประสงค์ของนโยบาย 3. การประเมินความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย 4. มีกระบวนการวิเคราะห์ผลกระทบ ความคุ้มค่า ความเป็นไปได้ และความเสี่ยงของนโยบายด้วยการมีส่วนร่วมอย่างเป็นระบบ และ 5. การเสริมสร้างความโปร่งใสในการพัฒนานโยบายของพรรคการเมือง และเกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย ในขั้นตอนการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ กำหนดเป็นเกณฑ์ชี้วัดสำหรับการประเมินได้ 4 เกณฑ์ ได้แก่ 1. มีการเตรียมการประเมินความเสี่ยงต่อการทุจริตในขั้นก่อนการดำเนินการตามนโยบาย 2. มีการเตรียมการบริหารจัดการความเสี่ยงต่อการทุจริต และการติดตามการดำเนินการตามนโยบาย 3. มีการเตรียมการประเมินผลการบริหารจัดการความเสี่ยงต่อการทุจริต และ 4. มีการเตรียมการสร้างความโปร่งใสในขั้นการนำนโยบายสู่การปฏิบัติด้วยการสื่อสารการบริหารจัดการความเสี่ยงต่อการทุจริต และการสร้างการเฝ้าระวัง

เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตามปัจจัยสำคัญที่จะทำให้หลักเกณฑ์นี้ประสบความสำเร็จได้ คือเราจะต้องได้รับความร่วมมือจากองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและนำหลักเกณฑ์นี้ไปใช้ นอกจากนี้ ยังรวมถึงการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการเฝ้าระวัง มอนิเตอร์ความผิดปกติ โดยเฉพาะขั้นตอนการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ เรื่องเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญในการเข้าไปแก้ไขปัญหาในอนาคตด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.nacc.go.th/ewt_news.php?nid=22906&filename=index

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐:๕๙ ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ให้การต้อนรับอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ศรีปทุม
๒๐:๓๑ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่เพื่อติดตามความก้าวหน้าตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
๒๐:๕๒ Vertiv เปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์ไมโครโมดูลาร์รุ่นใหม่ที่มี AI ในเอเชีย
๒๐:๐๙ พิธีขึ้นเสาเอก เปิดไซต์ก่อสร้าง โครงการ แนชเชอแรล ภูเก็ต ไพรเวท พูลวิลล่า บ้านเดี่ยวบนทำเลทองใจกลางย่านเชิงทะเล
๒๐:๔๖ เขตบางพลัดประสาน รฟท.-กทพ. ปรับภูมิทัศน์ เพิ่มพื้นที่สีเขียวหน้าสถานีรถไฟบางบำหรุ
๒๐:๕๘ ร่วมแสดงความยินดีแก่อธิบดีกรมยุโรป ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์
๒๐:๐๓ กทม. เดินหน้าจัดกิจกรรมริมคลองโอ่งอ่าง ส่งเสริมอัตลักษณ์ กระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว
๒๐:๔๙ พาราไดซ์ พาร์ค ร่วมกับ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พาคุณไปสัมผัสการนวดเพื่อสุขภาพจาก 4 ภูมิภาคของไทย
๒๐:๒๔ Digital CEO รุ่นที่ 7 เรียนรู้เข้มข้นต่อเนื่อง จากวิทยากรชั้นนำของวงการ
๒๐:๒๔ เด็กไทย คว้ารางวัลระดับโลก โดรนไทย ชนะเลิศนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ทางด้านอากาศยานไร้คนขับ UAV ณ กรุงเจนีวา