นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า "ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปีที่ผ่านมา พบว่า ปัจจัย ที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ที่ไม่มีระเบียบวินัย ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุจราจรในเขตกรุงเทพมหานครในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปี 2561 พบว่า สาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด คือ การขับรถเร็วเกินกำหนด เนื่องจากในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พื้นที่กรุงเทพฯ จะมีการจราจรน้อยทำให้มีการขับขี่ด้วยความเร็วสูงกว่าปกติ โดยประเภทยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุแล้วมีผู้เสียชีวิตสูงสุด คือ รถจักรยานยนต์ ทั้งนี้กรุงเทพมหานครมีความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน จึงดำเนินมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุอย่างต่อเนื่องมาตลอด โดยเน้นไปที่สาเหตุหลักในการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาล ได้แก่ การขับรถเร็วเกินกำหนด เมาแล้วขับ การไม่สวมหมวกนิรภัย โดยเน้นการเฝ้าระวังเป็นพิเศษในเขตที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงในช่วงเทศกาลสงกรานต์
ที่ผ่านมา ทั้งนี้แผนปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2562 ของกรุงเทพมหานคร จะบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน ภายใต้หัวข้อหลักในการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน คือ ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร และเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการเดินทางทุกมิติ กรุงเทพมหานครจึงได้กำหนดมาตรการเพื่อลดปัจจัยเสี่ยง จำนวน 6 มาตรการ ได้แก่ มาตรการด้านคน มาตรการด้านถนนและสภาพแวดล้อม มาตรการด้านยานพาหนะ มาตรการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ มาตรการความปลอดภัยทางน้ำ และมาตรการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว โดยจะดำเนินการอย่างเข้มข้นในช่วงวันที่ 11-17 เมษายนนี้
ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล จะเป็นศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2562 กรุงเทพมหานคร นอกจากนี้จะจัดตั้งศูนย์ประสานการปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ของกรุงเทพมหานคร ตลอด 24 ชั่วโมง ณ สำนักการจราจรและขนส่ง มีการจัดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนบริเวณด่านประชาชื่น และจัดตั้งจุดบริการประชาชน 11 จุด ได้แก่ บริเวณหน้าชิค รีพัคบลิค กม. 4+800 ถ. เทพรัตน (บางนา-ตราด) เขตบางนา, บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท. กม. 12 ถนนพระราม 2 มุ่งหน้ามหาชัย จังหวัดสมุทรสาครฝั่งขาออก (11-14 เมษายน 2562) และบริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท. สาขาแสมดำ ถนนพระราม 2 ฝั่งขาเข้า (15-17 เมษายน 2562) เขตบางขุนเทียน, บริเวณปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ ถนนบรมราชชนนี (ขาออก) ทางคู่ขนานด้านใน (11-14 เมษายน 2562) บริเวณถนนบรมราชชนนี (ขาเข้า) ต่างระดับพุทธมณฑล สาย3 (15-17 เมษายน 2562) เขตทวีวัฒนา, บริเวณใต้สะพานรถข้ามแยกมหานคร-ถนนเชื่อมสัมพันธ์ เขตหนองจอก, สถานีรถไฟดอนเมือง ถนนวิภาวดีรังสิต (ขาออก) เขตดอนเมือง, บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองแขม ถนนเพชรเกษม ฝั่งขาออก ซอยเพชรเกษม 79 เขตหนองแขม, บริเวณหน้าสำนักงานเขตลาดกระบัง ถนนลาดกระบัง เขตลาดกระบัง, บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (สายใต้ใหม่ – ตลิ่งชัน) เขตตลิ่งชัน, บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (สายใต้ปิ่นเกล้า) ถนนบรมราชชนนี เขตบางกอกน้อย, บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (เอกมัย) เขตคลองเตย, และบริเวณสถานีขนส่งหมอชิต เขตจตุจักร
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร จะตรวจสอบป้ายเครื่องหมายจราจรและอุปกรณ์สัญญาณไฟจราจรให้มีความสมบูรณ์พร้อมใช้งาน ปรับปรุงกายภาพถนนและจุดเสี่ยง ติดตั้งป้ายเตือนระวังอุบัติเหตุบริเวณจุดที่เกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตในช่วงเทศกาล
ที่ผ่านมา อีกทั้งเตรียมความพร้อมกล้องวงจรปิด ระบบการบริการการแพทย์ฉุกเฉิน บุคลากร เครื่องมือและอุปกรณ์ ช่วยเหลือฉุกเฉินกรณีเกิดอุบัติเหตุ
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานคร ยังดำเนินกิจกรรมการสื่อสารรณรงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ ปลูกจิตสำนึก ค่านิยม วัฒนธรรมความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนให้กับประชาชน โดยในปีนี้ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการจราจรและขนส่ง ร่วมกับองค์กรไวทัล สแตรทีจีส์ ภายใต้โครงการความคิดริเริ่มเพื่อความปลอดภัยทางถนนทั่วโลก มูลนิธิบลูมเบิร์กเพื่อสาธารณประโยชน์ จัดทำสื่อรณรงค์การลดความเร็วในการขับขี่ ในรูปแบบภาพพร้อมข้อความ และรูปแบบคลิปวิดีโอ ภายใต้สโลแกน "ยิ่งขับเร็ว ยิ่งเพิ่มความสูญเสีย" เพื่อเผยแพร่ในงานแถลงข่าวรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562 ของกรุงเทพมหานคร รวมถึงเผยแพร่ในช่องทางสื่อต่าง ๆ ของกรุงเทพมหานคร สื่อของกองบัญชาการตำรวจนครบาล รวมถึงสื่อทางโทรทัศน์และวิทยุ โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ในฐานะพันธมิตรเผยแพร่สื่อ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสื่อสารกับสาธารณชนด้วยสื่อที่เข้าใจง่าย เพื่อให้ภาพและข้อความที่สื่อสารผ่านสื่อรณรงค์นี้ เป็นภาพจำเพื่อกระตุ้นเตือนผู้ขับขี่ให้ลดความเร็วและนำไปสู่พฤติกรรมการขับขี่ที่ปลอดภัย
ทั้งนี้ ด้วยกิจกรรมการรณรงค์ของทางกรุงเทพมหานครและความร่วมมือจากทางตำรวจที่จะดำเนินงานอย่างจริงจังต่อการควบคุมความเร็วและการป้องกันอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวมถึงความร่วมมือของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนในการขับขี่ด้วยความเร็วที่เหมาะสม ไม่บริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ก่อนหรือขณะขับขี่ และมีวินัยในการสวมหมวกนิรภัย จะช่วยลดการบาดเจ็บที่รุนแรงและเสียชีวิตได้อย่างแท้จริง